FORD F-150 TREMOR เกิดมาแกร่ง พร้อมลุยทุกเส้นทาง

FORD F-150 (ฟอร์ด เอฟ-150) ได้รับการปรับโฉมในปี 2021 เป็นสายพันธุ์ที่ 14 ในตระกูล F-150 ออกแบบมาเพื่อตอบสนองผู้ใช้รถที่ต้องการสมรรถนะสำหรับการลุยแบบเต็มพิกัด รวมไปถึงความสามารถในการบรรทุก และลากจูง มีความเหนือชั้นกว่ารุ่น FX4 (เอฟเอกซ์ 4) แต่ยังเป็นรองเจ้าไดโนเสาร์พันธุ์ดุ RAPTOR (แรพเตอร์) โครงสร้างตัวรถมีความแข็งแกร่งขึ้น ผลิตจากวัสดุซึ่งใช้อลูมิเนียมผสมผสานด้วยเหล็กกล้า (HIGH-STRENGTH STEEL FRAME) และเหล็กแบบ HIGH-STRENGTH

    รูปลักษณ์ภายนอกปรับโฉมเสริมความแกร่ง ฝากระโปรงหน้า และแก้มหน้า ออกแบบใหม่รับกับชุดกระจังหน้าที่เพิ่มความคมเข้มด้วยโทนสีดำ พร้อมกับสร้างความโดดเด่น ด้วยการตกแต่งในโทนสีส้ม ACTIVE ORANGE อันเป็นเอกลักษณ์ของรุ่น TREMOR (ทรีมอร์) โดยมีสัญลักษณ์ TREMOR บริเวณด้านข้างกระบะ และบนฝาท้าย ติดตั้งหูลากพร้อมใช้งานมา 2 ตำแหน่ง ทั้งด้านหน้า และด้านหลัง ติดตั้งกล้องมองรอบคัน 360 องศา ชุดท่อไอเสียแบบปลายท่อคู่ ทั้งยังนำการตกแต่งจากโทนสีส้ม ACTIVE ORANGE ภายในห้องโดยสาร เช่น การตัดเย็บเบาะนั่ง, คอนโซล และแผงประตู     สมรรถนะของ F-150 TREMOR มาจากขุมพลังอีโคบูสต์ ขนาดความจุ 3.5 ลิตร ทวินเทอร์โบ วี 6 สูบ ให้กำลัง 400 แรงม้า ซึ่งน้อยกว่า RAPTOR อยู่ 50 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 69.1 กก.-ม. ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 10 จังหวะ ที่มาพร้อมระบบขับเคลื่อนแบบ SELECTABLE DRIVE MODES สามารถเลือกเปลี่ยนโหมดการขับขี่ได้หลายรูปแบบ อาทิ NORMAL, TOW/HAUL, ECO, SPORT, SLIPPERY, DEEP SNOW/SAND, MUD/RUT MODES TREMOR และ ROCK CRAWL MODE เสริมด้วยตัวช่วย เช่น ระบบ TRAIL CONTROL และ HILL DESCENT CONTROL พร้อมอัพเกรดระบบรองรับหลายส่วนด้วยกัน เช่น การเพิ่มระดับความสูงของตัวรถจากพื้น โดยการปรับชอคอับด้านหน้าแบบ MONOTUBE และด้านหลังแบบ TWINTUBE มาพร้อมชุดสปริงทั้งด้านหน้า และด้านหลัง ซึ่งมีการปรับเซทให้มีความนุ่มนวลในช่วงความเร็วต่ำ และให้สมรรถนะการขับขี่ที่ดีในการใช้งานบนเส้นทางทุรกันดาร       ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง GENERAL GRABBER ALL-TERRAIN (เจเนอรัล กแรบเบอร์ ออลล์-เทอร์เรน) ที่จะช่วยเพิ่มความสูงตัวรถด้านหน้าขึ้นอีก 1 นิ้ว และด้านหลังอีกประมาณ 1.5 นิ้ว รวมไปถึงการเพิ่มความกว้างของทแรคล้อได้อีกราว 1 นิ้ว ติดตั้งแผ่นกันกระแทกบริเวณใต้ท้องรถด้านหน้า แบบเดียวกับใน RAPTOR มาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ทำให้สามารถลุยได้มากขึ้นด้วยมุมปะทะ 27.6 องศา มุมคร่อมที่ 21.1 องศา และมุมจาก 24.3 องศา   ติดตั้งระบบเฟืองท้าย DIFFERENTIAL LOCK มาให้ทั้งด้านหน้า และด้านหลัง โดยสามารถเลือกอัพเกรดอุปกรณ์พิเศษด้านหน้าให้เป็นแบบ TORSEN LIMITED-SLIP DIFFERENTIAL ได้ตามต้องการ นอกจากนี้ ในรุ่นทอพสุดยังมาพร้อมระบบส่งกำลัง TRANSFER CASE แบบ TORQUE-ON-DEMAND เช่นเดียวกับที่ใช้ใน RAPTOR ที่จะช่วยปรับแรงบิดระหว่างเพลาด้านหน้า และหลังให้เกิดความสมดุลมากที่สุด ด้วยการรวมเอาคุณสมบัติของระบบขับเคลื่อนแบบ ALL WHEEL-DRIVE และแบบ FOUR WHEEL-DRIVE เข้าไว้ด้วยกัน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการขับขี่บนทุกสภาพถนน ให้พละกำลังในการลากจูงทำได้ถึง 10,900 ปอนด์ และการรองรับน้ำหนักบรรทุกได้ในระดับ 1,885 ปอนด์ หรือราว 850 กก. เลยทีเดียว   ระบบควบคุมความเร็วคงที่ ซึ่งปรับมาเพื่อใช้งานบนเส้นทางทุรกันดารที่จะคอยเร่ง และเบรคโดยอัตโนมัติ เพื่อรักษาความเร็วตามที่เซท ไว้ เพื่อความสะดวกในการขับขี่ นอกจากนี้ ยังมีตัวช่วยผู้ขับขี่อีก คือ TRAIL ONE-PEDAL DRIVE เมื่อถอนคันเร่งเพื่อลดความเร็วลง ระบบก็จะทำหน้าที่เบรคไปด้วยในตัว ผู้ขับเพียงแค่ควบคุมที่แป้นคันเร่งเพียงอย่างเดียวเท่านั้นในการเพิ่ม หรือลดความเร็วลง   F-150 TREMOR พิคอัพทรัคที่ได้นำเทคโนโลยีในหลายๆ ส่วนมาบรรจุลงไป แต่สมรรถนะในการลุยก็ทำได้ไม่ธรรมดา เหมาะสำหรับเป็นรถอเนกประสงค์ไว้ใช้งานสำหรับครอบครัวที่ชื่นชอบการผจญภัย แต่ก็ใช้งานได้ดีบนไฮเวย์ พละกำลังเครื่องยนต์มีมาให้อย่างเหลือเฟือ สามารถลากทเรเลอร์ บรรทุกอุปกรณ์กีฬากลางแจ้งได้อย่างสบายๆ ในราคาที่ย่อมเยากว่ารุ่น RAPTOR พอสมควรทีเดียว     คุณรู้หรือไม่ ?     เมื่อเราปรับการขับขี่มาสู่โหมด ROCK CRAWL สำหรับการขับลุยเส้นทางที่โหดหิน ระบบต่างๆ จะเริ่มทำงานโดยอัตโนมัติ เช่น เฟืองท้ายจะทำการลอค, ระบบจะยกเลิกระบบไฟฟ้าที่ช่วยควบคุมในเรื่องเสถียรภาพการขับขี่, การป้องกันล้อหมุนฟรี และทแรคชันคอนโทรล, ลดการตอบสนองคันเร่งให้ช้าลง พร้อมทั้งเปิดการทำงานในส่วนของกล้อง 360 องศา ที่จะฉายภาพรอบคันรถมาที่จอภาพบนแผงหน้าปัด