ร่มไม้ชายศาล
"ฮั้วชัวร์"
คำว่า "ฮั้ว" ยังมีอยู่ในประเทศไทย ถึงแม้กฎหมายจะเอาผิดทางอาญามันก็ยังทำกันอยู่ ประมูลงานของทางราชการที่ไหนต้องมีฮั้วที่นั่นเหมือนแมลงวันไปรุมกินอุจาระ เอาส่วนแบ่งจากผู้ที่ประมูลงานได้หรือผู้ที่อยากได้งาน กลายเป็นพวกชั่วที่เข้าไปรุมเลียไอศครีมนอกเหนือจากข้าราชการนักการเมืองกังฉินที่หักคอเอาเปอร์เซนต์ต่างหากไปแล้วทำให้รัฐและประชาชนผู้เป็นเจ้าของเหลือแต่เศษกับก้านไอศครีมเท่านั้น บรรลัยไหมท่านผู้ชม
ผมเคยบอกไว้ว่า วิธีแก้ไขอย่างหนึ่งที่ต่างประเทศเขานำมาใช้คือการ "ประมูลงานออนไลน์" ทางอินเตอร์เนทไม่ต้องเห็นหน้าค่าตากัน อาจจะกำจัดกระสือได้ แต่อย่างว่า คงกำจัดข้าราชการเลวนักการเมืองชั่วไม่ได้อยู่ดี
คดีนี้ชาวบ้านฮั้วกันเพื่อไม่ให้รถยนต์โดนยึดขายทอดตลาด ทำสำเร็จหรือไม่ ศาลจับไต๋ได้หรือไม่ว่ามีการฮั้ว มาดูชมกันได้เลย
แรกเริ่มเดิมที "นายมือถือ" ขายมือถือได้ดีพอสมควร แต่กินเติบเล่นเติบจึงเอาตัวไม่รอด ไม่รวยเหมือนนายกทักษิณ เช็คที่ออกให้ "นางอ่อนน้อม" โดยมี "นายไอที" เพื่อนของนายมือถือเซ็นสลักหลังเด้งอย่างไม่เป็นท่า
นางอ่อนน้อม ไม่ได้อ่อนเหมือนชื่อ ขนาบ นายมือถือ ทันที ด้วยการฟ้อง นายมือถือ เป็นคดีอาญา ต้อน นายมือถือเข้าคุกซะเลย
นายไอที ทำตัวเป็นนกรู้ เกรงว่าภัยจะถึงตัวถึงทรัพย์สิน โดยเฉพาะรถยนต์ราคาแพงที่มีอยู่คันหนึ่ง จึงปรึกษานักกฎหมายได้รับคำชี้แนะให้รีบจดทะเบียนหย่ากับเมียคือ "นางเนท" โดยด่วน นายไอที ทำตามไปจดหย่ากันหลังจากนายมือถือโดนฟ้องคดีอาญา 18 วัน ข้อมูลนี้ศาลเอามาเอ่ยอ้างในตอนหลัง
ในการจดทะเบียนหย่ามีการแบ่งสมบัติแบ่งสินสมรส นางเนท ได้รถยนต์ไปเป็นส่วนแบ่งที่สำคัญ มีราคาหลายสตางค์
การเอา นายมือถือ เข้าไปนั่งหน้าแหลมในเรือนจำ ไม่ทำให้ นางอ่อนน้อม ได้เงินตามเชค นางอ่อนน้อม จึงออกแรงอีกยกหนึ่ง ยื่นฟ้องนายมือถือ เป็นจำเลยที่ 1 นายไอที เป็นจำเลยที่ 2 ในคดีแพ่ง ให้ร่วมกันชำระเงินตามเชคที่เด้ง ถ้าไม่ฟ้องภายใน 1 ปี จะขาดอายุความอีกต่างหาก
ก่อนฟ้องคดีแพ่ง 6 วัน นางเนท ทำตัวเป็นนกรู้โอนขายรถยนต์ให้แก่ "นางแชท" น้องสาวของ นายมือถือซึ่งหากินด้วยการเปิดร้านอินเตอร์เนทคาเฟ ให้เด็กเล่นเกมหามรุ่งหามค่ำยันสว่าง
เมื่อ นางอ่อนน้อม ชนะคดีแพ่งหลังจากใช้เวลาพอสมควร ก็สอดส่ายสายตามองหาช่องที่จะเอาเงินตามเชคให้ได้ ที่รู้ๆคือ นายมือถืออยู่ในสภาพหมดตูด จึงนึกไปถึง นายไอที จำเลยที่ 2 จำได้ว่าเคยขี่รถหรูราคาแพงนี่นา จึงให้เจ้าพนักงานบังคับคดีตามยึด
อีกปีเศษเกือบสองปี เจ้าพนักงานบังคับคดีจึงตามไปยึดรถยนต์มาได้ ขณะที่รถอยู่กับ นายไอที นั่นแหละ
การค้าความจึงเริ่มขึ้นอีกยกหนึ่ง นางแชท น้องสาวของนายมือถือ โดดเข้ามาร่วมวง ยื่นคำร้องคัดค้านการขายทอดตลาดรถยนต์อ้างว่ารถเป็นกรรมสิทธิ์ของหนูตั้งนานมาแล้ว ไม่เห็นในทะเบียนนั่นเหรอ มายึดของหนูไปได้ยังไง ต้องปล่อยรถคืนให้หนู
นางอ่อนน้อม โต้กลับว่า รถเป็นของ นายไอที นั่นแหละ พวกนี้มันฮั้วกัน นางเนท ไม่ได้หย่าขาดกับ นายไอที นางแชท ไม่ได้ซื้อรถจากนางเนท จริงๆ สมคบกันยักย้ายรถไปให้พ้นเท่านั้น อย่าคืนรถให้ นางแชท นะค่ะ
ศาลชั้นต้นพิจารณาพยานหลักฐานแล้ว ตัดสินให้ปล่อยรถที่ยึดแก่ นางแชท
โจทก์คือ นางอ่อนน้อม ไม่ยอมราข้อง่ายๆ ยื่นอุทธรณ์แจกแจงเหตุผล ยืนยันว่าพวกประดานั้นเล่นละครตบตาศาล ฮั้วกันชัดๆ
ศาลอุทธรณ์พิจารณาแล้วเชื่อ นางอ่อนน้อม พิพากษากลับ ให้ยกคำร้องของ นางแชท ยึดรถมาขายทอดตลาดได้ตามสบายศาลไม่เชื่อว่ารถเป็นของ นางแชท อย่างแท้จริง
กลายเป็นหนังชีวิต เพราะ นางแชท ไม่ยอมถอย ยื่นฎีกาขึ้นไป ยืนยันว่ารถเป็นของหนู คดีจึงลากยาวไปเกือบ 6 ปี นับแต่มีการจ่ายเชคเด้ง จึงรู้ว่าหมู่หรือจ่า เมื่อศาลฎีกาฟันธงลงมาว่า
นายไอที จำเลยที่ 2 คนเซ็นสลักหลังเชคให้ นายมือถือ ทำทีจดทะเบียนหย่ากับเมียคือ นางเนท หลังจากนายมือถือโดนฟ้องคดีอาญาแค่ 18 วัน แล้วแบ่งสินสมรส ได้รถยนต์ไป นางเนท ให้เหตุผลในการหย่าว่า นายไอที ชอบทำร้ายร่างกายไปติดหมอนวด แต่ไม่ปรากฏว่า นายไอที ไปเลี้ยงดูใครอื่น และไม่มีพยานหลักฐานสนับสนุนศาลไม่เชื่อว่าเหตุเพียงแค่นี้จะมีการหย่าจริงๆ
ขณะที่ฝ่ายโจทก์มีทนายเป็นพยานยันว่า ไปติดตามทวงหนี้บ่อยๆ เห็น นายไอที กับนางเนท ยังอยู่ด้วยกันเจ้าหน้าที่ไปยึดรถยนต์มาขายทอดตลาด ก็เห็น นายไอที กับ นางเนท อยู่ด้วยกัน ศาลจึงเชื่อว่า นายไอที กับนางเนท ไหวตัวแกล้งหย่าเพื่อไม่ให้โดนยึดรถยนต์
ส่วน นางแชท ก็เป็นน้องสาวของ นายมือถือ ไปเยี่ยม นายมือถือ ที่เรือนจำ รู้ดีว่า นายมือถือ โดน นางอ่อนน้อม ฟ้อง ก่อน นางอ่อนน้อมฟ้องคดีแพ่งเรียกเงินตามเชคแค่ 6 วัน นางแชท ก็ไปซื้อรถมาจาก นางเนท ศาลเชื่อว่า นางแชท ซื้อรถยนต์ไว้โดยสมยอมเพื่อช่วยนายไอที ไม่ได้ซื้อมาโดยสุจริต ศาลอุทธรณ์ตัดสินถูกต้องแล้ว
ศาลฎีกาพิพากษายืน ไม่คืนรถให้ นางแชท ให้ขายทอดตลาดได้ต่อไป
ถ้าจะชี้โพรงให้กระรอกซะหน่อย นางเนท เมียของ นายไอที น่าจะโอนขายรถให้คนอื่นซึ่งอยู่ที่อื่น ไม่รู้เรื่องที่ นายมือถือ กับนายไอทีโดนฟ้องร้องคดีเชค ถ้าทำแบบนั้นเจ้าหนี้คือ นางอ่อนน้อม ก็หมดหนทางที่จะยึดรถมาขายทอดตลาด
การโอนขายรถให้พวกเดียวกัน รู้เห็นเรื่องราวที่เจ้าหนี้ตามราวี กี่รายมันก็ไม่รอดสันดอน ศาลไม่เชื่อว่าขายจริง ซื้อโดยสุจริต
แง่มุมก็มีอยู่เท่านี้ การเป็นหนี้เป็นทุกข์อย่างยิ่ง การไม่มีหนี้เป็นอะไรที่ประเสริฐเลิศล้ำฉะนี้แล
จากคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1512/2534
เรื่องโดย : "จอมยุทธ"
นิตยสาร 399 ฉบับเดือน กุมภาพันธ์ ปี 2546
คอลัมน์ Online : ร่มไม้ชายศาล
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/51489