ประกันภัย
การประกันตัวผู้ขับขี่คดีอาญา
ความคุ้มครองการประกันผู้ขับขี่คดีอาญาเป็นภัยเพิ่มชนิดหนึ่งที่สามารถซื้อความคุ้มครองภัยนี้เพิ่มเติมได้นอกเหนือจากภัยที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์ภาคสมัครใจฉบับมาตรฐาน
อัตราค่าเบี้ยประกันภัยสำหรับภัยเพิ่มการประกันภัยผู้ขับขี่ฉบับมาตรฐานคดีอาญานี้จะอยู่ที่ค่าเบี้ย 500 บาท/ทุนประกัน 100,000 บาท ผู้เอาประกันจะเลือกซื้อที่ 50,000 หรือ 500,000 บาท หรือ 1,000,000 บาท ก็ได้ ตามแต่จะต้องการแต่ส่วนใหญ่บริษัทประกันมักจะบังคับขายมาในกรมธรรม์ประเภท 1 ทุนประกันประมาณ 100,000-300,000 บาท
ส่วนกรรมธรรม์ประเภท 3 หลายบริษัทประกันภัยที่แข่งขันกัน ขายเบี้ยประกันแบบถูกๆจะไม่รวมประกันตัวผู้ขับขี่คดีอาญาไว้ในกรมธรรม์ หากผู้เอาประกันภัยต้องการต้องจ่ายเงินค่าเบี้ยซื้อภัยนี้เพิ่มเองในอัตราดังกล่าวข้างต้น
จะรู้ได้อย่างไรว่ามีการคุ้มครองการประกันตัวผู้ขับขี่คดีอาญา ในกรมธรรม์หรือไม่ และมีจำนวนเท่าใดให้สังเกตที่หน้าตารางกรมธรรม์ช่อง รย. 03 จะระบุว่า การประกันตัว ผู้ขับขี่คดีอาญา..... บาท/คน
สำหรับเงื่อนไขความคุ้มครองนั้น มีระบุไว้ในเอกสารแนบกับความคุ้มครองเพิ่มเติมดังนี้
"การประกันตัวผู้ขับขี่คดีอาญา รย. 03 เป็นที่ตกลงกันว่า กรมธรรม์ดังกล่าวข้างต้นได้มีการขยายเพิ่มเติม ดังต่อไปนี้
บริษัทจะประกันตัวผู้เอาประกันภัยหรือบุคคลใดซึ่งขับขี่รถยนต์โดยได้รับความยินยอมจากผู้เอาประกันภัยในกรณีรถยนต์ที่ระบุไว้ในตารางเกิดอุบัติเหตุเป็นเหตุให้บุคคลดังกล่าว ถูกควบคุมตัวในคดีอาญา
การประกันตัวบุคคลดังกล่าว บริษัทจะดำเนินการโดยไม่ชักช้า ตามจำนวนเงินที่พนักงานสอบสวนพนักงานอัยการ หรือศาล กำหนดจนกว่าคดีจะถึงที่สุด
เงื่อนไขอื่นๆ การขยายเพิ่มเติม อยู่ภายใต้บังคับของเงื่อนไข และข้อยกเว้นแห่งกรมธรรม์ที่ปรากฏในสัญญาหมวดเงื่อนไขทั่วไป..."
ความคุ้มครองการประกันภัยผู้ขับขี่คดีอาญา (รย. 03) โดยหลักการจะให้ความคุ้มครองตัวผู้ขับขี่ให้มีอิสระภาพจากการถูกควบคุมตัวในคดีอาญาของพนักงานสอบสวน พนักงานอัยการ หรือ ศาล ชั่วระยะเวลาหนึ่งๆ ระหว่างการต่อสู้คดีความอันสืบเนื่องมาจากอุบัติเหตุรถยนต์ที่เกิดขึ้น
ในเบื้องต้นคงต้องรู้ความหมายก่อนว่า การประกันตัวผู้ขับขี่คดีอาญา หมายถึงอะไร เกิดขึ้นได้อย่างไรและเมื่อมีการประกันตัวแล้ว ผู้ขับขี่จะหลุดพ้นคดีอาญาหรือไม่
โดยปกติการเกิดอุบัติเหตุรถยนต์หากรถประกันเป็นฝ่ายก่อให้เกิดความเสียหาย หรือเป็นฝ่ายผิดหรือเป็นฝ่ายละเมิด และต้องเป็นฝ่ายที่ต้องรับผิดตามกฎหมาย ก็จะเป็นคดีความกันขึ้นมาคดีนี้จะแยกเป็น 2 ส่วน คือ คดีแพ่ง และคดีอาญา
คดีทางแพ่ง คือคดีที่เกี่ยวกับการเรียกร้องค่าเสียหายจากอุบัติเหตุ ไม่ว่าจะเป็น ค่าซ่อมรถค่ารักษาพยาบาล ค่าปลงศพ ค่าเสียหายเหล่านี้เป็นส่วนที่บริษัทประกันภัยจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบในวงเงินไม่เกินจำนวนที่จำกัดความรับผิดชอบตามที่ระบุไว้ในหน้าตารางกรมธรรม์
คดีอาญา คือ คดีที่เกี่ยวข้องกับการที่ผู้ขับขี่ทำความผิดทางอาญาโดยตรง ได้แก่การขับขี่รถโดยประมาท ทำให้บุคคลอื่นได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิตผู้ที่ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจะเป็นฝ่ายใดก็ตาม ทั้งคนในรถ และนอกรถก็ถือว่าเป็นความผิดทางอาญาทั้งสิ้นผู้ขับขี่จะต้องอยู่ในข่ายถูกดำเนินคดีอาญาแน่นอนในส่วนคดีอาญานี้บริษัทประกันภัยไม่สามารถไปรับโทษแทนได้ ใครทำผิดผู้นั้นก็จะต้องได้รับโทษในส่วนที่บริษัทจะช่วยได้คือ การประกันตัวผู้ขับขี่นั้นออกมาเพื่อต่อสู้คดี กล่าวคือไม่ต้องถูกคุมขังชั่วคราวระหว่างถูกดำเนินคดี ไม่ว่าจะเป็นชั้นสอบสวนของตำรวจชั้นสั่งฟ้องของอัยการ หรือชั้นศาลทั้ง 3 ศาลจนกว่าคดีจะสิ้นสุด
การประกันตัวผู้ขับขี่คดีอาญานี้ไม่สามารถกำหนดวงเงินแน่นอนได้แล้วแต่ว่าจะเป็นคดีที่มีโทษมากน้อย ผู้ต้องหามีพฤติกรรมจะหลบหนีหรือไม่ หากความเสียหายไม่มาก ตำรวจอาจเรียกให้ประกันตัวเพียง 3 หมื่น 5 หมื่น แต่ถ้าคดีที่มีความเสียหายมาก เกิดเหตุรุนแรงอาจเรียกให้ประกันในวงเงินนับแสนบาทหรือเป็นล้านก็ได้ หรืออาจจะไม่ให้ประกันตัวเลยก็ได้หากเห็นว่าผู้ต้องหามีพฤติกรรมแน่ชัดว่าจะหลบหนีหากได้ประกันตัวไป
การที่บริษัทเข้ามารับเสี่ยงภัยในการประกันตัวผู้ขับขี่คดีอาญาตามที่ผู้เอาประกันภัยได้ซื้อความคุ้มครองภัยเพิ่มเติมในภัยข้อนี้ไว้ บริษัทก็จะต้องนำพันธบัตรของบริษัทไปค้ำประกันตัวผู้ต้องหาซึ่งโดยปกติผู้ต้องหาหรือญาติๆ ก็จะต้องวิ่งหาเงินหรือทรัพย์สินมาทำการประกันตัวผู้ต้องหาเพื่อมาต่อสู้คดี
สิ่งที่ต้องทำความเข้าใจ คือ การซื้อประกันภัยคุ้มครองเพิ่ม ข้อนี้มิได้หมายความว่าผู้ขับขี่จะหลุดพ้นจากการถูกดำเนินคดีอาญา คดีอาญาก็ยังดำเนินต่อไปถ้าศาลตัดสินออกมาอย่างไรผู้ต้องหาก็ต้องได้รับผลอย่างนั้น กล่าวคือ ถ้าศาลสั่งจำคุกก็ต้องถูกจำคุกจะบอกว่าซื้อประกันตัวไว้แล้วไม่ถูกจำคุกไม่ได้เพียงแต่จะถูกจำคุกจริงหรือไม่ก็ต้องให้คดีสิ้นสุดก่อนเท่านั้น ตราบใดที่ยังมีการอุทธรณ์ฎีกายังไม่ถือว่าคดีสิ้นสุด บริษัทก็ยังมีหน้าที่ประกันตัวต่อไปจนคดีจะสิ้นสุด
โดยทั่วไปในชั้นสอบสวนของพนักงานสอบสวน หากคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่ายสามารถตกลงทางแพ่งกันได้ในเรื่องค่าเสียหายเป็นที่พอใจทั้ง 2 ฝ่ายและไม่มีฝ่ายใดติดใจเรียกร้องทั้งคดีแพ่ง และคดีอาญาแล้วส่วนใหญ่ในทางปฏิบัติตำรวจมักจะสรุปสำนวนไม่ฟ้อง เว้นแต่เป็นกรณีที่มีผู้เสียชีวิตและผู้ขับขี่มีความผิดชัดแจ้งมีการหลบหนี และเป็นข่าวดังอย่างนี้ส่วนใหญ่ตำรวจก็จะต้องส่งสำนวนไปให้อัยการเพื่อส่งฟ้องตามกฎหมายต่อไป
โดยสรุปภัยเพิ่มในส่วนการประกันตัวผู้ขับขี่คดีอาญานี้ เป็นอีกภัยหนึ่งที่สำคัญไม่ควรมองข้ามและควรมีการซื้อภัยนี้ไว้ในการทำประกันภัยทุกครั้งที่ทำประกันภัยและเมื่อเกิดอุบัติเหตุมีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตครั้งใดต้องรีบแจ้งให้บริษัทประกันภัยทราบทันทีเพื่อให้เจ้าหน้าที่จัดเตรียมพันธบัตรมาด้วยเพื่อเตรียมประกันตัวผู้ขับขี่คดีอาญา ทั้งนี้เพื่ออิสรภาพของผู้ขับขี่ มิให้ต้องไปนั่งหรือนอนในห้องขังให้เสียขวัญ เสียกำลังใจนะครับ
เรื่องโดย : กฤชกมล นิติธรรมโกศล
นิตยสาร 399 ฉบับเดือน กันยายน ปี 2546
คอลัมน์ Online : ประกันภัย
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/51745