รู้ลึกเรื่องรถ
ชีวิตของคนไทยราคาเท่าไร ?
ชื่อเรื่องอาจจะกินความหมายกว้างมากครับ ในที่นี้ผมขอจำกัดให้เป็นเรื่องความปลอดภัยของพวกเราผู้ใช้รถเท่านั้น ซึ่งก็อาจจะยังกว้างเกินไปอยู่ดี เพราะมันกินความหมายไปถึงอันตรายที่อาจเกิดจากคุณภาพของถนนหนทางด้วย ก็เลยต้องขอจำกัดไว้เฉพาะส่วนที่เกี่ยวกับเทคนิคของระบบห้ามล้อ หรือระบบเบรคของรถที่พวกเราขับกันอยู่เท่านั้น
ผู้ใช้รถอย่างพวกเรา ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่สนใจเทคนิครถยนต์หรือไม่ก็ตาม ล้วนเข้าใจจากประสบการณ์และจากสามัญสำนึก ว่าระบบเบรคมีความหมายต่อชีวิตจริงๆ จากการสอบถามและจากการสนทนากับผู้ใช้รถจำนวนมาก ทำให้ผมได้ทราบว่าทุกคนเข้าใจความสำคัญของระบบเบรค สมรรถนะด้านการเบรคของรถเป็นอย่างดี ว่ามันเกี่ยวกับความปลอดภัยของชีวิตโดยตรง แต่ปัญหาของผู้ใช้รถจำนวนมากก็คือ การไม่ทราบระดับมาตรฐานของการเบรค มาตรฐานของผลิตภัณฑ์ในระบบเบรค หลายรายเชื่อว่าสมรรถนะในการเบรคของรถที่ใช้อยู่นั้นดีพอแล้ว ทั้งๆ ที่ยังต่ำกว่ามาตรฐานมาก เพราะไม่เคยมีโอกาสเปรียบเทียบ
ถ้าเราถือว่าระบบเบรคในรถของเรา ถูกออกแบบและผลิตมาอย่างถูกต้องแล้ว ก็จะเหลืออยู่เพียงสิ่งเดียว ที่ผู้ใช้รถสามารถเลือกความแตกต่างได้ นั่นคือ ผ้าเบรคครับ ถ้าเจ้าของรถไม่ได้เป็นผู้สนใจเทคนิครถยนต์ วิธีเดียวที่จะได้สมรรถนะการเบรคในระดับมาตรฐาน ก็คือ การให้ศูนย์บริการอย่างเป็นทางการ เป็นผู้เปลี่ยนผ้าเบรคให้ จึงจะได้ผ้าเบรคคุณภาพตามมาตรฐานของผู้ผลิตรถรุ่นนั้น มันอาจจะไม่ใช่ผ้าเบรคที่ดีที่สุดสำหรับรถของเรา แต่เป็นผ้าเบรคที่ดีพอและปลอดภัยเพียงพอ ตามระดับคุณภาพของรถรุ่นนั้น แน่นอนว่าคุณภาพและต้นทุนผลิตของผลิตภัณฑ์ต่างๆ นั้น มีความสัมพันธ์กันอยู่ ผู้ผลิตรถยนต์ไม่ได้ให้สิ่งที่ดีที่สุดแก่ลูกค้าอยู่แล้ว แต่ให้สิ่งที่ดีพอแก่ลูกค้า ในราคาต้นทุนที่ไม่สูงเกินไปสำหรับผู้ผลิตรถ เมื่อคำนึงถึงความสามารถในการแข่งขันกับคู่แข่งในเรื่องของราคารถ
สำหรับรถสมรรถนะสูง หรือรถหรูหราแล้ว สัดส่วนต้นทุนของผ้าเบรค ต่อต้นทุนของรถทั้งคัน อยู่ในระดับต่ำ ในขณะที่อัตราส่วนนี้ ของรถเล็กราคาไม่สูงนัก ยังมีค่าสูงอยู่ เพราะฉะนั้น ผ้าเบรคมาตรฐานที่ติดตั้งมาโดยผู้ผลิตรถสมรรถนะสูง จึงเป็นผ้าเบรคที่คุณภาพสูงมาก บางรุ่นก็อาจจะกล่าวได้ว่าคุณภาพสูงสุด โอกาสที่ผู้ใช้จะเปลี่ยนไปใช้ผ้าเบรครุ่นอื่น ที่สมรรถนะโดยรวมทุกด้าน ดีกว่ารุ่นที่ "ติดรถมา" นั้นจึงแทบจะไม่มีเลย ตรงกันข้ามกับผ้าเบรคของรถเล็กที่ราคาไม่สูงนัก เจ้าของรถสามารถ "ปรับปรุง" เพิ่มสมรรถนะการเบรคของรถได้ โดยการเลือกใช้ผ้าเบรคคุณภาพสูงกว่า ถ้าใช้รถระดับนี้อยู่ อย่าเพิ่งดีใจว่าเป็นข่าวดีนะครับ ผมบอกได้เลยว่า ผ้าเบรคสำหรับรถระดับนี้ ที่มีให้เลือกใช้กันในท้องตลาดและราคาถูกกว่าผ้าเบรคตามมาตรฐานของผู้ผลิตรถนั้น ส่วนใหญ่แล้วคุณภาพก็ต่ำกว่าเหมือนกับราคาครับ ถ้าไม่ใช่เจ้าของรถที่มีเวลามีความสนใจศึกษาหาความรู้เรื่องผ้าเบรคในท้องตลาดแล้วละก็เจาะจงใช้ของ "ของแท้" สำหรับรถของเรา จะปลอดภัยกว่าครับ
เพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้น ผมจะยกตัวอย่างคุณสมบัติที่ผ้าเบรคดีต้องมี เอาเฉพาะที่สำคัญ ไม่ต้องให้ครบถ้วน และไม่เรียงลำดับความสำคัญ เพื่อให้พอเห็นภาพพจน์ว่า ผ้าเบรคที่ดีนั้น "ทำ" ยากเพียงใดผมขอใช้ภาษาที่ไม่ใช่แบบวิชาการ เพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้น
1. ต้องเบรคอยู่ ให้ความรู้สึกดี ตั้งแต่ผ้าเบรคและจานเบรคยังไม่ร้อน2. ต้องเบรคอยู่ ให้ความรู้สึกดี ตอนผ้าเบรคและจานเบรค ร้อนในระดับใช้งานปกติ เช่น เบรคบ่อยๆ ในเมือง 3. ต้องเบรคอยู่ ให้ความรู้สึกดี ตอนผ้าเบรคและจานเบรค-ร้อนจัด เช่น เมื่อเบรคอย่างแรงจากความเร็วสูงมากจนรถหยุด หรือเมื่อเบรคต่อเนื่อง เป็นเวลานาน มีเวลาพักแค่ช่วงสั้นๆ เช่น เมื่อขับลงเขา 4. ต้องไม่สึกเร็ว แบบนี้กินเงินเราจนกระเป๋าฉีกครับ 5. ต้องไม่ "กัด" จานเบรคสึกเร็ว แบบนี้ก็กระเป๋าฉีกพอๆ กัน6. ต้องเบรคอยู่เมื่อจานเบรคและผ้าเบรคชื้นหรือเปียก เช่น ขับทางไกลตอนฝนตกเป็นเวลานานพอสมควร แล้วต้องเบรคฉุกเฉิน 7. ต้องไม่มีเสียงดังรบกวนขณะเบรค ซึ่งทั้งแบบเสียงต่ำและเสียงสูง ถือว่าใช้ไม่ได้ทั้งนั้นครับ8. เนื้อผ้าเบรคต้องไม่หลุดล่อนออกจากแผ่นเหล็กหลังผ้าเบรค ข้อนี้ใครสอบตกอันตรายมากครับ เกิดขึ้นยากครับ ใครเจอต้องถือว่าโชคร้ายมาก จากของสุดห่วย 9. ต้องเบรคอยู่ ให้ความรู้สึกดี แม้จะถูกใช้งานเบาๆ เป็นเวลานาน เช่น ถูกใช้งานเฉพาะในเมือง ที่ความเร็วต่ำ
แค่นี้คงพอก่อนครับ ผ้าเบรคของรถหรูหราราคาสูง เช่น พวกรถสัญชาติเยอรมันจะมีครบทุกข้อ ส่วนที่ทำให้ลูกค้าที่ไม่เข้าใจ เสียความรู้สึก ก็คือ ฝุ่นที่เกาะกระทะล้อ เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ครับ ผ้าเบรคคุณภาพสูงสำหรับรถรุ่นปัจจุบัน จะมีสัดส่วนโลหะ ที่ครูดและกัดเนื้อจานเบรค ในขณะที่ชิ้นโลหะในเนื้อผ้าเบรค ก็ถูกจานเบรค "กัด" เหมือนกัน และหลุดฟุ้งออกมาเหมือนผงฝุ่นดำ เกาะที่กระทะล้อ ถ้าเน้นความสวยงาม ก็ต้องหมั่นเช็ดหรือล้างครับ เคยมีผู้ผลิตผ้าเบรคบางราย แก้ปัญหาโดยการใช้เนื้อผ้าเบรคสีขาว ฝุ่นจะได้สีอ่อนกลมกลืนกับสีกระทะล้อ ก็ไม่น่าจะได้ผล เพราะมิฉะนั้นจะต้องมีการเอาอย่างกันแพร่หลาย
การทำผ้าเบรคให้มีคุณสมบัติครบทั้ง 9 ข้อในตัวอย่างนี้ ยากมากครับ เพราะฉะนั้น ผู้ใช้รถระดับนี้ ไม่ต้องไปหาผ้าเบรคอื่นมาแทนรุ่นมาตรฐานหรอกครับ ผมไม่เชื่อว่าจะมีด้วย เน้นใช้ของแท้จากศูนย์บริการอย่างเป็นทางการเท่านั้น บางคนดีใจที่เปลี่ยนผ้าเบรคแล้ว ฝุ่นไม่เกาะที่ล้อ เพราะได้ของเทียมคุณภาพต่ำที่อาจจะเหลือเพียงคุณสมบัติข้อ 5 เพราะเนื้อผ้าเบรคคุณภาพต่ำ ไม่ผสมโลหะอยู่แล้วทำนองเดียวกับชิ้นส่วนทางเทคนิคอื่นๆ เช่น ล้อยาง ที่คุณสมบัติที่ดีด้านใดด้านหนึ่ง จะเป็นปฏิปักษ์ต่อคุณสมบัติอีกด้านเสมอ
ผ้าเบรคที่มีคุณสมบัติข้อ 1. มักไม่มีข้อ 3. ถ้ามีข้อ 3. ก็มักไม่มีข้อ 1. หรือมีข้อ 2. ก็จะไม่มีข้อ 5. หรือมีข้อ 3. แต่ไม่มีข้อ 9. กับข้อ 6. หรือมีหลายข้อแต่สอบตกข้อ 7. เป็นต้นปัญหาของผู้ใช้รถขนาดเล็กราคาไม่สูงนัก และไม่ต้องการใช้ผ้าเบรค "แท้" ไม่ว่าจะเพราะพอใจกับราคาที่ต่ำกว่า หรือเพราะเชื่อว่าจะได้ผ้าเบรคคุณภาพสูงกว่าของแท้ก็ตาม คือโอกาสที่จะได้ของดีกว่าของแท้นั้น มีน้อยมาก มาดูกันต่อว่าเพราะอะไรครับ
ประการแรกก็คือ การผลิตผ้าเบรคให้ได้คุณภาพสูง คือ มีคุณสมบัติในตัวอย่างของเราหลายๆ ข้อหรือเกือบทุกข้อนั้น ยากมากจริงๆ เป็นเทคโนโลยีชั้นสูง ที่ต้องอาศัยการวิจัยและทดสอบอย่างหนัก ในการพัฒนาคุณภาพ เพราะฉะนั้นจึงมีผู้ผลิตผ้าเบรคน้อยรายจริงๆในโลกนี้ ที่ผลิตผ้าเบรคคุณภาพสูงได้
คราวนี้ก็มีคำถามตามมาในใจทันทีใช่ไหมครับ ว่าทำไมจึงมีผ้าเบรคมากมายหลายตราขายในประเทศเรา และส่วนใหญ่ก็เป็นผ้าเบรคที่ผลิตในประเทศไทยด้วย ถ้าตอบแบบกำปั้นทุบดินก็คือ เพราะเงินมันหอมหวนครับ ผ้าเบรคเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีสัดส่วนกำไรสูงมาก แล้วยังเป็นผลิตภัณฑ์ที่สึกหรอหมดไปจากการใช้งานด้วย ก็ต้องเรียกว่าเป็นโชคสองชั้น หรือสองเด้งของทั้งผู้ผลิตและผู้ขาย
ส่วนโชคชั้นที่สาม ก็คือ การขายได้ขายเอา ใครอยากผลิตใครอยากขาย หรือใครอยากผลิตเองขายเองก็ย่อมทำได้ ไม่มีใครมาควบคุม มากำหนดมาตรฐานคุณภาพ บางคำตอบผมได้ยินแล้วขนหัวลุกครับตัวแทนฝ่ายขายบางคน บอกกับผมว่า "รุ่นนี้ถูกเสี่ยเจ้าของโรงงานผ้าเบรค เลือกส่วนผสมเนื้อผ้าเบรคเอง เป็นสูตรลับ เพราะมีประสบการณ์สูงจากการเป็น "นักซิ่ง" สมัครเล่น" สวัสดีประเทศไทยครับ ขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์จงคุ้มครองผู้ใช้ผ้าเบรครุ่นที่ว่านี้
การกำจัดสิ่งที่ไม่ถูกต้องและอันตรายอย่างมากนี้-ให้หมดไป คงเป็นเรื่องยาก สำหรับประเทศที่กึ่งด้อยพัฒนา กึ่งกำลังพัฒนาอย่างประเทศของเรา แต่มีวิธีที่จะลดปัญหาเหล่านี้ครับ เช่น การกระตุ้นให้ผู้ผลิตรถรุ่นราคาถูก เน้นคุณภาพของผ้าเบรคให้สูงขึ้น โดยการตรวจสอบสมรรถนะการเบรค ที่เชื่อถือได้เช่น การวัดระยะเบรคฉุกเฉินจากความเร็วระดับต่างๆ การวัดสมรรถนะการเบรค เมื่อถูกใช้งานหนักเช่น เบรคจากความเร็วสูงจนหยุดซ้ำกันหลายครั้ง จนผ้าเบรคและจานเบรคร้อนจัด ถ้าไม่มีหน่วยงานของรัฐคิดจะทำก็เป็นหน้าที่ของสื่อมวลชนด้านรถยนต์ เช่น ผู้ทำนิตยสารรถยนต์ทั้งหลายนี่แหละครับทำให้มีมาตรฐาน ด้วยความเป็นกลาง แล้วเปิดเผยผลทดสอบด้วยเจตนาบริสุทธิ์แก่ผู้บริโภค รับรองว่าไม่มีผู้ผลิตรถรายใด กล้าใช้ผ้าเบรคคุณภาพต่ำอย่างแน่นอน
เมื่อผู้บริโภคเชื่อมั่นในคุณภาพผ้าเบรค "แท้" ที่ติดรถมา เขาก็จะไม่ไปไขว่คว้าและเสี่ยงภัยกับผลิตภัณฑ์คุณภาพต่ำ ใครที่จะขายผ้าเบรคให้เป็นโอกาสเลือกของผู้ใช้รถ ก็จะต้องนำของที่คุณภาพเทียบเท่า หรือสูงกว่าของแท้เท่านั้นมาจำหน่าย
เรื่องโดย : เจษฎา ตัณฑเศรษฐี
นิตยสาร 399 ฉบับเดือน ธันวาคม ปี 2549
คอลัมน์ Online : รู้ลึกเรื่องรถ
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/53019