โลกติดล้อ
แจกวาร์ ปรับตัวครั้งใหญ่
มีเจ้าของรถ แจกวาร์ อย่างน้อยก็ 2 คน ที่ผู้เขียนรู้จัก เป็นเจ้าของกิจการ และก็ค่อนข้างจะรักงานศิลปะทั้งคู่ คนหนึ่งเป็นเจ้าของบริษัทโฆษณา ส่วนอีกคนเป็นเจ้าพ่อสิ่งพิมพ์ ดูเหมือนเคยได้ยินคนหนึ่งบ่นว่า แจกวาร์ ไม่เหมาะจะขับวนขึ้นที่จอดรถ ที่ค่อนข้างคับแคบเอาเสียเลย แต่ก็ไม่เป็นไร รักเสียอย่างแม้ขับไม่ค่อยคล่องแคล่ว แต่ก็ไม่ขาย
แจกวาร์ ณ วันนี้ต้องเข้าไปอยู่ซุกปีกบริษัทรถยนต์ใหญ่อันดับ 2 ของสหรัฐอเมริกา อย่าง ฟอร์ดมอเตอร์ และกำลังจะต้องเปลี่ยนวิธีคิดใหม่ เรื่องการออกแบบ แจกวาร์ ในรุ่นต่อไป ซึ่งจะต้องเรียกได้ว่าเป็นคนรุ่นใหม่ ช่วงฤดูร้อนที่จะถึงนี้คนรัก แจกวาร์ จะได้ยลโฉม แจกวาร์ เอกซ์เค คูเป โรดสเตอร์สุดแสนจะเซกซี ต่อจากนั้นรุ่น เอส ลักชัวรี ซีดาน โมเดลปี 2008 กับรุ่น เอกซ์เจ ซึ่งเป็นซีดานรุ่นเรือธงของปี 2010 ก็จะตามมา รุ่น เอกซ์เจ นี้จะเห็นความเปลี่ยนแปลงของกระจังหน้าอย่างชัดเจน ในขณะที่รุ่น เอกซ์เค ยังเก็บกระจัง อี-ไทพ์ ของปี 1960 เอาไว้ รุ่น เอกซ์เจ จะเก็บหมุดย้ำอลูมินัมตรงบอดีดีไซจ์น ส่วนล่างแบบดั้งเดิม แต่ช่วงบนทั้งภายนอก/ใน ออกแบบใหม่
แต่ไหนแต่ไรมา คนขับ แจกวาร์ ต้องเป็นคนมีอายุสักหน่อย หนุ่มน้อยไม่มีใครขับ แต่หลักการตลาดนั้นต้องทำสินค้าให้ต้องตาคนหนุ่ม ถึงจะมีชีวิตยืนนาน และขายได้ในระยะยาว เพราะคนรุ่นเก่าเดี๋ยวก็หมดไป ดังนั้นทั้ง แจกวาร์ เอส-ไทพ์ และ เอกซ์เจ จะมีสไตล์คูเป หนุ่มขึ้นเป็นเรื่องหลัก จะออกแบบให้เป็นไปตามทเรนด์ของรถรุ่นใหม่ๆ อย่าง เมร์เซเดส-เบนซ์ ซีเอสแอล หรือ มาเซราตี กวัตตโรโปร์เต หรือ โพร์เช พานาเมรา หรือ แอสตัน มาร์ติน ราพีด และคนที่ได้เห็นสเกทช์ดีไซจ์นของ เอกซ์เจ แล้ว บอกว่าดูทีรุ่นนี้จะเพรียวขึ้น และเตี้ย ลงหน่อย และดูเหมือนว่า แจกวาร์ จะยอมลดเนื้อที่นั่งผู้โดยสารด้านหลังเพื่อให้หลังคาต่ำแบบคูเป เด่นชัดขึ้น
ฟังแล้วก็นึกถึงตอนที่ ซีตรอง ก้าวเข้าสู่ยุคใหม่เมื่อเกือบ 20 ปีที่แล้ว คงมีความเป็น ซีตรอง อยู่ แต่ความขลังลดน้อยลง สมัยใหม่มากขึ้น เสียดายหน้าตาแบบเก่า แต่ก็เอาเถอะ ขอให้เหลือความทรงจำไว้เล็กน้อยก็ยังดี
ผู้ออกแบบ แจกวาร์ ใหม่ก็เช่นกัน ต้องจับความสง่างามตามแบบฉบับ แจกวาร์ ไว้ให้มั่น เมื่อจะออกแบบรุ่นใหม่ เหมือนดีไซจ์เนอร์ของห้องเสื้อชาแนลทุกคน จะต้องเคารพเส้นสายสง่างามของชาแนลไว้ให้มั่น ไม่ว่าจะเป็น คาร์ล ลาเกอเฟลด์ หรือใคร แล้วก็ออกแบบให้คงความเป็น ชาแนล อยู่ได้ จะเป็นชาแนลที่เปรี้ยว สดใส ก็ยังต้องโก้ ฉันใดก็ฉันนั้น
ถ้าไม่ผิด บุคลิกของคนรุ่นใหม่ในรถยนต์จะเห็นได้จากความเป็นคูเป นี่เอง ทำให้ผู้ออกแบบต้องพยายามปรับ แจกวาร์ ใหม่ให้คงเก็บความสง่าที่เป็นทเรดิชันไว้แล้วเติมความเป็นคูเปเข้าไป คนที่ยังรัก แจกวาร์ อยู่บางทีอาจเป็นคนเดิมนั่นแหละ แต่อยากจะดูหนุ่มขึ้น ก็หันมาซื้อ เรียกว่าได้ 2 ต่อ รุ่นเก่าก็ซื้อ รุ่นใหม่ก็ซื้อ
ฟอร์ด มอเตอร์ ซื้อกิจการ แจกวาร์ เมื่อปี 1989 ถามว่าซื้อทำไม คำตอบ ก็คือ ซื้อทเรดิชันความเป็นแจกวาร์ รถระดับบนที่ ฟอร์ด เองไม่มี เพื่อเอามาแข่งกับ เมร์เซเดส-เบนซ์/บีเอมดับเบิลยู หรือ เอาดีเมื่อซื้อมาแล้วก็ต้องพยายามสร้างกำไรให้ได้ แต่ที่ผ่านมา แจกวาร์ ยังปรับตัวไม่สำเร็จ สิ่งที่ ฟอร์ดต้องการ คือ การที่ แจกวาร์ จะขยับตัวลงล่างอีกนิด แต่ยังคงรักษาภาพลักษณ์ที่สูงไว้ แต่ปรับไม่สำเร็จ ทำให้ยอดผลิตในแต่ละปีของ แจกวาร์ ลดต่ำลงอย่างมาก เมื่อเทียบกับคู่แข่งสัญชาติยุโรป และญี่ปุ่น แต่ ฟอร์ด ซึ่งรวยเงินถุงเงินถังก็ยังเก็บ แจกวาร์ ไว้
แต่แล้วสถานการณ์ก็เริ่มเปลี่ยนไป เมื่อเดือนธันวาคมปี 2005 ที่ผ่านมา ฟอร์ด เอาเงินไปจมในบแรนด์แจกวาร์ ถึง 2.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนใหญ่ใช้ไปกับการวิจัยพัฒนารถรุ่นใหม่ๆ ที่ออกสู่ตลาดแล้วรวมทั้งรุ่นต่อๆ มาที่กำลังจะออกตลาดที่กล่าวถึงข้างต้น นั่นก็เพราะมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ชัดว่า แจกวาร์ ไม่ได้รับความนิยม เพราะดีไซจ์นล้าหลังไปแล้ว จริงหรือไม่ คงไม่ต้องเถียงกัน ดูจากยอดขายที่ตกไปถึง 32 % ตลอด 9 เดือนที่ผ่านมาของปี 2006 ก็รู้
ฟอร์ด ยังคงยืนยันว่าเก็บ แจกวาร์ ไว้ได้ ไม่ว่าจะมีใครถามนำอย่างไรว่าจะปลดภาระอันนี้หรือเปล่าแต่กระแสเสียงจากวงนอก คือ LEWIS BOOTH ประธาน ฟอร์ด ยุโรป และรองประธานกลุ่มบริษัท PREMIER AUTOMOTIVE GROUP บอกว่า ฟอร์ด หมดเงินไปถึง 1.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในแค่ 6 เดือนแรกของปี และคงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องเริ่มคุยกันว่าจะเอายังไงดี
อนาคตของ แจกวาร์ ฝากไว้กับผลงานในปีนี้ และอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ที่ แจกวาร์ ยังคงหากินกับโมเดลคลาสสิคที่เก็บไว้ตั้งแต่ปี 1922 และเอามาปรับใหม่ ไม่ว่าจะเป็นในรุ่น เอกซ์เค หรือ เอส-ไทพ์ หรือเอกซ์เจ จะต้องพิสูจน์กันว่า มันคงความเซกซีได้ใจผู้บริโภคไหม ขั้นตอนการผลิตก็เป็นเรื่องสำคัญ ถึงภาพสเกทช์จะดูดี แต่พอผลิตออกมาแล้ว ก็ต้องทำให้ได้ตามที่ดีไซจ์เนอร์คาดหมายไว้ ถ้าหากเป็นไปตามความฝัน แจกวาร์ ก็คงมีชีวิตยืนยาวต่อไปได้ ต้องลุ้นกันอีกที ไหนๆ ก็มีพ่อดี เงินหนาแบบ ฟอร์ด
พูดเรื่องดีไซจ์น ทำให้นึกเลยไปถึงยุคเรทโร ไม่ว่าจะในเฟอร์นิเจอร์ หรือผลิตภัณฑ์อะไร ตอนนี้ดูเชยไปแล้ว เอาเก็บไว้ดูเป็นของเล่นละก็ได้ แต่เอามาใช้จริงคงพ้นยุค เหมือนกับที่เราเห็นบ้านยุคเรทโรในกรุงเทพ ฯ หรือหัวเมืองใหญ่ ที่ดูเชย แม้ว่าจะมีเอกลักษณ์ แต่เห็นบ้านยุคใหม่ๆ ที่ออกแบบมาแบบมีนีมัลลิสต์ หรือ คอนเทมโพรารี เราก็จะรู้สึกว่าการใช้งานดีว่า การใช้เนื้อที่ว่างดูสวยงามกว่า
ดีไซจ์นรถก็เหมือนดีไซจ์นบ้าน หรือแฟชันนั่นแหละค่ะ ต้องยกระดับให้ทันกับความรู้สึกของผู้บริโภค
เรื่องโดย : เพ็ญศรี เผ่าเหลืองทอง
นิตยสาร 399 ฉบับเดือน ธันวาคม ปี 2549
คอลัมน์ Online : โลกติดล้อ
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/53045