ASTON MARTIN DBX ครอสส์โอเวอร์สปอร์ทหรูจากเมืองผู้ดี

นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของ ASTON MARTIN (แอสตัน มาร์ทิน) ในรอบ 106 ปี ที่ค่ายรถสปอร์ทสัญชาติอังกฤษรายเก่าแก่ที่สุดในโลก ได้ทำการผลิตรถเอสยูวีระดับพรีเมียมพลังแรง ออกมาจำหน่ายให้แก่บรรดาสาวกที่หลงใหลในรถยี่ห้อนี้ได้สัมผัสกัน โดยฉีกรูปแบบทรงกล่องของรถเอสยูวีทั่วไปมาเป็นเส้นสายที่เต็มไปด้วยส่วนโค้งเว้า แลดูปราดเปรียว สวยงาม ถ่ายทอดความเป็น ASTON MARTIN ได้อย่างสมบูรณ์แบบ เป็นคู่แข่งโดยตรงกับ LAMBORGHINI URUS (ลัมโบร์กินี อูรุส) และ BENTLEY BENTAYGA (เบนท์ลีย์ เบนเทย์กา) ซึ่งมีขนาดฐานล้อที่ยาวกว่า

DBX (ดีบีเอกซ์) เน้นความสมดุลระหว่างน้ำหนักหน้า/หลัง 50:50 พแลทฟอร์มทำจากวัสดุอลูมิเนียมเช่นเดียวกับที่ใช้ในรถสปอร์ท มีผลให้น้ำหนักตัวลดลงเหลือแค่ 2,245 กก. ระยะฐานล้อมีขนาด 3,060 มม. ท่อไอเสียปลายเดี่ยวออก 2 ฝั่ง ล้อเส้นผ่าศูนย์กลางใหญ่ขนาด 22 นิ้ว พร้อมยาง PIRELLI (ปิเรลลี) ที่มีขนาดหน้า/หลังไม่เท่ากัน คือ หน้า 285/40 R22 และหลัง 325/35 R22     ห้องโดยสารเต็มไปด้วยการตกแต่งที่ประณีต พิถีพิถัน หรูหรา เป็นรถที่ดูดีทั้งภายใน และภายนอก ประตูแบบไร้กรอบกระจก หลังคาแบบพาโนรามิคซันรูฟ ที่แผงหน้าปัดมีหน้าจอขนาด 10.25 นิ้ว รองรับ APPLE CAR PLAY พร้อมกล้องมองรอบคัน 360 องศา รวมถึงระบบนำทาง ลำโพงติดตั้งมาให้ถึง 14 ตัว แต่ความทันสมัยของระบบอินโฟเทนเมนท์ของ DBX ยังเป็นรองคู่แข่งอยู่บ้าง ไฟเพิ่มบรรยากาศภายในห้องโดยสารสามารถปรับได้ถึง 64 เฉดสี เบาะนั่งหุ้มหนังแท้คุณภาพสูง เบาะนั่งด้านหลังปรับพับได้ 3 ส่วน ในอัตรา 40:20:40 ที่เก็บสัมภาระด้านท้ายรถมีความจุ 22 ลูกบาศก์ฟุต และเมื่อพับเบาะหลังลงจะเพิ่มเป็น 54 ลูกบาศก์ฟุต     ขุมพลังจากเครื่องยนต์เบนซิน วี 8 สูบ 4.0 ลิตร ไดเรคท์อินเจคชัน ทวินเทอร์โบ ผลิตโดยค่าย MERCEDES-AMG (เมร์เซเดส-เอเอมจี) ให้กำลัง 550 แรงม้า ที่ 6,500 รตน. แรงบิดมหาศาลที่ 71.4 กก.-ม. ที่ 2,200-5,000 รตน. ส่งพละกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ ระบบขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อตลอดเวลา เฟืองท้ายซึ่งควบคุมการทำงานด้วยไฟฟ้า มีพละกำลังในการลากจูง 2,694 กก. สามารถนำมาใช้งานบนเส้นทางทุรกันดารได้ดีในระดับหนึ่งทีเดียว   อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 4.5 วินาที ส่วน 0-160 กม./ชม. ใน 9.0 วินาที ระยะ 402 ม. ใช้เวลาเพียง 12.0 วินาที ความเร็วสูงสุดทำได้ถึง 291 กม./ชม. อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ยโดยรวมอยู่ที่ 6.8 กม./ลิตร อัตราเฉลี่ยในเมือง/นอกเมือง 6.4/8.0 กม./ลิตร   ระบบรองรับแบบดับเบิลวิชโบน และถุงลม ADAPTIVE TRIPLE AIR SUSPENSION ที่สามารถ ปรับระดับตัวรถให้สูง/ต่ำได้ถึง 5 ระดับ ลดความสูงได้ถึง 5 ซม. เพิ่มความสูงได้เต็มที่ 4.5 ซม.   เราได้ลองสมรรถนะของเครื่องยนต์จาก MERCEDES-AMG ตัวเดียวกับที่วางอยู่ใน MERCEDES-AMG 63 S (เมร์เซเดส-เอเอมจี 63 เอส) เป็นเครื่องยนต์ วี 8 ทวินเทอร์โบ ที่มีความจัดจ้านพอสมควร สามารถเรียกพละกำลังมาใช้งานตั้งแต่รอบต่ำ เครื่องยนต์ทำงานด้วยความนุ่มนวล และยังคงให้ความสบายในขณะใช้รอบต่ำเพื่อขับขี่แบบเรื่อยๆ ไม่รีบร้อน ซึ่งถือว่าทำได้ดีกว่าบรรดา ASTON MARTIN ในอดีต การควบคุมพวงมาลัยทำได้เฉียบคม และแม่นยำ ระบบถ่ายทอดกำลัง 9 จังหวะ แบบทอร์คคอนเวอร์เตอร์ ให้การเปลี่ยนเกียร์ที่รวดเร็ว และนุ่มนวลดี เบรคให้พลังในการหยุดที่ดี ความรู้สึกที่แป้นเบรคทำได้ดีมาก     โหมดการขับขี่มีให้เลือกถึง 5 รูปแบบตามความต้องการของผู้ขับ คือ เทอร์เรน พลัส, เทอร์เรน, จีที, สปอร์ท และสปอร์ท พลัส   ในโหมด จีที จะให้ความนุ่มนวลในการขับขี่มากที่สุด ด้วยการปรับเซทของเหล็กกันโคลงแบบแอคทีฟให้รถมีอาการไหวตัวได้มากขึ้นในขณะเข้าโค้ง มีอาการหน้าดื้อบ้างเล็กน้อย และเมื่อปรับมาสู่โหมด สปอร์ท การตอบสนองจะเฉียบคมยิ่งขึ้น อาการโคลงของตัวรถลดน้อยลง ส่งพละกำลังมาที่ล้อหลังมากขึ้น ส่วนโหมด สปอร์ท พลัส จะตัดระบบตัวช่วยเรื่องเสถียรภาพการทรงตัว ระบบรองรับจะมีการยืดหยุ่นน้อยลง ล้อคู่หลังพร้อมจะสไลด์ออกไปด้านข้างโดยที่ยังสามารถคาดเดาอาการได้   ในโหมด เทอร์เรน พลัส ระบบรองรับแบบถุงลมสามารถช่วยเพิ่มความสูงของตัวรถจากพื้นดิน เพื่อพร้อมที่จะลุยไปบนทางโหดๆ ระบบออลล์วีลดไรฟ และระบบห้ามล้อจะเข้ามาช่วยทำงานในขณะที่ล้อรถมีอาการหมุนฟรีอยู่บนพื้น ผิวที่ลื่น ให้ความสนุกสนานในการขับแบบดริฟท์บนพื้นกรวด   ASTON MARTIN DBX ครอสส์โอเวอร์สปอร์ท สายพันธุ์หรู ไม่ได้ทำให้ผู้ที่ชื่นชอบรถค่ายนี้ผิดหวัง การขับขี่ และการทำงานของเครื่องยนต์ทำได้นุ่มนวลขึ้น ให้ความสบายในการขับแต่ยังคงเต็มไปด้วยความสนุกสนานเร้าใจ ความหรูหราภายในห้องโดยสารไม่เป็นรองใคร แต่ก็ต้องแลกกับค่าตัวที่ไม่ธรรมดาเช่นเดียวกัน     คุณรู้หรือไม่ ?     ระบบรองรับแบบถุงลม (ADAPTIVE TRIPLE AIR SUSPENSION) สามารถปรับระดับตัวรถให้สูง/ต่ำได้ถึง 5 ระดับ ลดความสูงของตัวรถได้สูงสุดถึง 5 ซม. เพิ่มความสูงได้เต็มที่ 4.5 ซม. เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานบนเส้นทางโหดๆ ผ่านอุปสรรคทางธรรมชาติทำได้อย่างง่ายดายยิ่งขึ้น