เล่นท้ายเล่ม
อบายมุขกับคนไทย
ขณะนี้ คนไทยมีนายกรัฐมนตรีเป็นคนที่ 24 แต่มีคณะรัฐมนตรีเป็นชุดที่เท่าไร ก็จำไม่ได้ ในการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลแต่ละครั้ง ประชาชนก็จะได้รับผลกระทบทุกครั้ง เนื่องจากนโยบายของแต่ละรัฐบาลไม่เหมือนกัน
เวลานี้ คนไทยได้พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 24 และเป็นนายกรัฐมนตรีที่มิได้มาจากการเลือกตั้ง และมีคณะรัฐมนตรีอีก 26 ท่าน ด้วยกัน รวมทั้ง นายแพทย์มงคล ณ สงขลา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
รัฐมนตรีทั้ง 26 ท่าน ก็เป็นรัฐมนตรีที่มิได้มาจากการเลือกตั้งเช่นเดียวกัน
เมื่อฟอร์มคณะรัฐบาลได้สำเร็จ รัฐมนตรีก็เริ่มทำงาน เริ่มมีความเห็นในการบริหารราชการแผ่นดินเข้าไปสู่โต๊ะประชุมคณะรัฐมนตรี
ซึ่งก็เป็นคุณหมอมงคล แห่งกระทรวงสาธารณสุขคนนี้แหละ เสนอผลงานเป็นที่เอิกเกริกชาวบ้านถึง 2เรื่อง
เรื่องแรกท่านเห็นว่า โครงการรัฐบาลเดิม 30 บาท รักษาทุกโรค ควรยกเลิกการเก็บเงิน 30 บาทเสีย แต่ให้คงโครงการประกันสุขภาพถ้วนหน้าเอาไว้ โดยไม่จำเป็นต้องเสียเงิน 30 บาท เพื่อทำบัตรทอง
เหตุผลของท่าน ก็คือ ท่านเห็นว่าการเสียเงิน 30 บาท เป็นโครงการหาเสียงมากกว่า ฉะนั้นก็รักษาฟรีกันไปเลย ซ้ำยังจะของบประมาณแผ่นดินมาปรับปรุงการบริการ 30 บาท หมายเลขโทรศัพท์ 1330 CALL CENTER ให้เป็นที่สบอารมณ์คนจน
ความคิดของท่านในเรื่องนี้ ได้รับการตอบรับที่ดี เพราะของแจกฟรีใครๆ ก็นิยม ทั้งรากหญ้า และรากแก้ว
อีกเรื่องหนึ่ง ท่านก็มีความคิด ควรห้ามโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกรูปแบบ ทุกสื่อ เพราะท่านเห็นว่า คนไทยเวลานี้ดื่มเหล้ากันเป็นจำนวนมาก สร้างสถิติขี้เมา เป็นขี้เมาอันดับ 10 ของโลก
โดยเฉพาะสันดานการดื่มเหล้าได้แพร่เข้าไปหาเด็ก และเยาวชนแห่งชาติ อย่างรวดเร็ว และกระจายเป็นบริเวณกว้าง หากไม่ทำอะไรไปบ้างแล้ว อนาคตคนไทยก็จะขี้เมากันทั้งเมือง
ความคิดของคุณหมอมงคลในเรื่องนี้ ได้รับการตอบรับทั้งเห็นด้วย และไม่เห็นด้วย โดยคนที่ไม่เห็นด้วยก็เห็นว่า การที่คนเราดื่มเหล้านั้นไม่น่าจะเป็นการได้รับอิทธิพลมาจากการโฆษณา เพราะการโฆษณาเหล้าส่วนใหญ่แล้วก็เป็นการโฆษณาเหล้ารุ่นใหม่
สุรา เป็นอบายมุข 1 ใน 4 อย่าง ที่ประกอบด้วย สุรา นารี พาชี กีฬาบัตร ก็เห็นสอนกันมาแต่โบราณกาล จะเป็นระหว่างพุทธกาล หรือหลังพุทธกาล ก็ยืนยันไม่ได้
การที่ยอดคนไทย ดื่มเหล้าสูงขึ้น ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะคนไทยมีจำนวนมากขึ้น แต่ก่อนนี้ คนไทยมี 20 ล้านคน ก็มี เบียร์ตราสิงห์ มีสุรา "แม่โขง" ซึ่งผมยังจำภาพโฆษณาได้เป็นรูปวาดคนหัวล้านอยู่ใต้ต้นมะพร้าวริมทะเล
ผมหรือคนไทยอย่างผมไม่ได้เริ่มกิน "แม่โขง" เพราะเห็นภาพคนหัวล้าน แต่กินเหล้าเพราะอยากกินเหตุที่อยากกินมีหลายอย่าง แต่อย่างที่สำคัญ และมีส่วนยั่วยุให้อยากลอง ให้อยากรู้จริงๆ น่าจะเป็นเพราะคำว่า "เพื่อน" คำเดียว
ผมมากินเหล้ากินเบียร์ตอนที่เรียนธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ เพราะเพื่อนร่วมกำแพงชราด้วยกันมันกินกันทุกวัน ทุกโอกาส ลงเรือไปเที่ยวก็กิน อยู่ในมหาวิทยาลัยก็ยังกิน ผมมองดูแล้วก็ต้องถามตัวเองว่า
"มันกินได้ แล้วทำไมกูกินมั่งไม่ได้วะ ?"
เด็กและเยาวชนแห่งชาติที่เพิ่มจำนวนมากขึ้น สำหรับสถิติคนติดเหล้านั้น ผมก็คิดว่ามาจากเพื่อน และพวกพ้อง มาจากโอกาสที่ร่วมก๊วน ร่วมหัวลงท้ายด้วยกัน มีงานหรือไม่มีงาน ก็กินเหล้า
กินเสร็จแล้ว ถ้ามีเรื่องชกต่อยกัน ก็ต้องหาเพื่อนที่ร่างกายใหญ่โต ชกเก่ง เตะเก่ง ให้มันยืนแถวหน้า
ชกต่อยเสร็จแล้วก็กลับไปกินเหล้าต่ออีก จนกว่าจะหลับคาโต๊ะหรือแยกย้ายกลับบ้านนอน
คนที่กินเหล้า ย่อมมีลักษณะแตกต่างไปจากเวลาที่เหล้ายังไม่ถึงปาก เป็นลักษณะ หรือสันดานของแต่ละคนที่ไม่เหมือนกัน บางคนกินเหล้าแล้วก็ชอบอาละวาด ชกต่อยผู้คน บางคนก็ชกต่อยเมียของตัวเองบางคนกินแล้วก็จะหลับท่าเดียว
ไม่เห็นมีใครคิดถึงว่า เหล้าเป็นอบายมุข 1 ใน 4 ตามที่สอน ไม่เห็นมีใครพิจารณาตัวเองว่าการกินเหล้านั้นเป็นคนโง่ หรือคนฉลาด ไม่มีใครยอมเสียเวลาตรวจสอบดูความดีความชั่ว แล้วก็เลี้ยวตรงไปหาเรื่องบาปกับบุญ
เพราะคนไทยแต่ก่อนแต่ไรมา ก็เป็นแบบนี้ เหล้าบนแผ่นดินไทยก็มีมานานแสนนาน มาก่อนที่เมืองไทยจะมีนายกรัฐมนตรีคนที่ 1 เสียอีก
ความคิดที่จะเสนอ ห้ามการโฆษณาเหล้าทุกรูปแบบ ทุกสื่อ จึงเป็นหัวข้อที่คนไทยหลายคนต้องเก็บมาพูดถึง ผมเองก็เห็นเป็นเรื่องแปลกประหลาดเรื่องหนึ่งที่เห็นว่า คุณหมอมงคล เจ้าของกระทรวงสาธารณสุขเป็นเจ้าภาพ ชงเรื่องนี้ขึ้นมาให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาออกพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ที่เห็นว่าประหลาด ก็เพราะปกติธรรมดา กระทรวงสาธารณสุข น่าจะเกี่ยวข้องกับสุขภาพพลานามัยของคนในประเทศ ดูแลเรื่องการเจ็บไข้ได้ป่วย และการบำบัดรักษา ไม่น่าจะต้องเดือดร้อนถึงกับมีความคิดห้ามโฆษณาเหล้า
ผมเห็นว่ากระทรวงที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับเรื่องนี้ เป็นผู้พิจารณาความคิดนี้ น่าจะเป็นกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เนื่องจากการที่เราไม่ต้องการเห็นคนไทยเป็นขี้เมา ก็เพราะเราอยากจะเห็นสังคมไทยที่ดีขึ้นสำหรับวันพรุ่งนี้
เพราะฉะนั้น ใครควรทำอย่างไรเพื่อความคิดใหม่ และทำใหม่ ของคนในสังคมไทยเกิดขึ้น ซึ่งใครคนนั้นก็ไม่น่าเป็นเจ้ากระทรวงหมอ
คนไทยกับสุรายาดองเป็นของคู่กัน เหมือนกับคนในหลายๆ ประเทศ ที่ชอบกินเหล้า ถ้าห้ามโฆษณาทุกรูปแบบ ทุกสื่อ ต่อไปก็ต้องห้ามหนังที่มีพระเอก นางเอก หรือผู้ร้ายกินเหล้า และก็คงไม่ได้ดูหนังฝรั่งกันอาน เพราะหนังฝรั่งทุกเรื่องมันกินเหล้ากันทุกเรื่อง และกินกันเหมือนกินน้ำขวด
แถมยังกินเพียว ๆ ไม่เติมโซดา หรือ "โค้ก"
ระหว่างสุรากับบุหรี่ อันเป็นอบายมุขที่รัฐบาลทุกรัฐบาลดำเนินการต่อสู้มานั้น มีผู้รู้ให้ความเห็นว่า พิษภัยของเหล้ากับบุหรี่ ถ้าจะเอามาเปรียบเทียบกันแล้ว บุหรี่เป็นภัยหนักกว่าเหล้า
เพราะเห็นว่าบุหรี่ คือ การอัดพิษภัยลงไปในร่างกายล้วนๆ เต็มๆ โดยไม่มีสิ่งใดเจือปน แต่การกินเหล้ายังเติมน้ำ เติมโซดา เติมน้ำอัดลม แล้วก็ยังมีกับแกล้มลงไปในร่างกาย ช่วยบรรเทาความแรงของสุรายาดอง
เหตุผลเรื่องนี้ เป็นเหตุผลระหว่างคนสูบบุหรี่กับคนกินเหล้า ถือเป็นมติโลกไม่ได้
คนสูบบุหรี่มักโฆษณาว่าสูบแล้วดี 2 เท่า...เอ๊ย..ดี 2 อย่าง คือ 1. ขโมยไม่ขึ้นบ้าน และ 2. ผมไม่มีวันหงอก แล้วก็อธิบายต่อมาว่า เหตุขโมยไม่ขึ้นบ้านเพราะคนสูบบุหรี่จะกระไอกระแอมทั้งคืน ขโมยก็คิดว่าเจ้าบ้านยังไม่หลับ ทีมเยือนก็ต้องถอยไปก่อน
ส่วนที่บอกว่าผมไม่มีวันหงอก ก็เพราะมันชิงตายก่อนวัยครับ
รัฐบาลของคนไทยรัฐบาลหนึ่งคล้ายกับรัฐบาลวันนี้ คือ รัฐบาลสมัยจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ เป็นนายกรัฐมนตรี ท่านสามารถแก้ปัญหาของชาติไปได้หลายสิ่งหลายประการ ตั้งแต่ปราบการลอบวางเพลิงก่อนตรุษจีน จนถึงปราบนักเลงหัวไม้เข้าคุกลาดยาวเป็นขบวน และท่านก็ยอมรับว่า เมืองไทยทำไม่ได้อยู่ 2 อย่าง ทั้ง บ่อนการพนัน และโสเภณี
รัฐบาลไม่ว่าจะมาจากการเลือกตั้ง หรือการแต่งตั้ง ควรรับฟังเสียงประชาชน การแก้ปัญหา ควรแก้ให้ถูกจุด มิฉะนั้นก็จะเข้าตำรา
"ตาบอดคลำช้าง"
บรรเจิด ทวี
เรื่องโดย : บรรเจิด ทวี
นิตยสาร 399 ฉบับเดือน พฤศจิกายน ปี 2549
คอลัมน์ Online : เล่นท้ายเล่ม
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/53035