 นับเป็นรถไฮบริดชนิดต้องมีการเสียบปลั๊กเพื่อชาร์จไฟ หรือ PLUG-IN HYBRID แบบแรกในประวัติศาสตร์ที่ยาวนานกว่า 1 ศตวรรษของค่ายนี้ เป็นรถตลาด หรือรถผลิตเพื่อจำหน่ายที่พัฒนาต่อกิ่งต่อก้านจากรถแนวคิด ASTON MARTIN AM-RB 003 (แอสตัน มาร์ทิน เอเอม-อาร์บี 003) ซึ่งเป็นผลงานจากความร่วมมือกับทีมแข่งรถ RED BULL (เรด บูลล์) และปรากฏตัวครั้งแรกที่งานมหกรรมยานยนต์เจนีวาเมื่อเดือนมีนาคม 2019
นับเป็นรถไฮบริดชนิดต้องมีการเสียบปลั๊กเพื่อชาร์จไฟ หรือ PLUG-IN HYBRID แบบแรกในประวัติศาสตร์ที่ยาวนานกว่า 1 ศตวรรษของค่ายนี้ เป็นรถตลาด หรือรถผลิตเพื่อจำหน่ายที่พัฒนาต่อกิ่งต่อก้านจากรถแนวคิด ASTON MARTIN AM-RB 003 (แอสตัน มาร์ทิน เอเอม-อาร์บี 003) ซึ่งเป็นผลงานจากความร่วมมือกับทีมแข่งรถ RED BULL (เรด บูลล์) และปรากฏตัวครั้งแรกที่งานมหกรรมยานยนต์เจนีวาเมื่อเดือนมีนาคม 2019
 ตัวถังรูปทรงวิจิตรพิสดาร ออกแบบแกนกลางเป็น CARBON FIBER TUB (คาร์บอนไฟเบอร์ ทับ) โครงสร้างที่มีลักษณะเหมือนอ่างอาบน้ำ และทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ รถจึงค่อนข้างเบา คือ มีน้ำหนักรถเปล่าเพียง 1,550 กก. ส่วนห้องโดยสารที่นั่งได้เพียง 2 คน ขณะรายงานข่าวนี้ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดใดๆ
ตัวถังรูปทรงวิจิตรพิสดาร ออกแบบแกนกลางเป็น CARBON FIBER TUB (คาร์บอนไฟเบอร์ ทับ) โครงสร้างที่มีลักษณะเหมือนอ่างอาบน้ำ และทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ รถจึงค่อนข้างเบา คือ มีน้ำหนักรถเปล่าเพียง 1,550 กก. ส่วนห้องโดยสารที่นั่งได้เพียง 2 คน ขณะรายงานข่าวนี้ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดใดๆ
 เป็นรถขับเคลื่อนทุกล้อด้วยระบบขับไฮบริดชนิดต้องเสียบปลั๊ก ที่เป็นผลงานจากความร่วมมือกับ MERCEDES-BENZ (เมร์เซเดส-เบนซ์) แห่งเยอรมนี ซึ่งเป็นหุ้นส่วนทางเทคนิค และเป็นผู้ถือหุ้นของค่ายนี้อยู่ร้อยละ 20 เป็นระบบที่ใช้เครื่องยนต์ทวินเทอร์โบ เบนซิน วี 8 สูบ 4.0 ลิตร 551 กิโลวัตต์/750 แรงม้า ของ MERCEDES-AMG (เมร์เซเดส-เอเอมจี) กับมอเตอร์ไฟฟ้า 1 ชุด และระบบเกียร์อัตโนมัติคลัทช์คู่ 8 จังหวะ ขับล้อคู่หลัง กับใช้มอเตอร์ไฟฟ้าอีกชุด ขับล้อคู่หน้า ได้กำลังรวมสูงสุด 699 กิโลวัตต์/950 แรงม้า นับเป็นรถไฮบริดตีนไฟ อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ในเวลาแค่ 2.5 วินาที ความเร็วสูงสุด 300 กม./ชม. และเมื่อชาร์จไฟเต็มจะวิ่งด้วยพลังไฟฟ้าล้วนๆ ได้ไกล 15 กม. แต่ความเร็วสูงสุดจะลดเป็น 130 กม./ชม.
มีกำหนดออกตลาดในช่วงครึ่งหลังของปี 2023 ราคาค่าตัวของรถที่ได้ชื่อรุ่นจากชื่อของสรวงสวรรค์สำหรับนักรบในเทพปกรณัมของชาวยุโรปเหนือนี้ คาดกันว่าน่าจะอยู่ที่ระดับ 0.60-0.70 ล้านปอนด์อังกฤษ หรือประมาณ 27.0-31.5 ล้านบาทไทย
เป็นรถขับเคลื่อนทุกล้อด้วยระบบขับไฮบริดชนิดต้องเสียบปลั๊ก ที่เป็นผลงานจากความร่วมมือกับ MERCEDES-BENZ (เมร์เซเดส-เบนซ์) แห่งเยอรมนี ซึ่งเป็นหุ้นส่วนทางเทคนิค และเป็นผู้ถือหุ้นของค่ายนี้อยู่ร้อยละ 20 เป็นระบบที่ใช้เครื่องยนต์ทวินเทอร์โบ เบนซิน วี 8 สูบ 4.0 ลิตร 551 กิโลวัตต์/750 แรงม้า ของ MERCEDES-AMG (เมร์เซเดส-เอเอมจี) กับมอเตอร์ไฟฟ้า 1 ชุด และระบบเกียร์อัตโนมัติคลัทช์คู่ 8 จังหวะ ขับล้อคู่หลัง กับใช้มอเตอร์ไฟฟ้าอีกชุด ขับล้อคู่หน้า ได้กำลังรวมสูงสุด 699 กิโลวัตต์/950 แรงม้า นับเป็นรถไฮบริดตีนไฟ อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ในเวลาแค่ 2.5 วินาที ความเร็วสูงสุด 300 กม./ชม. และเมื่อชาร์จไฟเต็มจะวิ่งด้วยพลังไฟฟ้าล้วนๆ ได้ไกล 15 กม. แต่ความเร็วสูงสุดจะลดเป็น 130 กม./ชม.
มีกำหนดออกตลาดในช่วงครึ่งหลังของปี 2023 ราคาค่าตัวของรถที่ได้ชื่อรุ่นจากชื่อของสรวงสวรรค์สำหรับนักรบในเทพปกรณัมของชาวยุโรปเหนือนี้ คาดกันว่าน่าจะอยู่ที่ระดับ 0.60-0.70 ล้านปอนด์อังกฤษ หรือประมาณ 27.0-31.5 ล้านบาทไทย                    

