ชีวิตอิสระ(4wheels)
“แปดริ้ว” เมืองวัดศักดิ์สิทธิ์ แห่งลุ่มน้ำบางปะกง
“แปดริ้ว” คือ ชื่อที่ชาวบ้านเรียก จ. ฉะเชิงเทรา จากความอุดมสมบูรณ์ของสัตว์น้ำในแม่น้ำบางปะกง ที่แม้แต่ปลาช่อนยังใหญ่กว่าที่ใด สามารถแล่ออกมาได้ถึงแปดริ้ว ทั้งยังเป็นชุมชนเก่าแก่ ที่เจริญรุ่งเรืองมาตั้งแต่สมัยสุโขทัย และด้วยวิถีชีวิตที่เรียบง่าย พระพุทธศาสนาจึงเจริญรุ่งเรือง ทำให้มีวัดวาอาราม และสิ่งศักดิ์สิทธิ์มากมายให้เคารพสักการะมุ่งสู่แปดริ้ว บนทางหลวง 304 ปัจจุบันการเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปฉะเชิงเทรา สะดวกรวดเร็วขึ้นมาก เนื่องจากเส้นทางหลักอย่างทางหลวง 304 ถูกปรับปรุงให้กว้างขวางถึง 8 เลนตลอดสาย ทำให้การเดินทางจากกรุงเทพฯ ใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมง การเดินทางครั้งนี้ เรามาพร้อมรถคู่ใจ NISSAN NAVARA PRO-4X (นิสสัน นาวารา พโร-4 เอกซ์) 4 ประตู ขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่ใช้เครื่องยนต์ใหม่จาก NISSAN TERRA (นิสสัน แตร์รา) ขนาด 2.3 ลิตร 190 แรงม้า ต้องยอมรับว่า NAVARA PRO-4X ได้ปรับปรุงใหม่มาอย่างดี ภายนอกดุดันด้วยสีเทาพิเศษ ภายในถูกอัพเกรดให้สปอร์ทยิ่งขึ้น ช่วงล่างปรับใหม่จึงนุ่มนวลชวนฝัน และยังเพิ่มระบบความปลอดภัยมาให้แบบจัดเต็ม นับเป็น NAVARA ที่ดีที่สุด เท่าที่ผมเคยสัมผัส สักการะหลวงพ่อโสธร พระคู่บ้านคู่เมือง วัดโสธรวรารามวรวิหาร หรือวัดหลวงพ่อโสธร ตั้งอยู่ในตัวเมือง ถือเป็นสัญลักษณ์ของเมืองแปดริ้ว และเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนทั้งจังหวัด หลวงพ่อโสธร หรือหลวงพ่อพระพุทธโสธร เป็นพระพุทธปฏิมากรปางสมาธิ ประทับอยู่เหนือรัตนบัลลังก์ 4 ชั้น ปูลาดด้วยผ้าทิพย์ ตามตำนานเล่าว่า เดิมเป็นพระพุทธรูปหล่อสำริดสวยงาม แต่พระสงฆ์ในวัดเห็นว่าอาจเป็นอันตราย จึงได้พอกปูนหุ้มองค์จริงเอาไว้ภายใน แล้วลงรักปิดทอง เพื่อความปลอดภัย ภายในวัดมีพระอุโบสถที่สร้างใหม่ด้วยหินอ่อนทั้งหลัง ตรงกลางเป็นที่ประดิษฐานหลวงพ่อโสธร ประกอบด้วย ภาพจิตรกรรมฝาผนังโดยรอบ หลวงพ่อโสธร มีกิตติศัพท์ความศักดิ์สิทธิ์อันเลื่องลือ ผู้ใดมาขอสิ่งใดก็จะสมปรารถนา จนมีผู้เลื่อมใสศรัทธามากราบไหว้ขอพรกันไม่ขาดสาย วัดสมานรัตนาราม รวมศรัทธาไว้ที่เดียว วัดสมานรัตนาราม เป็นวัดชื่อดังที่เปี่ยมล้นไปด้วยศรัทธา ตั้งอยู่ริมแม่น้ำบางปะกง ระหว่าง อ. บางคล้า และ อ. คลองเขื่อน เป็นวัดที่มีพระพิฆเนศปางนอนเสวยสุขสีชมพู ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ความหมายของพระพิฆเนศปางนอนเสวยสุข คือ ความสุขสบาย ความสุขบริบูรณ์มั่งคั่งพร้อมทุกด้าน ผู้ใดได้มาสักการะจะนำความสุขสบายมาสู่ผู้บูชา นอกจากนี้ ยังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์อีกมากมาย อาทิ พระธาตุอินทร์แขวนจำลอง, หลวงพ่อองค์ดำ, พระโพธิสัตว์กวนอิมปางประทานบุตร, องค์ท้าวมหาพรหมที่ใหญ่ที่สุดในโลก, รูปปั้นไอ้ไข่, พระราหูที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ ฯลฯ รวมถึงยังมีสัตว์มีชีวิตต่างๆ เช่น ช้าง ม้า นก ฯลฯ ให้ได้ทำบุญกันด้วย เรียกได้ว่า มาวัดเดียวครบ วัดโพรงอากาศ มหาเจดีย์สีทองอันโดดเด่น วัดโพรงอากาศ ตั้งอยู่ที่ อ. บางน้ำเปรี้ยว เป็นอีกหนึ่งวัดที่มีความสวยงาม และเป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของประชาชน สิ่งที่โดดเด่นของวัด คือ พระอุโบสถมหาเจดีย์ขนาดใหญ่สีทองอร่าม ซึ่งหลวงพ่อสมชายเจ้าอาวาสคนปัจจุบัน ตั้งใจสร้างเพื่อให้เป็นสถานที่สำคัญของเมืองแปดริ้ว ด้านหลังของวัด เป็นที่ตั้งของอุทยานพระพิฆเนศของวัดโพรงอากาศ ซึ่งมีองค์พระพิฆเนศปางนั่งประทานพรองค์ใหญ่ สามารถมองเห็นได้แต่ไกล เนื่องจากบริเวณรอบวัดเป็นทุ่งกว้าง โดยมีชั้นล่างเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุจากประเทศอินเดีย นอกจากนี้ ยังสามารถสักการะพระพุทธรูปจำลอง ทั้งหลวงพ่อโสธร, หลวงพ่อวัดบ้านแหลม, หลวงพ่อโต, หลวงพ่อวัดไร่ขิง และหลวงพ่อวัดเขาตะเครา ได้ภายในวัดอีกด้วย สักการะอุทยานแห่งชาติพระพิฆเนศองค์ยืน อุทยานแห่งชาติพระพิฆเนศองค์ยืน ตั้งอยู่ใน อ. คลองเขื่อน ริมแม่น้ำบางปะกง ภายในประดิษฐานองค์พระพิฆเนศองค์ยืน เนื้อสำริดที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยความสูง 30 ม. หากรวมแท่นประดิษฐานจะมีความสูงรวมกันเกือบ 40 ม. ยืนโดดเด่นท่ามกลางธรรมชาติ เป็นสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์ของแผ่นดินไทย ประติมากรรมพระพิฆเนศองค์ยืนนี้ โดดเด่นด้วยพระหัตถ์ทั้ง 4 ถือพืชพรรณ และธัญญาหาร ตั้งแต่กล้วย ยอดอ้อย มะม่วง ขนุน และที่พระบาทมีหนูกอดลูกมะพร้าว ซึ่งมีความหมายว่า ความอุดมสมบูรณ์ของแผ่นดิน ชมโบสถ์สเตนเลสส์ วัดหัวสวน สถานที่แปลกตาอีกที่หนึ่ง คือ วัดหัวสวน อ. บางคล้า มีความโดดเด่นด้วยโบสถ์ที่สร้างด้วยสเตนเลสส์ทั้งหลัง การสร้างอุโบสถสเตนเลสส์ มาจากความคิดของเจ้าอาวาสวัด ที่เห็นว่าโบสถ์หลังเก่ามีความชำรุดทรุดโทรมมากแล้ว และเห็นว่าสเตนเลสส์ เป็นวัสดุที่สามารถอยู่ได้เป็นพันปี มากกว่าปูน ที่จะมีอายุเพียงร้อยปีเท่านั้น อุโบสถสเตนเลสส์ มีความกว้าง 7.50 ม. ยาว 18 ม. และสูง 6.50 ม. มีรั้วสเตนเลสส์ลายธรรมจักรประดับ เสาหงส์คาบโคมไฟโดยรอบ ด้านหน้ามี พระสิวลีประดิษฐานอยู่ ส่วนด้านหลังมีพระพุทธมหาลาภประดิษฐาน เป็นประธาน ช่องประตูเป็นภาพพระพุทธโสธร หน้าบัน หน้าต่างเป็นรูปพระพุทธเจ้า และเทวดา ด้วยเทคนิคกัดกรด และลงสี วัดปากน้ำโจ้โล้ โดดเด่นด้วยสีทอง โบสถ์สีทอง วัดปากน้ำโจ้โล้ ตั้งอยู่ อ. บางคล้า ติดแม่น้ำบางปะกง เป็นพระอุโบสถหนึ่งเดียวในไทย ที่ทาสีทองทั้งหลัง ทั้งภายนอก และภายในตัวอุโบสถ ทำให้ไม่ว่ามองไปทางไหนก็เป็นสีทอง ดูงดงามเป็นอย่างยิ่ง ภายนอกวัดมีเรือโบราณในสมัยก่อนในยุคสมเด็จพระจ้าตากสินมหาราช จัดแสดงไว้ด้วย นอกจากนี้ ภายในอุโบสถยังสามารถลอดใต้ฐานพระประธาน เพื่อความเป็นสิริมงคล สักการะพระเจ้าตาก ชมวิวปากน้ำที่โจ้โล้ อนุสรณ์สถานพระสถูปเจดีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ตั้งอยู่บริเวณปากน้ำโจ้โล้ (คลองท่าลาด) อ. บางคล้า หลังจากที่พระเจ้าตากสินตีฝ่าวงล้อมของพม่าออกจากกรุงศรีอยุธยา ได้เดินทัพผ่าน จ. นครนายก และ จ. ปราจีนบุรี จนปะทะกับพม่าบริเวณปากน้ำโจ้โล้ แต่ด้วยพระปรีชาสามารถของพระองค์ จึงทรงรบชนะพม่า ซึ่งมีกำลังที่เหนือกว่า และได้พักทัพที่บริเวณนี้ พระองค์จึงสร้างพระเจดีย์ไว้ เพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งชัยชนะในการสู้รบกับพม่า ชมค้างคาวตัวยักษ์ ที่วัดโพธิ์บางคล้า วัดโพธิ์บางคล้า เป็นวัดเก่าแก่ที่คาดว่าน่าจะถูกสร้างมาก่อนสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย และสันนิษฐานว่า เคยเป็นที่พักทัพของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เมื่อครั้งต่อสู้กับพม่า ที่ปากน้ำโจ้โล้ ปี 2309 ด้านหน้ามีวิหารเก่าแก่อายุหลายร้อยปี ทรงจตุรมุขสมัยอยุธยาตอนปลาย หลังคามุงด้วยกระเบื้องเกล็ดเต่า และมีการซ่อมแซมหลังคาครั้งแรกเมื่อปี 2485 ต่อมาหลังคาเกิดพังทลายอีกครั้ง และได้สร้างหลังคาขึ้นใหม่แทนของเดิม เมื่อปี 2541 ภายในวัดร่มรื่น เต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ และถ้าสังเกตให้ดีจะพบกับ “ค้างคาวแม่ไก่” ตัวใหญ่มากๆ เกาะห้อยหัวบนกิ่งไม้นับร้อยตัว จนทำให้มันกลายเป็นสัญลักษณ์ของวัดนี้ไปเสียแล้ว แผนที่เส้นทาง ที่กิน มีโอกาสใกล้ชิดแม่น้ำบางปะกงทั้งที ผมจึงขอรับประทานอาหารติดริมน้ำเสียหน่อย ผมเลือกร้าน “ครัวธารารัก” เพราะได้รับการการันตีจากพนักงานรีสอร์ท ผมสั่งกุ้งแม่น้ำเผา, ต้มโคล้งปลาแห้ง, กระดูกหมูอ่อนทอดกระเทียม และผักคะน้าปลาเค็ม รสชาติร้านนี้อร่อยใช้ได้ ถือเป็นอีกร้านหนึ่งที่ไม่ควรพลาด ที่นอน ใครที่กำลังหาที่พักริมแม่น้ำบางปะกงในบรรยากาศดีๆ ผมแนะนำ “ธาราบางคล้า รีสอร์ท” เนื่องจากเป็นที่พักติดแม่น้ำบางปะกง ที่มีความสวยงามเป็นธรรมชาติ ต้นไม้ร่มรื่น เงียบสงบเป็นส่วนตัว ผมได้ห้องพักริมน้ำ แค่เพียงเปิดประตูออกไป ก็เจอกับวิวแม่น้ำแบบพาโนรามา อุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน ในราคาเริ่มต้นที่ 1,200 บาท ขอขอบคุณ บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ที่เอื้อเฟื้อรถยนต์ในการเดินทาง
เรื่องโดย : วิธวินท์ ไตรพิศ
ภาพโดย : เกรียงศักดิ์ ปันสม
นิตยสาร 417 ฉบับเดือน กรกฏาคม ปี 2564
คอลัมน์ Online : ชีวิตอิสระ(4wheels)
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/372951