บทความ
ไทยแลนด์ แกรนด์ ทัวริง คาร์ แชมเพียนชิพ 2002
สนามสุดท้ายแล้วสำหรับการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบ ไทยแลนด์ แกรนด์ ทัวริง คาร์ แชมเพียนชิพ 2002จัดโดยบริษัท เอม เรซซิง โปรเจค จำกัด ซึ่งสนามนี้เป็นสนามที่ 5 โดยกลับมาทำการแข่งขันกันที่สนามแข่งรถ พีระอินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิท พัทยา
แม้จะล่วงเลยเข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว แต่ยังมีฝนตกหนักโดยเฉพาะในช่วงบ่ายของวันเสาร์ซึ่งเป็นวันซ้อม และ ควอลิฟายด้วยสภาพแทรคที่เปียก และมีน้ำขังบางส่วน ทำให้ผลเวลาในการควอลิฟายออกมาไม่ดีนัก
รถที่เข้าร่วมทำการแข่งขัน มีจำนวนมากเช่นเดิม โดยจัดการแข่งขันทั้งสิ้น 5 รุ่นด้วยกัน คือรุ่นสปอร์ทชาลเลนจ์ทำการแข่งขัน 20 รอบ มีรถเข้าร่วมแข่งจำนวน 12 คัน กรุพเอน ทำการแข่งขัน 25 รอบ มีรถเข้าร่วมแข่งขันในคลาสส์เอ 6 คัน และคลาสส์ บี 12 คัน รุ่นถัดมาคือ กรุพ เอน คลาสส์ ซี มีรถทั้งหมด 21 คัน ทำการแข่งขัน 25 รอบและรุ่นไฮไลท์ของรายการ คือ สปอร์ทแกรนด์ แชมเพียน มีรถเข้าทำการแข่งขัน 17 คัน โดยแข่งกัน 33 รอบ
การแข่งขันเริ่มขึ้นในช่วงสายๆ ของวันอาทิตย์ ด้วยรุ่นสปอร์ทชาลเลนจ์ โอภาส ธนวิวัฒน์ผู้ควอลิฟายอันดับหนึ่งทำเวลาต่อรอบได้ 01:34.573 นาที เมื่อการแข่งขันเริ่มขึ้น ณรงค์ชัย พาวิทยาลาภออกตัวดีกว่า พุ่งขึ้นมานำ ตามติดๆ ด้วย ไชยวุฒิ พึ่งทอง และกิตติพงษ์ กิตติพงษ์พัฒนา ส่วน โอภาส ตกไปอันดับที่5 อันดับของ ไชยวุฒิ เริ่มตกลงไปเรื่อยๆ ในขณะที่ มล. อภิมงคล โสณกุล ที่ออกสตาร์ทด้วยอันดับท้ายสุด ค่อยๆแซงขึ้นมาถึงอันดับที่ 3 ในรอบที่ 5 จนการแข่งขันเกือบสิ้นสุด สามอันดับแรกยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงจนกระทั่งรอบสุดท้ายในโค้งก่อนเข้าทางตรง รถของ มล. อภิมงคล กระแทกเข้ากับรถของ ณรงค์ชัย ทำให้อันดับของณรงค์ชัย ตกลงมาอันดับ 3 แต่เมื่อมีการประกาศผลการตัดสินของกรรมการจัดการแข่งขันอย่างเป็นทางการณรงค์ชัย สามารถคว้าอันดับที่ 2 ในสนามสุดท้ายไป ส่วนแชมพ์ประจำปีในรุ่นนี้ได้แก่ มล. อภิมงคล โสณกุล
รุ่นต่อมาคือ กรุพ เอน คลาสส์ ซี ที่สนุกไม่แพ้กัน ตำแหน่งสตาร์ทหัวแถวคือ ณัฐพงษ์ เลิศล้ำประเสริฐกุล ด้วยเวลา 01:30.652 นาที ทิ้งอันดับสองถึง 1 วินาทีเต็มๆ แต่ในการสตาร์ท ทวีกุล รัตนโกเศศออกตัวดีกว่าเร่งขึ้นมานำเกือบครึ่งคัน แต่ในโค้งซ้ายสุดทางตรง ทวีกุล พยามเบียดเข้าไลน์ซ้ายของ ณัฐพงษ์ซึ่งตามมาติดๆ ทั้ง 2 ไม่ยอมยกคันเร่ง ทำให้รถทั้ง 2 ปะทะกันอย่างแรง รถของ ทวีกุลหมุนออกไปชนกำแพงข้างแทรค แต่ก็สามารถกลับเข้าร่วมการแข่งขันได้ในอันดับสุดท้าย การแข่งขันผ่านไป 6 รอบอำมาตย์ จิระณานนท์ เลื่อนขึ้นมาเป็นอันดับ 1 แต่นำได้แค่ 10 รอบ จนรอบที่ 16 ต้องออกจากการแข่งขันไปณัฐพงษ์ จึงกลับมาเป็นผู้นำอีกครั้งหนึ่ง และเป็นคันแรกที่รับธงตาหมากรุกโดยมี กานต์ ลือวัฒนา และศุภชัยวีระบวรพงษ์ ตามเข้าเป็นอันดับที่ 2 และ 3 ตามลำดับ ส่วนแชมพ์ประจำปีประเภทนักแข่ง ได้แก่ ณัฐพงษ์เลิศล้ำประเสริฐกุล แชมพ์ประเภททีมได้แก่ ทีม สปีด อาร์ รามอินทรา เทอร์โบ
รุ่นสุดท้ายของช่วงเข้าคือกรุพ เอน คลาสส์ เอ และบี ซึ่งเป็นอีกรุ่นที่มีนักแข่งระดับพระกาฬเข้าร่วมแข่งมากมายรถที่เข้าร่วมการแข่งขันใน คลาสส์ เอ มี 6 คัน ซึ่ง 3 คันเป็นรถจาก โตโยต้าไทยแลนด์ ที่เหลืออีก 3 คันและอีก16คันของ คลาสส์ บี คือ ฮอนดา สามประตูทั้งสิ้น สำหรับการแข่งขันนี้ รถที่ทำเวลาควอลิฟายอันดับหนึ่งเป็นของอาภาธร กรรณสูตร ด้วยเวลา 01:26.331 นาที เมื่อการแข่งขันเริ่มขึ้น หทัย ไชยวัณณ์ ซึ่งสตาร์ทอันดับที่ 6ออกตัวดีกว่า กระชากขึ้นมานำเป็นอันดับหนึ่ง แต่นำได้ไม่นานนักก็มีอันต้องออกไปจากการแข่งขันไปในรอบที่ 3กรันฑ์ ศุภพงษ์ ขึ้นมานำ โดยมี ณัฐวุฒิ เจริญสุขวัฒนะ และอาภาธร ตามมาติดๆ การแข่งขันทวีความดุเดือดมากขึ้นเพียงรอบที่ 16 มีรถออกจากการแข่งขันไปถึง 6 คัน รวมทั้งรถของ อาภาธร ด้วยในหัวแถวมีการเปลี่ยนแปลงตำแหน่ง โดย ณัฐวุฒิ ชิงอันดับ 1 ได้จาก กรัณฑ์ ในรอบที่ 7 แต่ กรัณฑ์ ก็กัดติดไม่ปล่อยให้ ณัฐวุฒิ หนีไปไกล ขณะเดียวกันนักแข่ง คลาสส์ ซี ที่ดีวันดีคืน อภิชัย พันธุ์คงชื่น ที่สตาร์ทจากอันดับ 7 สามารถตามขึ้นมาจ่อท้าย กรัณฑ์ ติดๆ เป็นอันดับ 3 ทั้ง 3 ขับเคี่ยวกันจนการแข่งขันสิ้นสุดในรอบที่ 25
แชมพ์ประจำปีใน คลาสส์ เอ ได้แก่ อาภาธร กรรณสูตร ส่วนแชมพ์ประเภททีมคือ ทีม โพไซดอน จูเนียร์ คอมเพทิชันทีม เอ
แชมพ์ประจำปีใน คลาสส์ บี ได้แก่ อภิชัย พันธุ์คงชื่น ส่วนทีมที่ได้ครองถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระเทพรัตรราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้แก่ ทีม เคพีเอส/บริดจ์สโตน//สิงห์/ทไรอัมฟ์ เอนจิเนียริง
ช่วงพักเที่ยงนอกจากจะมีกิจกรรมพิทวอล์ค ให้ผู้รักความเร็วได้ใกล้ชิดกับทีมแข่งแแล้ว ชมรม โพร์เช คลับ ฯยังได้นำรถสปอร์ท โพร์เช เกือบ 20 คัน มาขับโชว์รอบสนามเพิ่มสีสันให้กับรายการทีจีทีซี สนามสุดท้ายด้วย
การแข่งขัน สปอร์ท แกรนด์ แชมเพียน ในช่วงบ่ายเป็นรุ่นสุดท้าย และไฮไลท์ของรายการที่ทุกๆคนรอคอยที่สนามพีระ ฯ จะทำการแข่งขันทั้งสิ้น 33 รอบ โดยต้องเข้าพิทเพื่อเปลี่ยนยางอย่างน้อย 2เส้นในระหว่างรอบที่ 11 ถึง 30 ผู้ที่ทำเวลาในรอบควอลิฟายเร็วที่สุดคือ วรวุฒิ ภิรมย์ภักดี นาที อันดับ 2 ธนะวุฒิภิรมย์ภักดี และอันดับ 3 สัญชัย เองตระกูล เมื่อการแข่งขันเริ่มขึ้น ธนะวุฒิ ออกตัวดีกว่าขึ้นนำเป็นจ่าฝูง ส่วน สัญชัยแพ้ภัยตัวเองเครื่องพังในรอบแรกนั่นเอง ชญานิน เทพาคำ ทีมเมทของ ธนะวุฒิ พลาดท่าตกลงไปอันดับ 5 จนรอบที่ 9 ชญานิน ขึ้นมาเป็นอันดับที่ 2 จ่อท้าย ธนะวุฒิ และเมื่อทุกคันเปลี่ยนยางครบแล้ว ธนะวุฒิยังสามารถครองอันดับหนึ่ง โดยมีด้วย ชญานิน อันดับสองต่อท้าย ส่วน ชมน์สวัสดิ์ มีปัญหาทำให้ตกไปอันดับที่ 7จนครบ 33 รอบไม่มีการเปลี่ยนตำแหน่ง ธนะวุฒิ รับธงตาหมากรุกเป็นคันแรกตาม ด้วย ชญานิน และวุฒิกรตามลำดับ
แชมพ์ประจำปีตกเป็นของ ธนะวุฒิ ภิรมย์ภักดี ส่วนประเภททีมที่ได้รับถ้วยพระราชทาน ฯ ได้แก่ ทีม สิงห์ / คาลเทกซ์ฮาโวลีน บี
เป็นอันว่าการแข่งขัน ไทยแลนด์ แกรนด์ ทัวริง คาร์ แชมเพียนชิพ ฤดูกาลปี 2002 จบลงอย่างสวยงามสำหรับการแข่งขันในปีหน้าคาดว่าจะมีความสนุกสนานมากขึ้น เพราะได้ข่าวว่ากำลังมีหลายๆค่ายเริ่มให้ความสำคัญกับการแข่งขันสนามนี้ นอกจากนั้นทางเอม ฯ ยังมีโพรเจคใหม่ๆสำหรับการแข่งขันในปีหน้าอย่างแน่นอนถ้าต้องการความมันระดับสากลก็ขอให้รอติดตามข่าวให้ตามนิตยสารรถยนต์ชั้นนำ และ www.aimracing.com
เรื่องโดย : อกนิษฐ์
ภาพโดย : -
นิตยสาร 399 ฉบับเดือน มกราคม ปี 2546
คอลัมน์ Online : บทความ
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/51468