ตัวถังซึ่งยาว 5.216 ม. กว้าง 1.926 ม. สูง 1.512 ม. และช่วงฐานล้อยาว 3.210 ม. มีค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศที่เยี่ยมยอดมาก คือ ต่ำเพียง 0.20 เป็นตัวเลขที่ทำให้สามารถบันทึกไว้ตรงไหนก็ได้ว่า นี่คือ รถตลาดหรือรถผลิตเพื่อจำหน่ายที่ ”ลื่นลมที่สุดในโลก” เป็นตัวถังที่ออกแบบให้นั่งได้รวม 5 คน และมีคุณลักษณะมากมายที่ไม่ค่อยได้พบได้เห็นกันในรถแบบอื่นๆ ตัวอย่างเช่น AUTOMATIC COMFORT DOORS หรือประตูอัตโนมัติ ที่ประตูหน้าด้านผู้ขับจะเปิดออกเองเมื่อผู้ขับเดินเข้าใกล้ และอาศัยการทำงานผ่านระบบสื่อสารบันเทิง MBUX (MERCEDES-BENZ USER EXPERIENCE) ผู้ขับสามารถเปิด/ปิดประตูข้างบานหลังด้วยระบบควบคุมระยะไกล REAR-AXLE STEERING หรือระบบบังคับเลี้ยวด้วยล้อคู่หลัง ซึ่งเพิ่มความคล่องตัวเมื่อรถวิ่งช้าเพิ่มสมรรถนะการทรงตัวเมื่อรถวิ่งเร็ว และ FLUSH HANDLES หรือที่เปิด/ปิดประตูซึ่งราบเรียบเป็นระนาบเดียวกันกับตัวถัง และไร้รอยสะดุดลม
ในยุโรปรถแบบนี้มีกำหนดออกตลาดในเดือนสิงหาคม 2021 และมีรถให้เลือกเพียง 2 โมเดล คือ รถขับล้อหลัง MERCEDES-EQ EQS 450+ (เมร์เซเดส-อีคิว อีคิวเอส 450+) กับรถขับทุกล้อ MERCEDES-EQ EQS 580 4MATIC (เมร์เซเดส-อีคิว อีคิวเอส 580 4 เมทิค) โมเดลแรกติดตั้งระบบขับซึ่งใช้มอเตอร์ไฟฟ้า PERMANENT EXCITED SYNCHRONOUS MOTOR ขนาด 245 กิโลวัตต์/333 แรงม้า ทำงานร่วมกันกับแบทเตอรีลิเธียม-ไอออน ขนาด 107.8 กิโลวัตต์ชั่วโมง ส่วนโมเดลหลังใช้มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ชุด ให้กำลังสุทธิสูงสุด 385 กิโลวัตต์/524 แรงม้า ทำงานร่วมกันกับแบทเตอรีลิเธียม-ไอออน ขนาดเดียวกับโมเดลแรก
ตามตัวเลขของค่าย ”ดาวสามแฉก” รถโมเดลหลัง อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.ทำได้ใน 4.3 วินาที ความเร็วสูงสุดจำกัดไว้ที่ 210 กม./ชม. กรณีวัดตามมาตรฐาน WLTP จะมีอัตราสิ้นเปลืองพลังไฟฟ้าเฉลี่ย 0.183-0.214 กิโลวัตต์ชั่วโมง/กม. และวิ่งได้ไกลถึง 676 กม. เมื่อชาร์จไฟเต็ม ผู้ผลิตรถหรูของเมืองเบียร์บอกด้วยว่า การชาร์จไฟจาก 10-100 % โดยอุปกรณ์ที่เรียกว่า WALLBOX (วอลล์บอกซ์) ซึ่งเป็นไฟฟ้ากระแสสลับ 3-เฟส จะใช้เวลาถึง 10 ชม. เมื่อเป็นไฟ 11 กิโลวัตต์ และจะใช้เพียง 5 ชม. เมื่อเป็นไฟ 5 กิโลวัตต์ ส่วนการชาร์จไฟแบบเร่งด่วนที่สถานีบริการซึ่งเป็นไฟฟ้ากระแสตรง จะใช้เวลาเพียง 31 นาทีเท่านั้นในการชาร์จไฟ 10-80 %
MERCEDES-EQ EQS 580 4MATIC

