เครื่องวัดลมยาง (เรียลไทม์) ของเล่นใหม่ นักเดินทาง

แรงดันลมยาง มีส่วนสำคัญต่อการควบคุมรถ จะดีแค่ไหน หากเราสามารถตรวจสอบแรงดันลมยางได้ตลอดเวลา DIY…คุณทำเองได้ ฉบับนี้ มีวิธีติดตั้งเครื่องตรวจวัดลมยาง แบบเรียลไทม์ มาฝาก

ลมยาง ส่งผลต่อการขับขี่ แรงดันลมยาง มีส่วนสำคัญต่อการควบคุม รถ เพราะลมยางที่อ่อน หรือแข็ง ส่งผลต่อสมรรถนะการขับขี่อย่างรู้สึกได้ และยังมีผลต่อความปลอดภัยขณะใช้ความเร็วสูง แรงดันลมยางที่น้อยเกินไป (ยางอ่อน) ดอกยาง และแก้มยางจะสึกหรอเร็ว จากโครงสร้างยางที่ผิดรูป และมีความร้อนในยางสูง กลับกันหากลมยางมากเกินไป (ยางแข็ง) ยางจะสัมผัสกับพื้นถนนน้อยลง และตัวรถจะสะเทือนมากขึ้น     เตือนเมื่อรั่ว เครื่องวัดลมยางแบบเรียลไทม์ที่นำมาติดตั้งนี้ สามารถหาซื้อได้ตามร้านอุปกรณ์รถยนต์ทั่วไป ราคาตั้งแต่ 700-1,900 บาท ขึ้นอยู่กับคุณภาพ และออพชัน อย่างที่เรานำมานี้ สามารถบอกแรงดันลมยาง รวมถึงอุณหภูมิของแต่ละล้อได้แบบเรียลไทม์ ทำให้ผู้ขับขี่รับรู้สถานะลมยางตลอดเวลา และเมื่อใดที่แรงดันลมยางผิดปกติ เช่น ยางรั่ว ระบบจะส่งเสียงเตือนให้รู้ทันที ช่วยให้หยุดรถได้ทัน ลดความเสี่ยงที่ยางจะเสียหายจนใช้งานไม่ได้     เติมลมเท่าไรดี ?     ลมยางที่เหมาะสมควรดูจากคู่มือรถ แต่หากคู่มือหาย สามารถ อ้างอิงได้ตามนี้   “รถเก๋ง” สำหรับการใช้งานปกติ ควรเติมลมยางประมาณ 30-32 PSI (ปอนด์/ตารางนิ้ว) ทั้งล้อหน้า และล้อหลัง แต่หากต้องบรรทุกผู้โดยสารเต็มอัตรา 5 ที่นั่ง พร้อมสัมภาระท้ายรถ ควรเพิ่มแรงดันล้อหน้าเป็น 33-35 PSI และล้อหลังเป็น 37-39 PSI   “รถกระบะ” หากไม่บรรทุก ลมยางควรอยู่ที่ 36-38 PSI และล้อหลังอยู่ที่ 40-42 PSI หากมีน้ำหนักบรรทุก ต้องเพิ่มลมยางหลังเป็น 49-51 PSI เพื่อรองรับน้ำหนัก ซึ่งจะให้การทรงตัวที่ดีกว่า     อุปกรณ์     1. หน้าจอ SOLAR CELL แสดงผลแบบ LED 2. เซนเซอร์ 4 ตัว 3. นอทตัวลอค 4 ตัว 4. ประแจเบอร์ 8 5. เทปกาว 2 หน้า 6. ถุงมือ     ขั้นตอนติดตั้งเครื่องวัดลมยางแบบเรียลไทม์ 1. นำฝาจุกลมเดิมออก แล้วใส่นอทตัวลอคเข้าไป       2. นำเซนเซอร์หมุนตามเข้าไป ต้องใส่ให้ถูกตำแหน่งของล้อ       3. ขันนอทตัวลอคด้วยประแจ ในทิศทวนเข็มนาฬิกา ให้ตึงมือ       4. ใส่เซนเซอร์ให้ครบทุกล้อ แล้วลองหมุนดู ถ้ายังขยับได้ ขันเพิ่มให้แน่น       5. หาตำแหน่งติดตั้งมอนิเตอร์บนคอนโซล ต้องเห็นชัด และไม่เกะกะสายตา       6. เมื่อได้จุดที่เหมาะสมแล้ว แกะเทปกาวออก แล้วติดให้แน่น       7. นำรถออกไปวิ่ง โดยใช้ความเร็วมากกว่า 20 กม./ชม. ขึ้นไป       8. เซนเซอร์แต่ละล้อจะทยอยแจ้งค่าบนมอนิเตอร์จนครบทุกล้อ เป็นอันเสร็จ