วิถีตลาดรถยนต์
เหมือนจะดีขึ้น
เปรียบเทียบยอดจำหน่ายรถยนต์ประจำเดือนมีนาคม 2021/2020
เปรียบเทียบยอดจำหน่ายรถยนต์ประจำเดือนมกราคม-มีนาคม 2021/2020
ตลาดโดยรวม | + 33.0 % |
รถยนต์นั่ง | + 45.8 % |
รถกิจกรรมกลางแจ้ง (SUV) | + 29.6 % |
กระบะ 1 ตัน | + 6.5 % |
รถเพื่อการพาณิชย์ | + 200.2 % |
ตลาดโดยรวม | - 3.0 % |
รถยนต์นั่ง | - 16.7 % |
รถกิจกรรมกลางแจ้ง (SUV) | + 30.0 % |
กระบะ 1 ตัน | - 3.5 % |
รถเพื่อการพาณิชย์ | + 62.8 % |
ถึงแม้ว่าสถานการณ์การระบาดของเชื้อร้าย COVID-19 จะยังคงสร้างความปั่นป่วนให้แก่วิถีการดำเนินชีวิตจนต้องมีการปรับรูปแบบการใช้ชีวิตสู่ชีวิตวิถีใหม่กันไปก็ตาม แต่เดือนมีนาคมนี้ดูเหมือนว่าการรับมือกับสถานการณ์เลวร้ายนี้จะปรับเปลี่ยนไปในทิศทางที่ดีขึ้น เมื่อเริ่มมีการทยอยฉีดวัคซีนต้านไวรัสนี้แล้วตั้งแต่ปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และจะมีการทยอยรับวัคซีนเข้ามาแจกจ่ายฉีดให้แก่กลุ่มวัยต่างๆ เพิ่มมากขึ้นตามปริมาณของวัคซีนที่ได้รับต่อไป ขณะที่ภาครัฐก็มีการช่วยแก้ปัญหาปากท้องของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดครั้งนี้ด้วยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ ทำให้ดูเหมือนว่ามีการจับจ่ายซื้อของสินค้าอุปโภคบริโภคกันมากขึ้นในเดือนมีนาคมนี้ ทั้งนี้ ภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศก็เริ่มขยับปรับตัวไปในทิศทางที่ดีขึ้นเช่นกัน โดยตัวเลขยอดจำหน่ายรถยนต์ใหม่ของเดือนมีนาคมนี้ได้พลิกกลับมามีตัวเลขที่เพิ่มมากขึ้นกว่าตัวเลขยอดจำหน่ายของเดือนเดียวกันปีที่ผ่านมา เป็นเดือนแรก หลังจากที่ปิดตัวอยู่ในแดนลบมาอย่างต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่าตัวเลขยอดจำหน่ายรถยนต์ใหม่ที่เพิ่มมากขึ้นในเดือนมีนาคมนี้ เป็นผลมาจากการจัดงาน บางกอก อินเตอร์เนชันแนล มอเตอร์โชว์ ในช่วงปลายเดือนมีนาคม คาบเกี่ยวไปยังช่วงต้นเดือนเมษายน อย่างไรก็ตาม ก็ต้องดูกันยาวๆ ว่าตัวเลขยอดจำหน่ายที่เพิ่มมากขึ้นนี้จะยืนระยะต่อเนื่องต่อไปจนทำให้บทสรุปสุดท้าย คือ ตัวเลขยอดจำหน่ายรถยนต์ของปี 2564 เป็นไปตามคาดการณ์ของผู้คร่ำหวอดในแวดวงยานยนต์ทำนายทายทักกันไว้ได้หรือไม่ในเดือนมีนาคม 2564 มีการซื้อขายรถยนต์ใหม่ป้ายแดงรวมกันทุกประเภททุกโมเดลรุ่นที่ 79,969 คัน เป็นตัวเลขยอดจำหน่ายที่ปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่ผ่านมาถึง 33.0 % โดยตัวเลขยอดจำหน่ายที่ปรับตัวเพิ่มมากขึ้นนี้ เกิดขึ้นกับทุกกลุ่มก้อนของตลาด ไม่ว่าจะเป็นตลาดรถยนต์นั่ง, รถยนต์เพื่อการใช้งานเชิงพาณิชย์ อย่างรถพิคอัพ 1 ตัน หรือรถเอสยูวี ถึงแม้ว่าเมื่อนำตัวเลขยอดจำหน่ายของเดือนมีนาคมนี้ ไปบวกรวมกับตัวเลขยอดจำหน่ายของ 2 เดือนแรกที่ผ่านมา จะยังไม่สามารถทำให้ตัวเลขยอดจำหน่ายรวมของไตรมาสแรกของปี 2564 เพิ่มมากขึ้นกว่ายอดจำหน่ายสะสมของไตรมาสแรกปี 2563 ก็ตาม แต่ก็ยังช่วยให้ช่วงห่างนั้นขยับชิดใกล้เข้ามาได้มากพอสมควร จนพอจะคาดหวังถึงตัวเลขยอดจำหน่ายที่เพิ่มมากขึ้นกว่าเดิมในไตรมาสต่อๆ ไป หากไม่มีเหตุการณ์ที่ไม่พึงปรารถนาเกิดขึ้นอีก เดือนมีนาคม 2564 รถยนต์ที่ยังคงได้รับความนิยมสูงสุด 5 อันดับแรก ยังคงเป็นรถยนต์ยี่ห้อเดิมๆ ไม่เปลี่ยนแปลง อันดับ 1 เป็นรถยนต์ TOYOTA (โตโยตา) จำหน่ายได้ 22,233 คัน เพิ่มมากขึ้นกว่าเดือนมีนาคม ปีที่ผ่านมา 28.6 % คิดเป็นส่วนแบ่งการตลาดเท่ากับ 27.8 % อันดับ 2 รถยนต์ ISUZU (อีซูซุ) จำหน่ายได้ 17,523 คัน เพิ่มขึ้น 28.6 % เช่นกัน ส่วนแบ่งการตลาดเท่ากับ 21.9 % อันดับ 3 รถยนต์ HONDA (ฮอนดา) จำหน่ายได้ 10,295 คัน เพิ่มขึ้น 37.2 % ส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 12.9 % อันดับ 4 รถยนต์ MITSUBISHI (มิตซูบิชิ) จำหน่ายได้ 5,123 คัน เพิ่มขึ้น 2.5 % ส่วนแบ่งการตลาด 6.4 % และอันดับ 5 รถยนต์ MAZDA (มาซดา) จำหน่ายได้ 4,644 คัน เพิ่มขึ้นถึง 49.2 % ส่วนแบ่งการตลาด 5.8 % สำหรับไตรมาสแรกของปี 2564 ตัวเลขยอดจำหน่ายรถยนต์ใหม่สะสมรวมกันทั้งหมดอยู่ที่ 194,137 คัน เทียบกับไตรมาสแรกของปี 2563 ลดลง 3.0 % ยอดจำหน่ายสะสมรวมสูงสุดประกอบด้วย TOYOTA 55,772 คัน ลดลง 0.5 % เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกปี 2563 ส่วนแบ่งการตลาดของไตรมาสแรกอยู่ที่ 28.7 % ISUZU ตามมาด้วยตัวเลขยอดจำหน่ายรวม 49,248 คัน เพิ่มขึ้น 16.2 % ส่วนแบ่งการตลาด 25.4 % ต่อด้วย HONDA 24,959 คัน ลดลง 13.0 % ส่วนแบ่งการตลาด 12.9 % MITSUBISHI 12,085 คัน ลดลง 28.8 % ส่วนแบ่งการตลาด 6.2 % และ MAZDA 10,890 คัน เพิ่มขึ้น 7.3 % ส่วนแบ่งการตลาด 5.6 % และนี่คือรถยนต์ที่ได้รับความนิยมสูงสุด 5 อันดับแรกในไตรมาสแรกของปี 2564 ในส่วนของรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ในกลุ่มก้อนของรถพิคอัพ 1 ตัน เดือนมีนาคม 2564 ตลาดนี้มีตัวเลขยอดจำหน่ายรวมกันทั้งสิ้น 32,256 คัน เป็นตัวเลขยอดจำหน่ายที่เพิ่มมากขึ้น 6.5 % เมื่อเทียบกับตัวเลขยอดจำหน่ายเดือนมีนาคมปี 2563 ซึ่ง ISUZU ยังคงความเป็นหนึ่งในตลาดรถยนต์ประเภทนี้อย่างต่อเนื่อง โดยเดือนมีนาคมนี้มีตัวเลขยอดจำหน่ายที่ 13,909 คัน เพิ่มขึ้น 10.1 % เทียบกับเดือนมีนาคม 2563 ส่วนแบ่งการตลาดเท่ากับ 43.1 % รองลงมาเป็นคู่แข่งสำคัญ TOYOTA จำหน่ายได้ 11,855 คัน เพิ่มขึ้น 14.6 % ส่วนแบ่งการตลาดเท่ากับ 36.8 % ขวัญใจนักเลงรถพิคอัพ อันดับ 3 เป็นของ FORD (ฟอร์ด) จำหน่ายได้ 2,766 คัน เพิ่มขึ้นถึง 25.4 % ส่วนแบ่งการตลาดเท่ากับ 8.6 % ตามด้วย MITSUBISHI จำหน่ายได้ 2,096 คัน ลดลง 28.5 % เมื่อเทียบกับมีนาคม 2563 ส่วนแบ่งการตลาด 6.5 % และอันดับ 5 NISSAN (นิสสัน) จำหน่ายได้ 966 คัน ลดลง 21.4 % ส่วนแบ่งการตลาด 3.0 % ไตรมาสแรกปี 2564 รถพิคอัพ 1 ตัน มีตัวเลขยอดจำหน่ายรวมกันทั้งสิ้น 93,532 คัน ยังคงติดลบ 3.5 % เมื่อนำไปเทียบกับตัวเลขยอดจำหน่ายไตรมาสแรกของปี 2563 อันดับ 1 ในไตรมาสแรกนี้เป็นของ ISUZU จำหน่ายไปแล้วรวม 43,507 คัน เพิ่มขึ้น 9.8 % จากตัวเลขยอดจำหน่ายในไตรมาสแรกปี 2563 ส่วนแบ่งการตลาดไตรมาสแรกอยู่ที่ 46.5 % ต่อด้วย TOYOTA จำหน่ายไปแล้วรวม 32,130 คัน ลดลง 1.8 % จากไตรมาสแรกปี 2563 ส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 34.4 % ตามด้วย FORD 7,663 คัน เพิ่มขึ้น 6.4 % ส่วนแบ่งการตลาด 8.2 % MITSUBISHI 6,219 คัน ลดลง 36.8 % ส่วนแบ่งการตลาด 6.6 % และ NISSAN 2,103 คัน ลดลงถึง 53.8 % ส่วนแบ่งการตลาด 2.2 % รถเอสยูวี ที่ความต้องการรถยนต์ประเภทนี้เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง เดือนมีนาคมนี้มียอดจำหน่ายรวมกันทั้งสิ้น 7,459 คัน เพิ่มขึ้นถึง 29.6 % เมื่อเทียบกับเดือนมีนาคมปี 2563 แชมพ์ยอดจำหน่ายเดือนนี้ยังคงเป็น TOYOTA ที่จำหน่ายไปได้ 1,893 คัน เป็นยอดจำหน่ายที่เพิ่มขึ้นถึง 414.4 % ส่วนแบ่งการตลาดได้ไป 25.4 % MG (เอมจี) มียอดจำหน่ายที่ตามหลัง TOYOTA ไม่ห่างนัก จำหน่ายได้ 1,840 คัน เพิ่มขึ้น 13.5 % ส่วนแบ่งการตลาด 24.7 % เช่นเดียวกับ MAZDA ที่ยอดจำหน่ายก็ไม่ห่างจาก MG นัก โดยจำหน่ายได้ 1,785 คัน เพิ่มขึ้นถึง 126.5 % ส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 23.9 % อันดับ 4 เป็นของ HONDA จำหน่ายได้ 1,342 คัน ลดลง 6.5 % ส่วนแบ่งการตลาด 18.0 % และอันดับ 5 SUBARU (ซูบารุ) จำหน่ายได้ 330 คัน เพิ่มขึ้นถึง 307.4 % ส่วนแบ่งการตลาด 4.4 % ตัวเลขยอดจำหน่ายรวมรถเอสยูวีทั้งหมดในไตรมาสแรกของปี 2564 อยู่ที่ 19,357 คัน เป็นยอดจำหน่ายที่เพิ่มขึ้นถึง 30.0 % เมื่อเปรียบเทียบกับตัวเลขยอดจำหน่ายในไตรมาสแรกของปี 2563 แชมพ์ไตรมาสแรกของกลุ่มก้อนนี้เป็น TOYOTA ที่กวาดตัวเลขยอดจำหน่ายไปแล้ว 5,257 คัน เป็นยอดจำหน่ายที่เพิ่มขึ้นถึง 288.3 % ส่วนแบ่งการตลาดไตรมาสแรก 27.2 % อันดับ 2 เป็นแชมพ์เก่า MG จำหน่ายแล้วรวม 4,745 คัน เพิ่มขึ้น 13.3 % ส่วนแบ่งการตลาด 24.5 % อันดับ 3 MAZDA จำหน่ายแล้วรวม 4,071 คัน เพิ่มขึ้น 125.5 % ส่วนแบ่งการตลาด 21.0 % อันดับ 4 HONDA จำหน่ายแล้ว 3,612 คัน ลดลง 23.5 % ส่วนแบ่งการตลาด 18.7 % และอันดับ 5 SUBARU จำหน่ายแล้ว 946 คัน เพิ่มขึ้น 120.0 % ส่วนแบ่งการตลาด 4.9 % รถยนต์เพื่อการพาณิชย์อื่นๆ ยกเว้นรถยนต์นั่งส่วนบุคคล เดือนมีนาคม 2564 มีตัวเลขยอดจำหน่ายรวม 10,071 คัน เพิ่มขึ้นถึง 200.2 % ไตรมาสแรกปี 2564 ตัวเลขยอดจำหน่ายรวม 15,992 คัน เพิ่มขึ้น 62.8 % อนึ่ง ในเดือนมีนาคม 2564 มีการจดทะเบียนรถพิคอัพ 1 ตัน และรถเอสยูวี รวมกันทั้งสิ้น 52,185 คัน เพิ่มขึ้น 10.4 % เมื่อเทียบกับเดือนมีนาคม 2563...สวัสดีครับ
เรื่องโดย : ขุนสัญจร
นิตยสาร 417 ฉบับเดือน กรกฏาคม ปี 2564
คอลัมน์ Online : วิถีตลาดรถยนต์
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/372968