ชีวิตอิสระ(4wheels)
ควบ NEW NISSAN TERRA ตะลุยฟาร์มวัวจิระพาณิชย์ ที่แม่แจ่ม
หลังภาครัฐเริ่มผ่อนคลายมาตรการ COVID-19 และสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ เริ่มกลับมาเปิดกันมากขึ้น “ชีวิตอิสระ” จึงออกเดินทางอีกครั้งเพื่อเดินทางไปเยือน “ฟาร์มวัวจิระพาณิชย์ เชียงใหม่” ฟาร์มวัวออร์แกนิคน้องใหม่ที่มีบรรยากาศเหมือนเมืองนอก
พา NEW TERRA ขึ้นแม่แจ่ม สัมผัสเส้นทางคดโค้ง
การไปให้ถึงฟาร์มวัวจิระพาณิชย์ ต้องใช้รถขับเคลื่อน 4 ล้อ เช่น รถกระบะ หรือรถพีพีวี (PPV) เท่านั้น รถขับเคลื่อน 4 ล้ออื่นๆ ที่สูงต่ำกว่านี้ แนะนำให้เช่ารถของทางฟาร์มเข้าไปจะดีกว่า
การเดินทางครั้งนี้ผมเลือก NEW NISSAN TERRA (นิสสัน แตร์รา) ใหม่ เป็นรถคู่ใจ เนื่องจากปรับรูปลักษณ์ภายนอก ภายในใหม่ แถมมีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ PART-TIME และดิฟท์ลอคหลังมาให้ใช้ด้วย ส่วนขุมพลังเป็นดีเซลเทอร์โบคู่ ความจุ 2.3 ลิตร 190 แรงม้า ที่ให้แรงบิดสูงสุด 45.9 กก.-ม. ที่รอบต่ำเพียง 1,500-2,500 รตน. เท่านั้น
เราเดินทางจากกรุงเทพฯ ตามทางหลวงหมายเลข 32 ผ่าน จ. นครสวรรค์ กำแพงเพชร และตาก เมื่อถึง อ. เถิน เลี้ยวซ้ายไปทาง อ. ลี้ เพื่อลัดตัดสู่ทางขึ้นดอยอินทนนท์ ที่ อ. จอมทอง จ. เชียงใหม่ เมื่อผ่านขึ้นดอยผ่านจุดตรวจที่ 2 เลี้ยวซ้ายไป อ. แม่แจ่ม 21 กม. และ ต. ปางหินฝน อีก 27 กม. ทางช่วงนี้เป็นทางแคบที่ลาดชัน คดเคี้ยว ต้องใช้ความระมัดระวังสูง แต่ NEW TERRA ก็ผ่านไปได้อย่างสบาย
นัดพบเจ้าของฟาร์มที่ จิระพาณิชย์ฟาร์มสเตย์
หลังเดินทางกว่า 700 กม. ก็มาถึง “จิระพาณิชย์ฟาร์มสเตย์” ตั้งอยู่ ต. ปางหินฝน อ. แม่แจ่ม จ. เชียงใหม่ ที่นี่เรามีนัดกับพี่โยธิน เจ้าของฟาร์มสเตย์ โดยจะเป็นคนนำทางเราขึ้นไปยังฟาร์มวัวที่อยู่ลึกเข้าไปอีก 10 กม. หลังพูดคุยจนเริ่มคุ้นเคย พี่โยธินก็พาเดินชมรอบๆ ฟาร์มสเตย์ และเล่าให้ฟังว่า ที่นี่สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่พักสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการค้างแรม เพราะที่ฟาร์มวัวนั้นไม่อนุญาตให้ค้างแรมได้ จุดเด่นของที่นี่ คือ มีอากาศเย็นตลอดทั้งปี ในฤดูหนาวบางปี อาจพบอุณหภูมิที่ 0 องศาเซลเซียส ได้ตั้งแต่ 6 โมงเย็น และแน่นอนว่าในตอนเช้า อาจได้พบอุณหภูมิติดลบ
ฟาร์มสเตย์แห่งนี้มีบ้านพัก 2 หลัง และเทนท์โดม 3 หลัง ตัวบ้านพักออกแบบสไตล์รีสอร์ท หลังคาเป็นดาดฟ้าสามารถนั่งทำกิจกรรมได้ ตอนเย็นบรรยากาศดีมาก มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน และที่พิเศษ คือ มีเตาผิงไฟที่ใช้งานได้จริง ห้องน้ำแบบเอาท์ดอร์ รวมถึงอ่างอาบน้ำอย่างดี ในราคาคืนละ 4,500 บาท (ช่วงไฮซีซัน ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน-มกราคม จากนั้นราคาจะปรับลง) รวมอาหารเช้า โดยสามารถพักได้มากกว่า 2 คน ไม่เสียเงินเพิ่ม ส่วนที่พักแบบเทนท์โดม ก็เก๋ไม่เบา มีห้องน้ำในตัว แอร์ เครื่องทำน้ำอุ่นพร้อม ในราคาคืนละ 2,500 บาท รวมอาหารเช้า ส่วนใครอยากกินหมูกระทะ ก็สามารถสั่งได้
พิสูจน์สมรรถนะ NEW TERRA กับเส้นทางขับ 4
กิจกรรมที่นี่ คือ การเยี่ยมชมฟาร์มวัวจิระพาณิชย์ ที่ต้องนั่งรถออกไปจากฟาร์มสเตย์อีก 10 กม. ใช้เวลาประมาณ 45 นาที โดยช่วง 3 กม. สุดท้าย จะเป็นเส้นทางธรรมชาติของชาวบ้านจริงๆ เพื่อใช้เดินทางไปทำสวนทำไร่
โดยปกติแล้ว การเข้าชมฟาร์มวัว นักท่องเที่ยวจะต้องเหมารถของทางฟาร์มไปเท่านั้น เนื่องจากรถทั่วไปไม่สามารถผ่านได้ เพราะถนนอันตราย ต้องใช้รถขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่มีความสูงจากพื้นมากพอเท่านั้น โดยทางฟาร์มจะคิดเหมาไป-กลับ เพียง 800 บาท/คัน ซึ่งไม่แพงเลย ถ้าได้เห็นเส้นทางที่ไป แถมขากลับยังพาแวะเที่ยวสวนส้ม และขึ้นไปชมพระอาทิตย์ตกอีกด้วย
และสำหรับคนที่ไม่ได้เข้าพักในฟาร์มสเตย์ ทางฟาร์มขอคิดค่าเข้าชมฟาร์มเพิ่มคนละ 50 บาท และแน่นอนว่าครั้งนี้ ผมได้ขออนุญาตนำรถเข้าไปเป็นกรณีพิเศษ
เส้นทางช่วงแรก เป็นทางปูนคดโค้งที่ไม่กว้างนัก มีถนนพังเป็นระยะๆ ความตื่นเต้นอยู่ที่ 3 กม. สุดท้าย เนื่องจากฝนได้เทลงมาอย่างหนักก่อนหน้านี้ จนดินเละเป็นโคลน มีเพียงร่องถนนเท่านั้น ให้เราเกาะตามร่องไปได้ ผมเลือกใช้เกียร์ 4H โดยพยายามตามไลน์รถเจ้าถิ่นของพี่โยธินแบบ เหมือนเป๊ะ บางช่วงถนนพังมากจนต้องใช้ดิฟท์ลอคหลังช่วย ไม่นานนัก NEW TERRA ก็พาผมไปถึงฟาร์มวัวได้อย่างปลอดภัย
จิระพาณิชย์ ฟาร์มวัวสีเขียว บรรยากาศเมืองนอก
ฟาร์มวัวจิระพาณิชย์ มีทั้งหมด 5 จุด ซึ่งจุดแรกที่เรามาถึง มีพื้นที่มากสุด และสวยที่สุดด้วยเช่นกัน ทันทีที่เห็น บอกได้แบบไม่คิดเลยว่า สวยมากๆ เป็นฟาร์มวัวขนาดใหญ่ มีพื้นที่สีเขียวครอบคลุมไปทั่วเขาทั้งลูก บริเวณตีนเขามีโรงเรือนขนาดใหญ่ตั้งอยู่ ข้างๆ มีต้นไม้ใหญ่อยู่ 1 ต้น น่าเสียดายตอนที่เราไป เขาต้อนวัวไปกินหญ้าฟาร์มข้างๆ (ฟาร์มที่ 2, 3 และ 4) ทำให้ไม่มีวัวในฟาร์มนี้เลยสักตัว ผมจึงขออนุญาตพี่โยธินนำเจ้า NEW TERRA ขับขึ้นเนินไปถ่ายรูปมุมสูงเสียหน่อย ผมเลือกใช้เกียร์ 4L เพราะเห็นว่าทางชันมากๆ แต่ก็ไต่ขึ้นไปได้อย่างสบาย โดยขณะที่ลง ผมใช้ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (HDC) ซึ่งสามารถปล่อยเท้าจากเบรคได้เลย แถมลงได้สมูทกว่าขับเองเสียอีก
ทันทีที่กลับลงมา ฝนก็เทกระหน่ำเราอีกครั้ง พี่โยธินจึงบอกให้เรารีบออกจากฟาร์มทันที ก่อนที่รถของเราทั้งคู่จะติดหล่ม พี่โยธินยังพานำผ่านฟาร์มที่ 2, 3 และ 4 ที่อยู่ติดกัน และเดินทางต่อไปฟาร์มที่ 5 ซึ่งเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกกันต่อ
ชมอาทิตย์ตก แลยอดอินทนนท์ ที่ฟาร์มวัวจุดสุดท้าย
ฟาร์มที่ 5 ทางขึ้นจะอยู่ตรง อบต. ปางหินฝน โดยต้องขับขึ้นเขาไปอีก 5 กม. ฟาร์มจุดนี้มีพื้นที่ 18 ไร่ อยู่บนความสูงประมาณ 1,700 ม. จากระดับน้ำทะเล เป็นจุดที่สามารถเห็นยอดดอยอินทนนท์ได้อย่างชัดเจน หากฟ้าเปิดจะเห็นพระธาตุดอยอินทนนท์ได้ ด้านหลังเป็นวิวเขาสูงที่สวยงามแบบ 360 องศา สามารถเห็น อ. แม่ลาน้อย จ. แม่ฮ่องสอน รวมถึงประเทศเมียนมาร์ได้ชัดเจน
วัวที่ฟาร์มจิระพาณิชย์มีทั้งหมดประมาณ 70 ตัว โดยกระจายตัวอยู่ที่ฟาร์มในหลายจุด วัวทุกตัวเป็นสายพันธุ์ชาโลเลส์ลูกผสมจากฝรั่งเศส ที่เลี้ยงแบบออร์แกนิค คือ ปล่อยให้กินหญ้าเองตามใจชอบตลอด 24 ชม. ตามจุดประสงค์เพื่อให้เป็นการท่องเที่ยวเชิงเกษตรปศุสัตว์ธรรมชาติ ที่เลี้ยงไว้เป็นพ่อพันธุ์ แม่พันธุ์ และให้ผู้ที่สนใจเอาไปเลี้ยงต่อ ไม่ได้เลี้ยงเพื่อขายเอาไปบริโภค
นักท่องเที่ยวที่มาจะได้เห็นวิถีชีวิตตามธรรมชาติดั้งเดิมของวัว และด้วยภูมิประเทศที่สวยงาม ทำให้วัวที่นี่ไม่มีความเครียด สังเกตเมื่อมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมชม วัวจะเดินเข้ามาหาเอง ไม่มีอาการกลัวคนแต่อย่างใด บางครั้งก็เอาหัวมาสีกับเจ้า TERRA ด้วย
ก่อนกลับ พี่โยธินยังเล่าอีกว่า ในอนาคตบริเวณฟาร์มจุดที่ 5 นี้จะปลูกดอกไฮเดรนเยีย หรือดอกลาเวนเดอร์ เพื่อส่งเสริมให้เป็นจุดท่องเที่ยวต่อไป ซึ่งตอนนี้กำลังศึกษา และทดลองปลูกอยู่
และย้ำอีกว่า สำหรับใครที่ต้องการมาเยี่ยมชมฟาร์มวัวจิระพาณิชย์ ต้องติดต่อมาทางเพจก่อนล่วงหน้าเท่านั้น ไม่รับวอล์ค-อิน เนื่องจากต้องจำกัดจำนวนผู้เข้าชม โดยเฉพาะในสถานการณ์ COVID-19 แบบนี้
แวะชมวิวบ้านบนนา เห็นทั้งเมืองแบบพาโนรามา
อาชีพของคนแม่แจ่ม ส่วนใหญ่ทำการเกษตร ปลูกข้าว ทำไร่ ทำนา เป็นหลัก และด้วยสภาพพื้นที่เป็นที่ราบสูง จึงต้องปลูกข้าวแบบขั้นบันได ซึ่งสวยงามจนเป็นเอกลักษณ์ และเป็นภาพจำของคนต่างถิ่นได้อย่างดี
จุดชมวิวนี้อยู่ห่างจากตัวเมืองเพียง 5 กม. ซึ่งเป็นทางกลับของเราพอดี ใครที่ไปจะต้องสังเกตจุดชมวิวให้ดี เพราะไม่มีป้ายบอก ต้องชะโงกเองเป็นระยะ ถ้าตรงไหนสวย และพอจะจอดรถลงไปถ่ายรูปได้ ก็ให้ลุยโลดเลยครับ
แผนที่
ขอขอบคุณ
บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ที่เอื้อเฟื้อรถยนต์ในการเดินทาง
เรื่องโดย : วิธวินท์ ไตรพิศ
ภาพโดย : เกรียงศักดิ์ ปันสม
นิตยสาร 417 ฉบับเดือน พฤศจิกายน ปี 2564
คอลัมน์ Online : ชีวิตอิสระ(4wheels)
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/387231