เป็นรถแนวคิดในรูปลักษณ์ของรถนาครพลังไฟฟ้า และเป็นแม่แบบของรถพลังไฟฟ้าขนาดเล็กกว่าเล็กกะทัดรัดที่ค่ายนี้จะนำออกสู่ตลาดในปี 2025 พร้อมกับป้ายชื่อ VOLKSWAGEN ID.2 (โฟล์คสวาเกน ไอดี.2) และป้ายค่าตัวซึ่งอยู่ระหว่าง 20,000-25,000 ยูโร หรือเท่ากับประมาณ 800,000-1,000,000 บาทไทย (เมื่อคิดว่าในปีนั้นการแลกเปลี่ยนเป็นเงินฝรั่ง 1 ยูโร ต้องใช้เงินไทย 40 บาทถ้วน) ที่แตกต่างแบบสีขาวกับสีดำ หรือสีแดงกับสีเหลือง จากรถพลังไฟฟ้ารหัส ID ที่เห็นกันมาแล้ว 3 อนุกรม (ID.3-ID.4-ID.5) ก็คือ รถทั้ง 3 อนุกรมนี้ล้วนเป็นรถขับเคลื่อนล้อหลัง และขับเคลื่อนทุกล้อ แต่อนุกรมใหม่จะเป็นรถขับเคลื่อนล้อหน้า คาดเดากันในยุโรปว่า สาเหตุสำคัญที่ทำให้เปลี่ยน คือ ต้นทุนการผลิตที่ต่ำกว่า
ตัวถังซึ่งยาว 4.091 ม. กว้าง 1.845 ม. และสูง 1.599 ม. และผลิตโดยใช้วัสดุที่หมุนเวียนกลับมาใช้ใหม่จำนวนมาก เป็นตัวถังแบบแรกของค่ายนี้ที่ใช้พแลทฟอร์ม MEB ซึ่งเพิ่งพัฒนาขึ้นใหม่เป็นพิเศษเพื่อใช้กับรถพลังไฟฟ้าโดยเฉพาะ และระบุเจาะจงไว้เลยว่า เป็นรถระดับเริ่มต้นอย่างที่เรียกกันในภาษาอังกฤษว่า ENTRY VERSION ส่วนสถานที่ผลิตก็กำหนดไว้แล้วว่า จะกระทำที่โรงงานของผู้ผลิตรถยนต์ร่วมเครือ คือ SEAT (เซอัต) ซึ่งอยู่ที่เมือง MARTORELL (มาร์โตเรลล์) ในสเปน
เป็นรถพลังไฟฟ้าขับเคลื่อนล้อหน้า ซึ่งใช้มอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 172 กิโลวัตต์/234 แรงม้า ทำงานร่วมกันกับแบทเตอรีลิเธียม-ไอออน ขนาดความจุ 57 กิโลวัตต์ชั่วโมง ซึ่งการชาร์จไฟแบบเร่งด่วนโดยไฟฟ้ากระแสตรงที่สถานีชาร์จไฟเป็นเวลา 10 วินาที รถจะวิ่งได้ไกล 163 กม. ส่วนกรณีชาร์จไฟเต็ม และวัดตามมาตรฐานใหม่ คือ WLTP รถจะวิ่งได้ไกลถึง 400 กม. สมรรถนะความเร็วของรถแนวคิดคันนี้ ยักษ์ใหญ่เมืองเบียร์บอกว่า อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ใน 6.9 วินาที ส่วนความเร็วสูงสุด คือ 180 กม./ชม.
นอกจากรถติดป้ายชื่อ VOLKSWAGEN ID.2 ที่กล่าวไปแล้ว รถแนวคิดคันนี้ยังเป็นแม่แบบของรถพลังไฟฟ้าอีก 2 แบบ ของผู้ผลิตรถยนต์ร่วมเครืออีก 2 ราย คือ CUPRA (คูปรา) ของสเปน กับ SKODA (สโกดา) ของสาธารณรัฐเชค รถของทั้ง 2 รายนี้จะผลิตที่โรงงานเดียวกันกับรถของ VOLKSWAGEN และยอดผลิตรวมของรถ 3 แบบนี้จะสูงถึง 500,000 คัน/ปีนั่นเทียว 
