ความน่าสนใจของรถยนต์ในค่ายของ GWM (กเรท วอลล์ มอเตอร์) นับตั้งแต่เปิดตัวรถยนต์ในชื่อของ HAVAL (ฮาวัล) นั้น ถ้าเราลองไล่ดูความเป็นมา จะเห็นว่ามีสิ่งที่น่าสนใจ คือ เรื่องของพแลทฟอร์ม L.E.M.O.N. ที่ใช้ร่วมกับรถยนต์อีกหลายรุ่น เช่น HAVAL JOLION (ฮาวัล โจเลียน) และ HAVAL DAGOU (ฮาวัล ต้าโกว)รูปร่างต่าง แต่พแลทฟอร์มเดียวกัน
HAVAL JOLION และ HAVAL DAGOU มีมิติตัวรถ และรูปร่างหน้าตาแตกต่างกันพอสมควร แสดงให้เห็นว่าพแลทฟอร์มนี้มีความสามารถในการปรับเปลี่ยนมิติของตัวรถ เพื่อให้เกิดความหลากหลายในการพัฒนาตัวรถแต่ละรุ่น ให้ตรงกับความต้องการของกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ในเรื่องของการพัฒนาพแลทฟอร์มลักษณะนี้ เริ่มใช้อย่างแพร่หลายตั้งแต่ช่วง 15-20 ปีที่ผ่านมา ข้อดีของการใช้พแลทฟอร์มร่วมกันมีหลายอย่าง อย่างแรก คือ การลดต้นทุนการพัฒนาได้มาก ไม่เช่นนั้นถ้าจะขายรถ 4 รุ่น ต้องพัฒนาถึง 4 พแลทฟอร์ม ต้องใช้ต้นทุนสูงมาก และอาจจะได้ความสมบูรณ์แบบไม่เท่ากัน
การใช้พแลทฟอร์มร่วมกัน สามารถทุ่มเทการพัฒนาทั้งทีมวิจัย และงบประมาณได้อย่างเต็มที่ คำว่า “พแลทฟอร์ม” หมายถึง ส่วนสำคัญๆ คือ โครงสร้างพื้นรถ, เครื่องยนต์, ระบบส่งกำลัง และช่วงล่าง ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาตัวรถ เมื่อได้พแลทฟอร์มที่สมบูรณ์แบบ ก็สามารถนำไปออกแบบในส่วนของตัวถังที่สามารถทำได้หลากหลายรูปแบบ และประเภท
เทคโนโลยีพแลทฟอร์ม L.E.M.O.N
พแลทฟอร์ม L.E.M.O.N. ถูกพัฒนาโดยเน้นเรื่องของความยืดหยุ่น, มีประสิทธิภาพสูง, ปลอดภัย และน้ำหนักเบา HAVAL H6 GEN 3 (ฮาวัล เอช 6 เจเนอเรชัน 3) เป็นรถรุ่นแรกในต่างประเทศที่ใช้พแลทฟอร์ม L.E.M.O.N. และมีน้ำหนักเบากว่ารุ่นก่อน 8-10 % ทั้งยังมีสมรรถนะสูงขึ้นทั้งในด้านอัตราเร่ง การเบรค การควบคุมพวงมาลัย และการไต่ทางชัน โดยสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงน้อยลง ยิ่งไปกว่านั้น วัสดุกว่า 70 % ของรถรุ่นนี้ ยังทำจากแรงดึงสูง และชิ้นส่วนสำคัญ (เช่น COLUMN A, COLUMN B และกรอบประตู) รับแรงดันได้ถึง 2,000 เมกะปาสกาล ใช้เทคโนโลยีการประสานโลหะแบบ HOT STAMPING DOOR RING ที่ใช้แทน SPOT WELDING SPLICED เพิ่มความแข็งแรงให้มากขึ้น ช่วยลดการยุบตัวของโครงสร้างตัวถังเมื่อเกิดการชน ช่วยปกป้องผู้ขับขี่ และผู้โดยสาร เพิ่มความปลอดภัยในการชนแบบเหลื่อมกันเพิ่มขึ้นถึง 25 %
ขณะเดียวกันโครงสร้างส่วนอื่น เช่น โครงสร้างด้านหน้า และด้านหลัง ถูกออกแบบโดยใช้โลหะต่างชนิดกัน โดยออกแบบให้โครงสร้างทั้ง 2 ส่วน มีการดูดซับ และกระจายแรงกระแทกให้ได้มากที่สุด เพื่อให้แรงกระแทกเข้าไปสู่โครงสร้างห้องโดยสารน้อยที่สุด นอกจากนี้ ยังต้องพัฒนาให้รองรับกับการใช้งานของระบบช่วยเหลือ และระบบความปลอดภัยต่างๆ ที่มีให้ทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ 
