วิถีตลาดรถยนต์
สีแดงมาแรง
เปรียบเทียบยอดจำหน่ายรถยนต์ประจำเดือนสิงหาคม 2021/2020
ตลาดโดยรวม -38.8 %
รถยนต์นั่ง -35.0 %
รถกิจกรรมกลางแจ้ง (SUV) -56.2 %
กระบะ 1 ตัน -40.9 %
รถเพื่อการพาณิชย์ +1.8 %
เปรียบเทียบยอดจำหน่ายรถยนต์ประจำเดือนมกราคม-สิงหาคม 2021/2020
ตลาดโดยรวม +2.4 %
รถยนต์นั่ง -5.4 %
รถกิจกรรมกลางแจ้ง (SUV) +17.9 %
กระบะ 1 ตัน +4.4 %
รถเพื่อการพาณิชย์ +10.5 %
ดูเหมือนว่าเดือนสิงหาคมปี 2564 นี้จะเป็นเดือนที่เจ้าไวรัสตัวร้าย COVID-19 จะแผลงฤทธิ์ขั้นสูงสุดออกมาก่อนที่จะค่อยๆ ยอมสยบต่อมาตรการต่อต้าน และควบคุม ที่รัฐบาลนำออกมาใช้เพื่อคลี่คลายสถานการณ์อันไม่พึงประสงค์นี้ในช่วงระยะเวลาต่อๆ ไป เดือนสิงหาคมนี้ยอดผู้ติดเชื้อรายวันพุ่งทะลุหลัก 2-3 หมื่นคน ก่อนที่จะค่อยๆ ปรับลดลง เช่นเดียวกับยอดผู้เสียชีวิตจากการทำงานของเชื้อไวรัสร้ายที่พุ่งขึ้นสูงสุดต่อวัน ก่อนที่จะลดน้อยลง อย่างไรก็ตาม ตัวเลขของผู้หายป่วยก็ทยอยเพิ่มมากขึ้น บางวันมีผู้หายป่วยมากเกินกว่าผู้เจ็บไข้ได้ป่วยเช่นกัน ขณะเดียวกัน ตัวเลขของผู้ได้รับวัคซีนต้านความรุนแรงของไวรัส COVID-19 ก็เพิ่มมากขึ้นตามการเข้ามาของวัคซีนที่ได้รับ ทั้งจากในประเทศ และต่างประเทศ ทำให้รัฐบาลเริ่มที่จะผ่อนคลายมาตรการเข้มงวด เพื่อให้ประชาชนได้ดำเนินชีวิตได้อย่างใกล้เคียงปกติมากยิ่งขึ้น โดยเริ่มผ่อนคลายมาตรการต่างๆ ตั้งแต่เดือนกันยายนที่ผ่านมา พอจะอ้อมแอ้มได้ว่าเริ่มจะเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์วิบๆ วับๆ กันบ้างแล้วสำหรับสถานการณ์การระบาดของไวรัสร้ายที่ชื่อ COVID-19
แน่นอนว่าการแพร่ระบาดครั้งร้ายแรงนี้ ส่งผลกระทบต่อทุกภาคส่วน ไม่เว้นแม้แต่ธุรกิจยานยนต์ เดือนสิงหาคม 2564 นี้ ตัวเลขยอดจำหน่ายรถยนต์ใหม่ในประเทศ พลิกกลับไปเป็นตัวเลขสีแดง ที่แสดงถึงตัวเลขยอดจำหน่ายที่ลดน้อยลง เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่ผ่านมา ในผลการดำเนินงานของบริษัทผู้จำหน่ายรถยนต์แทบทุกยี่ห้อ ยกเว้นก็แต่รถยนต์ยี่ห้อใหม่จากประเทศจีน ที่เพิ่งเปิดตัวออกจำหน่ายอย่างเป็นทางการในเดือนกันยายน ที่ผ่านมา ที่ยังไม่มีฐานข้อมูลให้เปรียบเทียบ อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางสภาวะการตัดสินใจซื้อที่ลดน้อย หรือชะลอตัวลง ยังมีการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่เข้าสู่ตลาดอยู่บ้าง ในรูปแบบของรุ่นตกแต่งพิเศษ หรือรุ่นปรับปรุงใหม่ ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ของค่ายยักษ์ใหญ่ TOYOTA (โตโยตา) ที่เปิดตัว HILUX REVO (ไฮลักซ์ รีโว) และ FORTUNER (ฟอร์ทูเนอร์) ใหม่ หรือ NISSAN TERRA (นิสสัน แตร์รา) ใหม่ เป็นต้น ซึ่งก็ทำให้ตลาดรถยนต์บ้านเราไม่ถึงกับเงียบเหงาซบเซาไปเสียทีเดียว ทั้งหลายทั้งปวงส่งผลให้ตัวเลขยอดจำหน่ายรถยนต์ใหม่ประจำเดือนสิงหาคม 2564 ปิดตัวลงที่ตัวเลข 42,176 คันเปรียบเทียบกับตัวเลขยอดจำหน่ายรถยนต์เดือนสิงหาคม 2563 แล้วลดน้อยลงถึง 38.8 % เลยทีเดียว โดยบนลีเดอร์บอร์ด 5 อันดับแรก ประกอบด้วย TOYOTA จำหน่ายได้ 12,364 คัน เทียบกับเดือนสิงหาคม 2563 แล้วจำหน่ายได้น้อยลง 42.6 % ได้ส่วนแบ่งการตลาดไป 29.3 % ตามด้วย ISUZU (อีซูซุ) จำหน่ายได้ 11,035 คัน ลดลง 33.4 % ส่วนแบ่งการตลาดเท่ากับ 26.2 % ต่อด้วย HONDA (ฮอนดา) จำหน่ายได้ 5,345 คัน ลดลง 37.9 % ส่วนแบ่งการตลาด 12.7 % MITSUBISHI (มิตซูบิชิ) จำหน่ายได้ 2,684 คัน ลดลง 46.1 % ส่วนแบ่งการตลาด 6.4 % และ MG (เอมจี) จำหน่ายได้ 2,187 คัน ลดลง 20.3% ส่วนแบ่งการตลาด 5.2 %...ติดลบกันโดยถ้วนหน้า
อย่างไรก็ตาม จากตัวเลขยอดจำหน่ายสะสมตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเดือนสิงหาคมนี้ ปรากฏว่ายังมีตัวเลขยอดจำหน่ายเพิ่มมากขึ้นกว่าในช่วงระยะเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยตัวเลขยอดสะสมรวมตั้งแต่เดือนแรกจนถึงเดือนที่ 7 ของปี อยู่ที่ 467,809 คัน เพิ่มขึ้น 2.4 % เมื่อเทียบกับห้วงเวลาเดียวกันของปี 2563 ยอดจำหน่ายสะสมสูงสุดประกอบด้วย TOYOTA 146,323 คัน เพิ่มขึ้น 9.9 % ส่วนแบ่งการตลาดถืออยู่ 31.3 % ISUZU 117,880 คัน เพิ่มขึ้น 9.1 % ส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 25.2 % HONDA 55,018 คัน ลดลง 1.7% ส่วนแบ่งการตลาด 11.8 % MITSUBISHI 29,417 คัน ลดลง 17.5 % ส่วนแบ่งการตลาดได้ไป 6.3 % และ MAZDA (มาซดา) 22,833 คัน เพิ่มขึ้น 3.1 % ส่วนแบ่งการตลาด 4.9 %
เมื่อย่อยจากตัวเลขยอดจำหน่ายรวมมาเป็นเฉพาะรถพิคอัพ 1 ตัน เดือนสิงหาคม 2564 มีการซื้อขายเกิดขึ้นรวม 21,875 คัน ลดลงถึง 40.9 % เมื่อเทียบกับเดือนสิงหาคมปี 2563 พิษของเจ้า COVID-19 โดยแท้ พิคอัพที่จำหน่ายได้มากที่สุดในเดือนสิงหาคมนี้ ยังคงเป็น ISUZU จำหน่ายไป 9,638 คัน ลดลง 36.9 % จากยอดจำหน่ายของเดือนสิงหาคม 2563 ยอดจำหน่ายที่ว่านี้คิดเป็นส่วนแบ่งการตลาดเท่ากับ 44.1 % รองลงมาเป็น TOYOTA จำหน่ายได้ 7,754 คัน ลดลง 42.8 % ส่วนแบ่งการตลาดเท่ากับ 35.4 % ถัดลงมาเป็น FORD (ฟอร์ด) 2,012 คัน ลดลง 23.3 % ส่วนแบ่งการตลาด 9.2 % ต่อด้วยพิคอัพค่าย MITSUBISHI 1,632 คัน ลดลง 48.8 % ส่วนแบ่งการตลาด 7.5 % และ NISSAN 493 คัน ลดลง 64.0 % ส่วนแบ่งการตลาด 2.3 %
7 เดือนของปี 2564 ผ่านพ้นไปเรียบร้อยแล้ว ตัวเลขยอดจำหน่ายของรถพิคอัพ 1 ตัน รวมกันแล้วทั้งสิ้น 246,625 คัน เทียบกับ 7 เดือนแรกของปี 2563 แล้วยังเป็นตัวเลขยอดจำหน่ายที่เพิ่มมากขึ้น 4.4 % โดยที่ ISUZU ยังครองใจชาวพิคอัพส่วนใหญ่เอาไว้ได้อย่างเหนียวแน่น เห็นได้จากตัวเลขยอดจำหน่ายสะสมที่ทะลุ 100,000 คันไปแล้ว เป็นว่าที่แชมพ์ของรถยนต์กลุ่มนี้ จำหน่ายไปแล้วรวม 107,060 คัน เทียบกับระยะเวลาเดียวกันปี 2563 เป็นยอดจำหน่ายที่เพิ่มขึ้น 6.9 % ถือครองส่วนแบ่งการตลาดอยู่ 43.4 % อันดับ 2 TOYOTA คู่แข่งตลอดกาล จำหน่ายแล้วรวม 92,485 คัน เพิ่มขึ้น 15.2 % ส่วนแบ่งการตลาด 37.5 % อันดับ 3 FORD 20,429 คัน เพิ่มขึ้นถึง 24.1 % ส่วนแบ่งการตลาด 8.3 % อันดับ 4 MITSUBISHI 17,835 คัน ลดลง 17.8 % ส่วนแบ่งการตลาด 7.2 % และอันดับ 5 NISSAN 4,779 คัน ลดลง 55.6 % ส่วนแบ่งการตลาด 1.9 %
ทางด้านของรถเสยูวี ซึ่งเป็นตลาดที่มีการเคลื่อนไหวเกิดขึ้นของรถยนต์รุ่นใหม่อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นเอสยูวีสำหรับลูกค้าระดับบน หรือระดับที่ลูกค้าทั่วไปจับต้องได้ เดือนสิงหาคมนี้หนีไม่พ้นพิษ COVID-19 เช่นกัน มีตัวเลขยอดจำหน่ายรวมกันทั้งหมดอยู่ที่ 3,239 คัน ลดลงถึง 56.2 % เมื่อเทียบกับตัวเลขยอดจำหน่ายของเดือนสิงหาคม 2563 และเป็นค่าย MG ที่กลับมาได้รับความนิยมมากสุดอีกเดือนหนึ่ง โดยจำหน่ายได้ 887 คัน ได้ส่วนแบ่งการตลาดไป 27.4 % แต่ตัวเลขยอดจำหน่ายนี้เมื่อเทียบกับที่เคยทำได้ในเดือนสิงหาคม 2563 ยังน้อยกว่าถึง 43.3 % จำหน่ายได้มากสุดเป็นอันดับ 2 คือ MAZDA ด้วยยอด 682 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 21.1 % เป็นยอดจำหน่ายที่ลดลงถึง 54.9 % อันดับ 3 TOYOTA 546 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 16.9 % ลดลงถึง 76.3 % อันดับ 4 HONDA 439 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 13.6 % ลดลง 70.9 % และอันดับ 5 น้องใหม่มาแรง HAVAL ของค่าย GWM จำหน่ายได้ 408 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 12.6 %
ระยะเวลา 7 เดือนที่ผ่านมา รถเอสยูวีจำหน่ายรวมกันแล้วทั้งสิ้น 43,525 คัน เพิ่มขึ้น 17.9 % เมื่อเทียบกับระยะเวลาเดียวกันของปี 2563 ผู้นำของรถยนต์กลุ่มนี้ยังคงเป็น TOYOTA ที่จำหน่ายไปแล้วรวมทั้งสิ้น 12,635 คัน ถือส่วนแบ่งการตลาดสูงสุดที่ 29.0 % เป็นยอดจำหน่ายที่เพิ่มขึ้นถึง 104.8 % อันดับ 2 MG จำหน่ายแล้วรวม 10,561 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 24.3 % เพิ่มขึ้น 5.6 % อันดับ 3 MAZDA จำหน่ายแล้วรวม 8,780 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 20.2 % เพิ่มขึ้น 33.6 % อันดับ 4 HONDA จำหน่ายแล้วรวม 7,461 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 17.1 % ลดลง 18.3 % และอันดับ 5 SUBARU (ซูบารุ) จำหน่ายแล้วรวม 1,889 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 4.3 % เพิ่มขึ้นถึง 225.1 %
สำหรับรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ประเภทอื่นๆ มีตัวเลขยอดจำหน่ายรวมกันทั้งสิ้น 3,217 คัน เพิ่มขึ้น 1.8 % รวม 7 เดือนจำหน่ายไปแล้วรวม 26,774 คัน เพิ่มขึ้น 10.5 % และเดือนสิงหาคม 2564 มีการจดทะเบียนใช้งานรถเอสยูวี และพิคอัพ 1 ตัน รวมกันทั้งสิ้น 36,575 คัน ลดลง 5.7 % เมื่อเทียบกับเดือนสิงหาคม 2563...เราจะผ่านพ้นวิกฤต COVID-19 ไปด้วยกันครับ
เรื่องโดย : ขุนสัญจร
นิตยสาร 417 ฉบับเดือน ธันวาคม ปี 2564
คอลัมน์ Online : วิถีตลาดรถยนต์
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/390521