ร่มไม้ชายศาล
"ไม่รู้ว่าโดนมัด"
โลกทุกวันนี้ทำท่าจะอยู่ยาก ทำท่าจะล่มสลายลงได้ทุกเมื่อ เพราะอิทธิพลของ "เงินตรา" เสียแล้วล่ะครับพี่น้อง เพราะทุกกรณีที่มีปัญหาล้วนมาจากเรื่องเงินทั้งสิ้น การมงการเมืองในบ้านเรา ซึ่งกลายเป็นประเทศที่ยุ่งยิ่งกว่าฝอยขัดหม้อจนสางไม่ออก มาจากเรื่องเงินทั้งนั้น เงินเป็นโจทก์ในทุกเรื่อง และสิ่งหนึ่งที่พูดแล้วคนไทยเฉยชาไม่รู้สึกเดือดร้อนก็คือการ "คอร์รัพชัน"
กลายเป็นประเทศที่ประชาชนมองว่า ขอให้ใครก็ได้ โจรก็ได้ หยิบยื่นเศษเงินให้บ้าง เขาจะคอร์รัพชันขนาดไหน ไม่แคร์ ไม่สนใจทั้งสิ้น เป็นถึงขนาดนี้จริงๆ ก็น่าจะเป็นอยู่หรอกเมื่อชาวบ้านยังแห่ไปขัดถูหิน ขัดถูตอไม้ ขอหวยกันเป็นพรวน หรือไม่ก็คลั่งของขลังที่มีใครบอกว่าทำให้ร่ำรวย ชนิดมืดฟ้ามัวดิน
นักการเมืองที่เข้ามาป่วนตั้งแต่ใช้รัฐธรรมนูญปี 2540 รู้จุดอ่อนของประเทศไทยในข้อนี้จึงใช้เงินตราเข้ามาบงการ จนคนในชาติที่ค่อนข้างยากจนเสียเป็นส่วนใหญ่ และอยู่อย่างชนิดที่เรียกว่า "รอสิ่งดลบันดาล" ดังเช่นที่พระคุณเจ้าพระธรรมปิฎกท่านตั้งข้อสังเกตไว้ ไม่ได้มุมานะในอันที่จะพึ่งพาตนเอง แม้กระทั่งผู้ที่อ้างว่ามีความรู้ระดับต่างๆจนถึงดอกเตอร์ ต่างพากันโลดเต้นไปตามแรงบงการของเงินตราอย่างสุดลิ่มทิ่มประตูบ้านเมืองจะปั่นป่วนซวนเซอย่างไร จะล่มจมหรือไม่ ไม่มีใครสนใจ
ทุกวันนี้ไม่ว่าใคร หรือคณะไหนมาบริหารบ้านเมืองก็ตาม สิ่งที่น่ากลัวน่าสยดสยองอีกอย่างคือ "สื่อมวลชน" เขาทำตัวเป็นผู้แสนรู้ เป็นเทวดา บงการสับโขกอย่างเสรีตลอดเวลา ปานประหนึ่งโดนรุมด้วยฝูงแมลงวันหรือยุง จนไม่เป็นอันทำงานทำการ หนักหนาสาหัสครับประเทศไทย ท่านว่าไหม เอ่ยถึงเรื่องเงินมาแล้ว ขอนำคดีที่เกี่ยวข้องกับเรื่องเงิน และกับครอบครัวมานำเสนอซะเลย
เรื่องของเรื่องเกิดจากการที่ "นางเพียบพร้อม" แต่ไม่พร้อมเรื่องเงินทองเหมือนชื่อ อยู่ในข่ายต้องพึ่งพาคนอื่นที่เขาหากินทางรีดดอกเบี้ย จึงแถไปกู้ยืมเงินจาก "นายขยันมาก" ที่แกมีเงินเก็บ ปรากฏว่ากู้ได้ แต่หาเงินไปชำระหนี้ไม่ได้ ดอกเบี้ยก็พอกพูนขึ้น ในที่สุด นางเพียบพร้อมโดนฟ้อง ศาลตัดสินคดีถึงที่สุดให้ นางเพียบพร้อม ชำระหนี้ 6 แสนบาท พร้อมดอกเบี้ย
ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย ตามระเบียบ นายขยันมาก จึงลงดาบร้องขอให้ศาลยึดบ้านและที่ดินขายทอดตลาด เอาเงินมาชำระหนี้ของตน นางเพียบพร้อม ได้แต่นั่งทำตาปริบๆ แต่คนที่โดดออกมาขวาง คือ "นายร่ำรวยเสมอ" สามีของ นางเพียบพร้อม ซึ่งแยกที่แยกทางอยู่กันคนละแห่งกับ นางเพียบพร้อม นานแล้ว
นายร่ำรวยเสมอ ซึ่งมุ่งเรื่องรวยลูกเดียวแบบคนไทยในเพลานี้ ยื่นคำร้องไปที่ศาล อ้างว่าทรัพย์สินที่ยึดมาในคดีนี้มีสภาพเป็นสินสมรส นางเพียบพร้อม ก่อหนี้ขึ้นตามลำพังไม่ได้นำเงินมาใช้ในระหว่างตนกับ นางเพียบพร้อม นายร่ำรวยเสมอ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับหนี้สินที่เกิดขึ้น ถ้าจะมีการขายทอดตลาดจริงๆ เมื่อได้เงินมาต้องกันส่วนไว้ให้นายร่ำรวยเสมอ กึ่งหนึ่ง เจ้าหนี้จะเอาไปทั้งหมดไม่ได้หรอก
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว สั่งยกคำร้องของ นายร่ำรวยเสมอ แบบไม่ไยดี
นายร่ำรวยเสมอ ไม่ยอมแพ้ เพราะบ้านและที่ดินราคาเยอะ อยู่ในเมืองกรุงก็จริงแต่ไม่ได้อยู่ในโซนที่โจรมีอำนาจเบ็ดเสร็จ ตำรวจไม่สนใจดูแล เข้าไปงัดแงะลักขโมยเวลาไหนก็ได้ ดังที่เป็นอยู่ในขณะนี้และน่าอนาถ จึงยื่นอุทธรณ์เพื่อให้ได้เงินส่วนของตนแต่ไม่เป็นผล
ศาลอุทธรณ์พิจารณาแล้ว พิพากษายืน
เรื่องดำเนินไปถึงศาลฎีกา เพราะการดิ้นรนของ นายร่ำรวยเสมอ ดังเช่น คดีทั้งหลายทั้งปวงที่เกิดขึ้นมากมายเหลือคณาในประเทศไทยยามนี้ แม้กระทั่งคดีนักการเมืองเป็นกระตั๊กศาลฎีกาเหล่ดูอย่างละเหี่ยแล้วชี้ออกมาว่า
นางเพียบพร้อม กู้ยืมเงิน นายขยันมาก ระหว่างที่ นางเพียบพร้อม กับ นายร่ำรวยเสมอเป็นสามีภริยากันตามกฎหมาย หนี้ที่เกิดขึ้นจึงเป็นหนี้ที่ นางเพียบพร้อม ก่อขึ้นระหว่างสมรสแม้ในขณะที่ นางเพียบพร้อม ไปกู้ยืมเงิน นายร่ำรวย จะมิได้ร่วมอยู่ด้วย และไม่ปรากฏว่านางเพียบพร้อม นำเงินกู้ไปใช้ในกิจการใดก็ตามแต่ จุดตายที่เกิดกับ นายร่ำรวยเสมอ คือการขับรถยนต์พา นางเพียบพร้อม ไปที่บ้าน นายขยันมาก หลายครั้ง การที่ นายร่ำรวยเสมอทำอย่างนี้ และการที่ นายร่ำรวยเสมอ ออกปาก พูดจาขอผัดผ่อนการชำระหนี้เงินกู้เมื่อนายขยันมาก ทวงถาม ตามพฤติการณ์ศาลเชื่อว่า นายร่ำรวยเสมอ ร่วมรู้เห็นและยินยอมให้อดีตเมียกู้ยืม ถือได้ว่า นายร่ำรวยเสมอ ให้สัตยาบันหนี้นั้นแล้ว จึงเป็นหนี้ร่วมตามกฎหมายแพ่ง ฯ มาตรา 1490 (4) นายร่ำรวยเสมอ ต้องร่วมรับผิดกับ นางเพียบพร้อมชำระหนี้ให้ นายขยันมาก ไม่มีสิทธิขอให้กันส่วนเงินที่ได้จากการขายทอดชัวร์
ศาลฎีกาจึงพิพากษายืน
คดีนี้ไม่เกี่ยวกับคดีรถโดยตรง แต่มีรถมาเกี่ยวข้องจนได้ นายร่ำรวยเสมอ ดิ้นไม่หลุดจากการร่วมรับผิดชอบเรื่องหนี้สินกับอดีตภรรยา เพราะไม่ได้แบ่งแยกสินสมรสซะก่อนตอนที่มีการหย่า
ที่สำคัญ คือ ตอนไปกู้ยืมเงิน นายร่ำรวยเสมอ ดันขับรถยนต์นำพา นางเพียบพร้อมไปเอง แถมยังทำหน้าที่ขอผัดผ่อนหนี้เข้าไปด้วย แน่นอน นายร่ำรวยเสมอ คงไม่นึกรู้ว่านี่คือ แง่มุมที่มัดตัว นายร่ำรวยเสมอ และทำให้จนเสมอได้เหมือนกัน ท่านรู้ไว้ไม่เสียหลายจริงไหมครับ
จากคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2955/2548
เรื่องโดย : "จอมยุทธ"
นิตยสาร 399 ฉบับเดือน มิถุนายน ปี 2550
คอลัมน์ Online : ร่มไม้ชายศาล
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/53221