ชีวิตคือความรื่นรมย์
คำใหม่ ๆ ยุค 2546
ผ่านวาระเถลิงศกใหม่มานานพอควรแล้ว แม้บรรยากาศการนับถอยหลัง (ซึ่งทาสทางภาษาดัดจริตเรียก "เคาน์ท์ดาวน์") ยังกรุ่นอยู่ไม่เสื่อมคลาย โดยเฉพาะประชาชนชั้นรากหญ้าที่ไม่เห่อเหิมเจ๋อไปร่วมงานกับเขาหัวใจให้รู้สึกโหยหาความสุขเป็นอย่างยิ่ง เพราะนับดูเงินที่เขาถล่มทลายลงไปในการจัดงานแค่ 3-4 แห่ง ก็คงหลาย 100 ล้าน ซึ่งถ้าทุ่มลงไปในการพัฒนาชีวิตประชาชนคนยากจนคงจะส่งอานิสงส์ผลบุญให้มีกินมีใช้ไปนานได้ระดับหนึ่งทีเดียว
ยิ่งกว่านั้น แม้ชัยชนะของ ภราดร ศรีชาพันธุ์ นักเทนนิสมือหนึ่งของไทยจะนำความชื่นใจมาปลอบใจคนไทยได้พอประมาณ แต่ผลงานของทีมฟุตบอลในหัวใจ 2 ทีมทั้ง "หงส์แดง" ลิเวอร์พูลกับ "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ยูไนเทด ก็ยังไม่ดีขึ้นให้ชุ่มชื่นหัวใจบ้างเลย
ไม่รู้ว่า กว่า "ฟอร์มูลา" ฉบับนี้จะเผยโฉมหน้า สองทีมที่รักจะห่างหายไปกับสายลมเพียงใดก็ไม่รู้
!
แต่ถึงกระนั้นก็ดี นายกรัฐมนตรีคนที่ 23 ของไทย ก็ยังคงช่วยให้เมืองไทยมีชีวิตชีวาพอสมควร เพราะมีคำใหม่ๆมาให้สื่อมวลชนตื่นเต้น ให้นักวิชาการได้ใช้สมอง และให้ประชาชนทั่วไปได้อ้าปากหาวตามอยู่เรื่อยๆ ดีกว่าอยู่เปล่าๆ !
อย่างน้อยที่สุด ประการแรก "ฉายา" ของนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีที่นักข่าวทำเนียบพยายามคิดและลงมติกันหลายรอบ ก่อนจะลงความเห็นว่า นายก ฯ "เทวดา" รัฐบาล "หลอน" หรือวาทะแห่งปีที่ว่า "คนรู้น้อยอย่าพูดมาก" ก็เป็นสีสันที่ผู้คนนำไปพินิจพิจารณาว่า ตรงกับความรู้สึกของตนและคนทั่วไปหรือไม่
ประการที่สอง นักวิชาการที่เฝ้ามองสังคมอย่าง อาจารย์ อัมมาร สยามวาลา หรือ อาจารย์ ธีรยุทธ บุญมีเมื่อออกมาพูดแล้ว สร้างสรรค์อะไรแก่สังคมบ้าง ให้ประโยชน์เชิงสะท้อนเหมือนกระจกเงาให้นายก ฯและรัฐบาลส่องดูตัวเอง แล้วภูมิใจหรือต้องปรับปรุงอะไรบ้างก็เป็นมุมมองที่น่าพิจารณา
สำหรับผู้เขียน ในฐานะคนชอบภาษา มักจะได้อะไรให้คิดตามอยู่เสมอๆ
แม้ว่าเชิงความคิด อาจจะคิดเห็นแย้งแตกต่างกัน หรือเห็นด้วย แต่ในแง่ภาษาก็อดคิดและใคร่ขอออกความเห็นด้วยไม่ได้
อย่างเช่นในอดีต อาจารย์ ธีรยุทธ เสนอคำ "ธรรมรัฐ" ในความหมาย GOOD GOVERNANCE ซึ่งก็มีหลายคนไม่เห็นด้วยเพราะ "ธรรมรัฐ" ควรจะแปลความว่า "รัฐ (แว่นแคว้น) ที่มีธรรม" จึงมีผู้เสนอคำว่า "ธรรมาภิบาล" (ธรรม-อภิบาล) ซึ่งก็มีคนใช้ตามอยู่เป็นอันมาก
มาปีใหม่นี้ อาจารย์ ธีรยุทธ เสนอคำ "ทุษิณ" ซึ่งคนทั่วไปก็เข้าใจว่า อาจารย์ต้องการให้คนตีความคล้ายคน "ทุศีล" ภาษาอังกฤษใช้ว่า THUSINIZATION ซึ่งในการเล่นเชิงภาษานับว่ามีลูกเล่นไม่น้อยและพอสื่อความหมายได้จนนายกรัฐมนตรี "ลมออกหู" เหมือนกัน
ส่วนคำที่อาจารย์ ธีรยุทธ ใช้ว่า "ทักษิณนุวัตร" (THAKSINIZATION) นั้น ผู้เขียนก็ออกจะไม่เห็นด้วย โดยคิดว่าน่าจะใช้ "ทักษิณานุวัตร" โดยมาจากรากคำ "ทักษิณ+อนุวัตร" ซึ่งน่าจะแปลได้ว่า "เป็นไปตามทักษิณ" หรือ "หมุนตามทักษิณ" (อนุวัตร = ทำตาม, ประพฤติตาม, ปฏิบัติตาม เขียนเป็น อนุวัต, อนุวรรตน์, อนุวัตน์, อนุวัติ ก็มี)
เมื่อกล่าวถึง คำ "ทักษิณนุวัตร" ซึ่งเป็นรูป "สมาส" ผู้เขียนเสนอเป็น "ทักษิณานุวัตร" เป็นคำสนธินั้น อาจารย์ ธีรยุทธอาจเกรงคนจะเข้าใจไปแปลเป็น "เวียนไปทางขวา, การเวียนขวา" (คือเวียนตามเข็มนาฬิกาหรือเวียนเหมือนเวียนเทียน ให้สิ่งที่เราเวียนหรือเคารพอยู่ทางขวามือของผู้เวียน)
แต่การ "เวียนขวา" นั้น เขาใช้ ทักษิณาวรรต หรือ ทักษิณาวัตร หรือ ทักขิณาวัฏ ซึ่งเป็นการเวียนในงานมงคล เช่นเวียนเทียนรอบโบสถ์ หรือวิหาร ทักษิณาวัตร ก็เป็นการดี
แต่ตรงกันข้าม ถ้าเป็นการเวียนซ้ายที่เรียก อุตราวรรต หรือ อุตราวัฏ (เวียนทวนเข็มนาฬิกา) ก็ถือเป็นการเวียนที่ไม่เป็นมงคล เช่น แห่ศพรอบเมรุ เป็นต้น
ถ้าเป็นเช่นนี้ก็สมควรอยู่หรอกที่นายก ฯ อาจจะไม่สบอารมณ์เอาได้
ส่วนคำเก่าที่นายก ฯ เอามาใช้โต้ตอบอาจารย์ ธีรยุทธ ว่า "อีโก" นั้น ท่านผู้อ่านรู้จักกันมานานแล้วเป็นอันดีว่ามาจากภาษาต่างด้าว (ego) ตรงตัว ซึ่งพจนานุกรมให้ความหมายไว้ว่า "THE OPINION THAT YOU HAVE ABOUT YOUR SELF. (THINK THAT YOU ARE VERY CLEVER OR IMPORTANT) หรือพูดภาษาไทยว่า "ความรู้สึกที่ว่าตนเองฉลาด ประเสริฐเลิศเลอเกินผู้ใดในปฐพี" (ที่ภาษาวัดใช้ว่า คนที่มี "อัตตาสูง" นั่นแหละ) ซึ่งความรู้สึกเช่นนี้ สังเกตว่า อาจารย์ ธีรยุทธ ไม่ค่อยจะมีภาพตรงกับคำ EGO นัก"
แต่ประชาชนจะคิดถึงใครที่มีลักษณะเช่นนั้น ผู้เขียนขอเอามือปิดปากตัวเองไว้ดีกว่าไม่บังอาจเอ่ยถึงดีกว่า (ฮิ ! ฮิ !)
ที่ผู้เขียนเห็นว่า นับแต่มีนายกรัฐมนตรีคนนี้มา วงการภาษา (ทั้งไทยและอังกฤษ) ก็ตื่นตัวกันมาก
เริ่มตั้งแต่นายก ฯ ไปขุดคำ WORKSHOP มาใช้ทำให้คนที่รังเกียจใช้ภาษาไทยคำ-อังกฤษคำหันไปใช้ภาษาไทยที่มีอยู่แล้วว่า "การสัมมนา (การประชุม) เชิงปฏิบัติการ" มาใช้จึงได้เข้าใจตรงกัน
เมื่อนายก ฯ ต้องการให้ผู้ว่าราชการจังหวัด "มีอำนาจเบ็ดเสร็จ" ในการบริหารงานในจังหวัด จึงให้ทำงานเชิงรุกแบบ CEO (CHIEF OF EXECUTIVE OFFICER) หรือแบบผู้บริหารสูงสุดขององค์กร ผู้ถนัดภาษาไทยจึงไปหยิบคำว่าบริหารแบบ "บูรณาการ" มาใช้ ซึ่งก็ทำให้ผู้ฟังงงอยู่เป็นเวลานาน กว่าจะมีคนแปลย้อนกลับเป็นภาษาอังกฤษว่า INTEGRITY ไง จึงมีคนร้องอ๋อ
(แต่ก็ยังมีเครื่องหมายคำถามทั้งใน "ดวงใจ" และใน "ดวงตา" อยู่
ผู้ว่า ฯ ซีอีโอ
จึงยังคลำทางปฏิบัติจริงๆ อยู่ก็มี เพราะในการบริหารจริงๆ นายก ฯ แทบจะลงไปทำทุกอย่างแทนการมอบหมายงานให้สำเร็จ หรือ "เบ็ดเสร็จ" ตามนัยของคำ
ความจริงนายก ฯ คนนี้ มีอะไรสนุกๆ เยอะแยะถ้าเรามองในเชิง "ชีวิตคือความรื่นรมย์"อย่าไปใส่ใจในอารมณ์ที่นักข่าวตั้ง "ฉายา" ปีก่อนว่า "เศรษฐีเหลิงลม" มาปีนี้เป็น "เทวดา" ชีวิตเราก็จะได้มีแต่ความรื่นรมย์สมอุรา
ดังนี้แล
เรื่องโดย : ประยอม
นิตยสาร 399 ฉบับเดือน กุมภาพันธ์ ปี 2546
คอลัมน์ Online : ชีวิตคือความรื่นรมย์
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/51490