ฮิเดคิ มัสซึอิ

ฮิเดคิ มัสซึอิ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ไทยสแตนเลย์การไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หนุ่มใหญ่ชาวญี่ปุ่นที่มารับหน้าที่การตลาดของสินค้าที่เกี่ยวข้องกับหลอดไฟในเมืองไทย ทั้งๆ ที่ไม่เคยทำงานด้านนี้มาก่อน หลังจบการศึกษาด้านวิศวกรรมเครื่องกล จาก นิฮอน ยูนิเวอร์ซิที ฮิเดคิ เริ่มทำงานครั้งแรก ที่แผนกออกแบบรับผิดชอบการออกแบบโคมไฟรถยนต์ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่เจาะตลาดโรงงานประกอบรถยนต์โดยตรง ทำอยู่ 4 ปีก็ย้ายมาทำออกแบบผลิตภัณฑ์สำหรับตลาดทดแทน และอีก 4 ปี สำหรับการทำงานด้านการวางแผนโครงการต่างๆโดยอยู่ที่บริษัท สแตนเลย์ ประเทศญี่ปุ่นมาตลอด จนกระทั่งย้ายมาอยู่ที่ประเทศไทย รับผิดชอบงานด้านการตลาดโคมไฟ รถจักรยานยนต์ ยามาฮา ฮอนดา เป็นต้น "การตลาดประเทศไทยอัตราการหมุนเวียนของผลิตภัณฑ์รถยนต์ค่อนข้างช้า หากเปรียบเทียบกับญี่ปุ่นทั้งนี้เนื่องจากรายได้ของประเทศไทยเทียบกับญี่ปุ่นแล้ว 1 ปี คนไทยซื้อได้เพียงรถจักรยานยนต์เท่านั้นแต่ญี่ปุ่นสามารถซื้อรถยนต์ได้ จึงทำให้มุมมองในเรื่องการเลือกซื้อสินค้าแตกต่างกัน ส่วนใหญ่จะมองที่คุณภาพแต่ราคาจะต้องถูก" จากส่วนนี้ทำให้ผู้ผลิตรถยนต์ ที่พยายามเพิ่มยอดขาย จำเป็นต้องใช้กลยุทธ์ผลิตสินค้าราคาถูกซึ่งส่งผลมาที่บริษัทว่าต้องผลิตสินค้าราคาถูกเพื่อรองรับตลาด ทำให้ บริษัทต้องเพิ่มมาตรการลดของเสียให้น้อยลงปรับกระบวนการผลิต ลดขั้นตอนการทำงาน รวมถึงพยายามลดสิ่งสูญเปล่า ซึ่งที่ญี่ปุ่นเรียกว่า "มูดะ" จากประสบการณ์การทำงานที่ผ่านมาเขารู้สึกภูมิใจที่สามารถสร้างส่วนแบ่งการตลาดชิ้นส่วนจักรยานยนต์ที่เคยมีอยู่ร้อยละ 60 เพิ่มเป็นกว่าร้อยละ 90 ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จอย่างยิ่ง รวมถึงการสร้างกิจกรรมต่างๆให้ประสานเข้าด้วยกัน ทั้งการตลาด การวิจัยและพัฒนา ที่สามารถหาข้อมูลเกี่ยวกับความต้องการของลูกค้าและพัฒนาสินค้าตรงกับความต้องการของลูกค้าจนเป็นที่ยอมรับ ทุกวันนี้รถจักรยานยนต์ที่ได้รับความนิยมในตลาด เกือบทุกรุ่น ใช้โคมไฟหน้า/หลัง เป็นสินค้าของบริษัททั้งสิ้นรวมถึงเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด รีเฟลคเตอร์ ที่ลูกค้าให้ความไว้วางใจยอมรับในสินค้า ที่บริษัทเป็นผู้ผลิตยี่ห้อแรกโดยเทคโนโลยีนี้ได้รับความนิยมอย่างมากในญี่ปุ่น "ความสำเร็จนั้นไม่ได้เกิดจากผมเพียงคนเดียว แต่เกิดจากผู้ร่วมงาน ที่ทำงานกันเป็นทีม ทำให้ผลงานออกมาดีซึ่งจะว่าไปแล้วความภูมิใจนั้นวัดไม่ได้ เพราะงานทุกงานที่ตั้งใจทำ จนออกมาเป็นผลงานที่ได้รับการยอมรับ" จากจุดนี้ ฮิเดคิ มัสซึอิ จึงต้องวางแผนงานทุกอย่างที่รับผิดชอบให้มีกระบวนการที่สอดประสานกันอย่างมากเพราะนอกจากการดูแลผลิตภัณฑ์โคมไฟจักรยานยนต์แล้ว จะต้องดูแลอุปกรณ์เครื่องใช้สำนักงานการบริการหลังการขาย รวมถึงการโฆษณาประชาสัมพันธ์ "แนวทางของผมคือ การสร้างสัมพันธภาพที่ดีกับลูกค้า รวมถึงสัมพันธภาพภายในบริษัทไม่ว่าจะเป็นการผลิตหรือการพัฒนา โดยสิ่งแรกที่จะต้องพัฒนาให้เกิดการยอมรับในตลาด คือ ผลิตภัณฑ์ เรย์บริกที่ตั้งใจว่าจะขยายตลาดทั้งในประเทศไทยและเอเชีย ให้เป็นที่ยอมรับเหมือนกับที่ญี่ปุ่น" และที่ทำสำเร็จในก้าวแรกนั่นก็คือ ร่วมกันกับฝ่ายต่างๆ ในบริษัท คิดค้นพัฒนาสินค้าและผลิตในประเทศเพื่อให้ได้คุณภาพที่ดี และราคาถูก เป็นที่ยอมรับในตลาด การวางแผน ระบบการทำงาน ให้สำเร็จลุล่วง 100 % โดยที่ไม่ต้องอาศัยญี่ปุ่นนั้น โดยทั่วไปจะใช้เวลาประมาณ 5 ปี ฮิเดคิ มัสซึอิ จึงยังมีเวลาสำหรับการพิสูจน์ผลงานของตน ในการสร้างสินค้า เรย์บริกในประเทศไทยและเอเชียอีกยาวไกล