แท่นชาร์จของทุกบริษัทออกแบบตามมาตรฐาน และมีระบบป้องกันเป็นอย่างดี โดยจะมีช่องที่สามารถระบายน้ำได้ แม้ในช่วงฝนตก ทำให้ไม่มีน้ำขังบริเวณหัวประจุ รวมถึงมีการติดตั้งระบบตัดไฟรั่ว ไฟเกิน (CIRCUIT BRAKER) และลงสายดินเอาไว้ทุกตู้
ตัวรถส่วนใหญ่ยังมีซีลกันน้ำที่สามารถกันฝุ่น และกันน้ำสาด ป้องกันน้ำฝนกระเด็นเข้าไปยังขั้วชาร์จไฟฟ้า ซึ่งระบบเซนเซอร์จะตัดกำลังไฟฟ้าทันทีหากพบกระแสไฟรั่วในวงจร แต่ผู้ใช้งานจำเป็นต้องเพิ่มความปลอดภัยด้วยการสำรวจบริเวณแท่นชาร์จ หัวประจุ และสายไฟทุกครั้งก่อนชาร์จว่าอยู่ในสภาพสมบูรณ์หรือไม่ รวมถึงเช็ดทำความสะอาดบริเวณจุดที่ชาร์จให้แห้งก่อนปิดฝา เพื่อป้องกันละอองน้ำฝนที่อาจกระเด็นเข้าไปตรงที่ชาร์จไฟ
3. ขับรถไฟฟ้าลุยน้ำท่วม ได้ไหม ?
รถยนต์ไฟฟ้ามีการทดสอบ IP RATING (INGRESS PROTECTION) ซึ่งเป็นค่ามาตรฐานในการป้องกันของแข็ง และของเหลวเข้าภายในตัวรถ โดยค่ามาตรฐานสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าทั่วไปอยู่ที่ IP67 ไปจนถึง IP68 การันตีได้ว่าสามารถป้องกันความเสียหายที่เกิดจากน้ำท่วม แต่อย่าลืมเชคเสปครถว่าสามารถจมน้ำได้ในระดับไหน
หากจำเป็นต้องขับรถขณะน้ำท่วม ผู้ใช้งานต้องเพิ่มความระมัดระวัง ด้วยการค่อยๆ ขับ ใช้ความเร็วต่ำ คอยระวังสิ่งกีดขวาง เช่น ท่อนไม้ หรือก้อนหิน ที่อาจสร้างความเสียหายให้แก่แบทเตอรี และอย่าจอดรถค้างไว้เป็นเวลานาน
รศ.ดร. ยศพงษ์ ลออนวล ผู้เชี่ยวชาญรถยนต์ไฟฟ้า บอกว่า “การขับรถยนต์ไฟฟ้าฝ่าน้ำท่วม ไม่ใช่เรื่องอันตราย แต่ก็มีความเสี่ยงอยู่บ้าง หากน้ำขึ้นมาถึงขอบประตู และหากจะฝ่าเกิน 5 นาที ถือว่ามีความเสี่ยงสูง เพราะมีโอกาสซึมเข้าตัวรถ
กูรูยานยนต์ไฟฟ้า บอกอีกว่า ระหว่างรถยนต์ไฟฟ้า กับรถยนต์น้ำมัน เมื่อขับรถฝ่าน้ำท่วม รถยนต์น้ำมันอาจจะเกิดผลกระทบมากกว่า เพราะมีการดูดอากาศเข้าเครื่องยนต์ มีโอกาสเสียหายมากกว่ารถยนต์ไฟฟ้า
4. รถ EV ลุยน้ำสูงได้แค่ไหน ?
ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าส่วนใหญ่ได้การันตีว่ามีการทดสอบการกันน้ำในระดับ 1 เมตร เป็นเวลา 30 นาที หรืออย่าให้เกินครึ่งล้อรถ (ขึ้นอยู่กับระดับความสูงของรถ)
GREAT WALL MOTOR (กเรท วอลล์ มอเตอร์) รายงานว่า รถยนต์ไฟฟ้า EV สามารถขับได้อย่างปลอดภัยในสภาวะน้ำท่วม ระบบในรถได้รับการปกป้องเป็นอย่างดี และป้องกันสิ่งแปลกปลอมเข้าไปในระบบ เพราะมีการทดสอบ IP RATING ซึ่งค่ามาตรฐานสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าโดยทั่วไปอยู่ที่ IP67 การันตีว่า สามารถป้องกันความเสียหายที่เกิดจากน้ำท่วมไม่เกิน 1 เมตรได้ ภายในเวลาไม่เกิน 30 นาที
ด้าน ORA GOOD CAT (โอรา กูด แคท) ใช้แบทเตอรีที่ได้มาตรฐาน IP67 เช่นกัน โดยสามารถกันน้ำจากการแช่น้ำลึกไม่เกิน 1 เมตร ได้สูงสุด 30 นาที และยังสามารถขับลุยน้ำได้ลึกถึง 40 เซนติเมตร
ผู้เชี่ยวชาญยานยนต์ไฟฟ้า บอกว่า รถ EV รุ่นใหม่ๆ น่าจะยังไม่มีปัญหาในตอนนี้ ถ้าหมั่นเข้าศูนย์ตรวจเชคตามรอบ และเชื่อว่า การป้องกันน้ำของแบทเตอรี กว่าจะเสื่อมน่าจะใช้เวลาเป็น 10 ปี เพราะไม่ได้ขับรถลุยน้ำทุกวัน อีกทั้งก่อนที่รถ EV จะถูกนำออกมาจำหน่าย ได้มีการทดสอบเรื่องไฟรั่ว หรือขับลุยน้ำมาแล้ว
5. อุปกรณ์ EV CHARGER กันน้ำได้หรือไม่ ?
อุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับ EV CHARGER เช่น ปลั๊กชาร์จในตัวรถ, พอร์ทชาร์จ หรือสายชาร์จ สามารถกันน้ำได้ 100 % เพราะถูกออกแบบมาให้ทนทานต่อทุกสภาพอากาศ และน้ำ
6. รถ EV ชอทคนตาย ?
รศ.ดร. ยศพงษ์ ลออนวล ผู้เชี่ยวชาญรถยนต์ไฟฟ้า เชื่อว่า รถยนต์ไฟฟ้าที่ขายในเมืองไทย มีความปลอดภัยทั้งหมด และยังไม่เคยเห็นเคสที่รถยนต์ไฟฟ้า ลุยน้ำท่วมแล้วคนถูกไฟชอทตาย ทั้งในประเทศไทย และต่างประเทศ
สำหรับมาตรฐาน IP67 จะสามารถป้องกันน้ำ จมน้ำ ได้ประมาณ 30 นาที ดังนั้น รถยนต์ไฟฟ้าไม่ควรลุยน้ำสูงเกิน 30 นาที ไม่เช่นนั้นก็มีโอกาสที่น้ำจะเข้าไปในระบบแบทเตอรี หากน้ำเข้าไปในแบทเตอรีแล้วเกิดการ “ชอท” ก็ไม่ได้อันตรายถึงชีวิต เพราะเมื่อไหร่ที่ไฟฟ้าชอท เครื่องยนต์จะดับ
รวม 4 คลิพ รถยนต์ไฟฟ้าไม่กลัวน้ำ !
มาตรฐาน IP มีตัวเลขแสดงระดับการป้องกันอยู่ 2 หลัก หลักแรกแสดงถึงระดับการป้องกันจากของแข็ง รวมไปถึงฝุ่น มีตั้งแต่ระดับ 0-6 หลักที่ 2 แสดงระดับการป้องกันของเหลว ตั้งแต่ 0- 8ซึ่งค่ามาตรฐานสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าทั่วไปอยู่ที่ IP67 บทความแนะนำ

