OPEL MOKKA/MOKKA-E ครอสส์โอเวอร์ เอสยูวี รุ่นกระจิ๋วหลิว เบนซินก็ได้ ดีเซลก็ได้ รถไฟฟ้าก็มี

ปิด “ระเบียงรถใหม่” ในเดือนแห่งการชุมนุมรถกิจกรรมกลางแจ้งสายเลือดอเมริกัน และสายพันธุ์ผสม ด้วยผลงานของค่าย “สายฟ้าผ่าวงกลม” ที่เพิ่งย้ายสังกัดจากค่าย GM หรือ GENERAL MOTORS COMPANY (เจเนอรัล มอเตอร์ส คัมพานี) ของสหรัฐอเมริกา ไปร่วมหอลงโรงกับค่าย PSA GROUP (พีเอสเอ กรุพ) ของฝรั่งเศสเมื่อปี 2017 เป็นรถที่ปรากฏตัวแบบ “ครั้งแรกในโลก” เมื่อวันอังคารที่ 22 กันยายน 2020 ณ สำนักงานใหญ่ของบริษัทซึ่งอยู่ที่เมือง RUSSELSHEIM (รุสเซลส์ไฮม์) ในเยอรมนี

  ผู้ผลิตรถยนต์รายเก่าแก่ของเมืองเบียร์ซึ่งเริ่มกิจการผลิตรถยนต์มายาวนานตั้งแต่ปี 1899 เริ่มนำรถกิจกรรมกลางแจ้งข้ามพันธุ์ขนาดเล็กกว่าเล็กกะทัดรัดออกสู่โชว์รูมพร้อมกับป้ายชื่อ OPEL MOKKA (โอเพล มคคา) เมื่อปลายปี 2012 มีขนาดตัวถังยาว 4.280 ม. กว้าง 1.775 ม. สูง 1.646 ม. และเป็นรถสายเลือดเยอรมันที่ไม่ได้ผลิตในเยอรมนี แต่ใช้โรงงานที่เมือง ZARAGOZA (ซาราโกซา) ในสเปนเป็นที่ผลิต รถรุ่นดังกล่าวอยูในตลาดประมาณ 4 ปี ก็มีการปรับปรุงแบบ FACELIFT หรือ “ยกหน้า” เมื่อไตรมาส 3 ปี 2016 พร้อมทั้งเปลี่ยนชื่อเป็น OPEL MOKKA X (โอเพล มคคา เอกซ์) เพื่อให้สอดคล้องกับรถกิจกรรมกลางแจ้งอีก 2 อนุกรมของค่ายนี้ คือ OPEL CROSSLAND X (โอเพล ครอสส์แลนด์ เอกซ์) กับ OPEL GRANDLAND X (โอเพล กแรนด์แลนด์ เอกซ์)     ส่วนรถรุ่นใหม่นี้เป็นรถรุ่นที่ 2 เปลี่ยนกลับไปใช้ชื่อเดิม คือ OPEL MOKKA ซึ่งถือเป็นเรื่องดี เพราะการพิมพ์ชื่อใช้เวลาสั้นลงนิดหนึ่ง 555 เช่นเดียวกับรถรุ่นเดิม รถรุ่นใหม่นี้มีตัวถังแบบเดียว เป็นตัวถังยาว 4.151 ม. กว้าง 1.791 ม. (รวมกระจกมองข้างขณะพับ) และสูง 1.531ม. หน้าตารูปทรงองค์เอว และสีสันตัวถัง เห็นแค่ในภาพยังไม่มีโอกาสสัมผัสตัวจริง ก็ยอมยกนิ้วให้แล้วว่าทำได้เยี่ยมมาก น่าซื้อน่าใช้เหลือเกิน หากมีใครกล้านำเข้ามาขายในบ้านเรา     ในเยอรมนี รถรุ่นใหม่นี้มีการตกแต่ง/ติดตั้งอุปกรณ์ 5 ระดับ กำกับด้วยรหัส MOKKA-MOKKA EDITION-MOKKA ELEGANCE-MOKKA GS LINE-MOKKA ULTIMATE มีเครื่องยนต์ให้เลือก 3 ขนาด คือ เครื่องเทอร์โบเบนซินฉีดตรง DOHC 3 สูบเรียง 1,199 ซีซี 74 กิโลวัตต์/100 แรงม้า เครื่องเทอร์โบเบนซินฉีดตรง DOHC 3 สูบเรียง 1,199 ซีซี 96 กิโลวัตต์/130 แรงม้า และเครื่องเทอร์โบดีเซลฉีดตรง DOHC 4 สูบเรียง 1,499 ซีซี 81 กิโลวัตต์/110 แรงม้า ส่วนระบบเกียร์เพื่อส่งกำลังเครื่องยนต์สู่ล้อคู่หน้ามี 2 แบบ คือ เกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ กับเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ ค่าตัวรวมภาษีมูลค่าเพิ่มร้อยละ 16 เริ่มต้นที่ 19,486 ยูโร หรือประมาณ 721,000 บาทไทย     ส่วนคันสีเขียวซึ่งติดป้ายชื่อ OPEL MOKKA-E (โอเพล มคคา-อี) เป็นรถพลังไฟฟ้าล้วนๆ ซึ่งเปิดตัวมาก่อนหน้านี้แล้ว คือ ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2020 ติดตั้งระบบขับล้อหน้า ซึ่งใช้มอเตอร์ไฟฟ้า 100 กิโลวัตต์/136 แรงม้า ทำงานร่วมกับ แบทเตอรีลิเธียม-ไอออน ขนาดความจุ 50 กิโลวัตต์ชั่วโมง มีอัตราสิ้นเปลืองพลังไฟฟ้าเฉลี่ย 0.174-0.178 กิโลวัตต์ชั่วโมง/กม. ชาร์จไฟเต็มแต่ละครั้งจะวิ่งได้ไกล 318-324 กม. เมื่อวัดตามมาตรฐาน WLTP สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 9.0 วินาที ส่วนความเร็วสูงสุดจำกัดไว้ที่ 150 กม./ชม. มีการตกแต่ง/ติดตั้งอุปกรณ์ 5 ระดับเหมือนรถเบนซินรถดีเซล ค่าตัวรวมภาษีมูลค่าเพิ่มร้อยละ 16 เริ่มต้นที่ 32,158 ยูโร หรือประมาณ 1,190,000 บาทไทย    

OPEL MOKKA

• รถกิจกรรมกลางแจ้งข้ามพันธุ์ขนาดเล็กกว่าเล็กกะทัดรัด ขับเคลื่อนล้อหน้า
• มิติตัวถัง 4.151x1.791 (รวมกระจกมองข้างขณะพับ)x1.531 ม. ห้องโดยสาร 5 ที่นั่ง
• เครื่องเทอร์โบเบนซินและเทอร์โบดีเซล 74 กิโลวัตต์/100 แรงม้า 96 กิโลวัตต์/130 แรงม้า
• ระบบเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ และระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ
• ราคารวมภาษีในเยอรมนี เริ่มต้นที่ 19,486 ยูโร (ประมาณ 721,000 บาทไทย)

 

OPEL MOKKA-E

• รถกิจกรรมกลางแจ้งข้ามพันธุ์พลังไฟฟ้า ขับเคลื่อนล้อหน้า
• มิติตัวถัง 4.151x1.791 (รวมกระจกมองข้างขณะพับ)x1.532 ม. ห้องโดยสาร 5 ที่นั่ง
• มอเตอร์ไฟฟ้า 100 กิโลวัตต์/136 แรงม้า แบทเตอรี ลิเธียม-ไอออน 50 กิโลวัตต์ชั่วโมง
• ระยะเดินทาง 318-324 กม. (WLTP) ความเร็วสูงสุด 150 กม./ชม. (จำกัด)
• ราคารวมภาษีในเยอรมนี เริ่มต้นที่ 32,158 ยูโร (ประมาณ 1,190,000 บาทไทย)