หากเหนื่อยล้าจากการทำงาน ลองหาเวลาหยุดพักร่างกาย ไปใช้ชีวิตให้ช้าลง พร้อมเติมพลังที่ “ดอยแม่โถ” สถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ใน จ. เชียงใหม่
เป็นครั้งแรก ที่ผมได้สัมผัสสมรรถนะเจ้า ISUZU D-MAX (อีซูซุ ดี-แมกซ์) ใหม่ 1.9 ลิตร เทอร์โบ ในระยะทางไกลกว่า 1,000 กม. ต้องบอกว่าขับดีขึ้นกว่าตัวก่อนอย่างชัดเจน ช่วงล่างที่เซทมานุ่มหนึบกำลังดี ตอบสนองการเดินทางไกล และทางโค้งได้ลงตัว แม้เครื่องยนต์ดีเซล 1.9 ลิตร เทอร์โบ 150 แรงม้า ใน D-MAX คันนี้ จะไม่จี๊ดจ๊าดเท่าเครื่อง 3.0 ลิตร แต่ก็เพียงพอแล้ว สำหรับการเดินทาง
ดอยแม่โถ ตั้งอยู่ใน อ. ฮอด จ. เชียงใหม่ ห่างจากกรุงเทพฯ 750 กม. แต่เดินทางไม่ยาก ใช้สายเอเชียมุ่งสู่ภาคเหนือ ผ่านนครสวรรค์ กำแพงเพชร ตาก เมื่อถึง อ. เถิน เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวง 106 ผ่าน อ. ลี้ สู่ทางหลวง 108 ที่ อ. ฮอด จ. เชียงใหม่ จากนั้นไต่เขาอีก 80 กม. ถึงดอยแม่โถ
หลังจากที่ขับรถมานานกว่า 8 ชม. เราก็มาถึงสวนสนบ่อแก้ว บนถนนหมายเลข 108 ที่นี่ไม่ว่าใครมาถึง ต้องลงจากรถมาถ่ายรูปกันทั้งนั้น เพราะต้นสนที่นี่สวยงาม แต่ละต้นมีอายุกว่า 50 ปี เพราะปลูกในช่วงปี 2509-2510 โดยเว้นระยะห่างกันพอดี
บริเวณนี้ นอกจากเป็นแหล่งพักผ่อนทั้งรถ และคนแล้ว ยังเป็นพื้นที่ทดลองปลูกสนภูเขาชนิดต่างๆ จาก ต่างประเทศ เพื่อหาพันธุ์ที่เหมาะสมไปปลูกแทนผืนป่าที่เสื่อมโทรมของภาคเหนืออีกด้วย
การเดินทางครั้งนี้ ไฮไลท์อยู่ที่ “ทุ่งหญ้าสะวันนา” บนดอยแม่โถ ต้องขับรถผ่านบ้านเลาลี แล้วขึ้นไปที่บ้านแม่โถบน จากนั้นขับรถขึ้นเขาสูงผ่านเส้นทางเล็กๆ ของชาวบ้านอีก 4 กม. ทางช่วงแรกลาดปูน 2 ร่องพอดีรถ แต่หลังจากนั้นเป็นทางดินล้วนๆ ผมเริ่มหนักใจเพราะ D-MAX ของเราเป็นรุ่น HI-LANDER (ไฮ-แลนเดอร์) ขับเคลื่อน 2 ล้อ และเราก็มาช่วงพายุโหมกระหน่ำภาคเหนือเสียด้วย กลัวว่าอาจไปไม่ถึงจุดชมดอยแม่โถ 360 องศา ผมจึงว่าจ้างรถโฟร์วีลดไรฟเจ้าถิ่นขึ้นไปด้วยอีกคัน
D-MAX ไต่ขึ้นเขาได้ดี แม้ล้อหลังจะลื่นหมุนฟรี จนระบบ TRACTION CONTROL ทำงานอยู่บ่อยๆ แต่ในที่สุดเราก็มาถึงบริเวณ “ทุ่งหญ้าสะวันนา” หรือทุ่งหญ้า 360 องศาจนได้ จุดนี้สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์รอบตัวแบบ 360 องศา และกำลังจะเปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของ อ. ฮอด
เมื่อชมทุ่งหญ้าสะวันนาไปแล้ว ขากลับแนะนำให้แวะชมศูนย์พัฒนาโครงการหลวงแม่โถเสียเลย จะได้ไม่เสียเวลา
ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงแม่โถ เกิดจากพระราชดำริของในหลวง รัชกาล 9 เมื่อปี 2539 ที่ทรงต้องการให้เกษตรกรในพื้นที่บ้านแม่โถ ที่แต่เดิมปลูกฝิ่น และทำไร่เลื่อนลอย เปลี่ยนมาปลูกพืชแผนใหม่ โดยมีนโยบายส่งเสริมอาชีพ และให้ความรู้
เราสามารถเดินชมแปลงปลูกผักในโรงเรือนต่างๆ ได้ เช่น กะหล่ำปลี ผักกาดหวาน เบบีฮ่องเต้ คอสสลัด เรดโครอล โอคลีฟแดง และผักโขมแดง ชมแปลงส่งเสริมไม้ผลเมืองหนาว เช่น อโวคาโด พลับ และมัลเบอร์รี
ผมได้เห็นการตัดแต่งกิ่งของดอกอัลสโตรมีเรีย ก่อนออกจำหน่ายด้วย ดอกนี้เป็นดอกมงคล มีความหมายถึงความเจริญ มั่งคั่ง
ดอยแม่โถ ประกอบด้วยหลายชนเผ่า ตั้งแต่ ม้ง กะเหรี่ยง ไทยใหญ่ จีนฮ่อ สมัยก่อนดอยแม่โถมีการแบ่งพื้นที่ตั้งหมู่บ้านของเผ่าต่างๆ อย่างชัดเจน แต่ปัจจุบันได้ถูกกลืนเกี่ยวดองกันไปมาก แต่เรายังสามารถเห็นวิถีชีวิตของแต่ละชนเผ่าได้ เช่น บ้านเลาลี จะชอบการค้าขาย มีร้านขายของชำมากมาย ซึ่งเป็นหมู่บ้านของจีนฮ่อกับม้ง ถ้าขึ้นไปบนดอยแม่โถบนจะเจอกับร้านค้าหลายร้าน (แต่น้อยกว่าบ้านเลาลี) ซึ่งเป็นหมู่บ้านของไทยใหญ่กับจีนฮ่อ ถัดไปด้านข้างของดอยแม่โถบน เป็นที่อยู่ของชาวม้ง มีโบสถ์คริสต์อยู่ในหมู่บ้าน ถัดลงดอยแม่โถล่าง เป็นที่อยู่ของชาวกะเหรี่ยง ที่ชอบปลูกพืชสวนไร่นา
จุดที่ต้องมาให้ได้อีกจุดหนึ่ง คือ อุทยานแห่งชาติแม่โถ นอกจากมีจุดชมวิวที่สวยงามสุดลูกหูลูกตา รวมถึงอากาศที่เย็นสบายตลอดปีแล้ว ยังมีต้น “สนฉัตร” ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 กับสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ ทรงปลูกไว้ตอนที่มาทรงงาน เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2520
เราจะเห็นต้นสนฉัตรสูงใหญ่ยืนเคียงคู่กัน ข้างๆ กันมีต้น “รวงผึ้ง” ที่ปลูกโดยคณะเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแม่โถ เพื่อเฉลิมพระเกียรติในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 67 พรรษา ของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 กำลังเติบโตอย่างสวยงาม
นอกจากนี้ อุทยานแห่งชาติแม่โถยังมีวิวที่สวยงามมากมายหลายจุด รวมถึงพื้นที่กางเทนท์ และเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ระยะทาง 1.5 กม. ให้เดินชมธรรมชาติ และชมวิวหมู่บ้านชาวเขาใน อ. แม่ลาน้อย จ. แม่ฮ่องสอนได้บางส่วนอีกด้วย
ใครมาเที่ยวดอยแม่โถ ถ้าไม่ได้กินอาหารร้าน “อุ้ยฟอง” เหมือนมาไม่ถึง เนื่องจากเป็นร้านเด็ดที่ชาวบ้านแม่โถต้องฝากท้องกันเป็นประจำ มีทั้งอาหารตามสั่ง ก๋วยเตี๋ยว หรือแม้แต่ขนมเครพญี่ปุ่น ผมสั่งอาหารประจำฤดู อย่าง ยำเห็ดโคน ลาบหมู และน้ำพริกปลากระป๋อง มารับประทานกับข้าวสวยร้อนๆ อาหารร้านนี้รสชาติอร่อยกลมกล่อมทุกอย่าง ใครผ่านมาเที่ยวต้องแวะชิมให้ได้ครับ
เดิมทีบนดอยแม่โถไม่มีที่พัก ต้องอาศัยที่พักของโครงการหลวงแม่โถเท่านั้น แต่ปัจจุบันยังไม่อนุญาตให้เข้าพักเนื่องจากมาตรการป้องกันโรคระบาด COVID-19 เราจึงต้องเข้าพักที่อุทยานแห่งชาติแม่โถ ที่มีบ้านพักให้บริการ 3 หลัง อุปกรณ์อำนวยความสะดวกแค่พอใช้ แต่สะอาดมาก ส่วนราคานั้นไม่มีกำหนด แล้วแต่ทางผู้พักจะทำนุบำรุง
บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จํากัด ที่เอื้อเฟื้อพาหนะในการเดินทาง