| ตลาดโดยรวม | -38.2 % | 
| รถยนต์นั่ง | -42.2 % | 
| รถกิจกรรมกลางแจ้ง (SUV) | -31.9 % | 
| กระบะ 1 ตัน | -37.2 % | 
| รถเพื่อการพาณิชย์ และรถประเภทอื่นๆ | -22.6 % | 
 รวม 5 เดือนแรกของปี 2563 รถพิคอัพ 1 ตัน ทั้งตลาดจำหน่ายรวมกันแล้วได้ 136,833 คัน เป็นตัวเลขยอดจำหน่ายที่ปรับตัวลดลง 37.2 % เมื่อเทียบกับ 5 เดือนแรกของปี 2562 และเป็น ISUZU ที่ยังคงยืนหนึ่งอยู่สำหรับตำแหน่งรถพิคอัพที่จำหน่ายขายดีที่สุดโดย 5 เดือนแรกนี้จำหน่ายไปแล้วรวม 55,205 คัน คิดเป็นส่วนแบ่งการตลาดที่ 40.3 % แต่ก็เป็นตัวเลขที่ปรับตัวลดลง 21.3 % เมื่อเทียบกับ 5 เดือนแรกของปี 2562 อันดับ 2 เริ่มถูกขยายระยะห่างออกไปสำหรับ TOYOTA โดยจำหน่ายแล้วรวม 48,890 คัน ส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 35.7 % เป็นยอดจำหน่ายที่ลดลง 40.4 % อันดับ 3 เป็น MITSUBISHI จำหน่ายแล้วรวม 12,854 คัน ส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 9.4 % ลดลง 39.5 % อันดับ 4 FORD จำหน่ายแล้วรวม 9,792 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 7.2 % ลดลง 58.1 % และอันดับ 5 NISSAN จำหน่ายแล้วรวม 6,246 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 4.6 % ลดลง 45.2 %
 
ในภาคส่วนของรถเอสยูวี หรือรถกิจกรรมกลางแจ้ง MG (เอมจี) จากจืนแผ่นดินใหญ่ยังคงครองความเป็นผู้นำทางด้านของยอดจำหน่ายต่อเนื่องต่อไป ทั้งในยอดจำหน่ายรายเดือน และยอดจำหน่ายสะสมรวม โดยจากยอดจำหน่ายรวมทั้งตลาดในเดือนพฤษภาคม 2563 ที่ 3,082 คัน ซึ่งลดลงจากเดือนพฤษภาคมปี 2562 ถึง 49.7 % นั้นเป็นของรถยนต์ MG เสีย 896 คัน ได้ส่วนแบ่งการตลาดไป 29.1 % แต่เป็นตัวเลขยอดจำหน่ายที่ลดลง 36.0 % เมื่อเทียบกับเดือนพฤษภาคมปี 2562 ส่วนรถเอสยูวีที่จำหน่ายได้มากสุดอีก 4 อันดับนั้น ประกอบด้วย HONDA 664 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 21.5 % ลดลง 74.6 % MAZDA 548 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 17.8 % เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤษภาคม 2562 ถึง 81.5 % NISSAN 414 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 13.4 % เพิ่มขึ้นมากถึง 239.3 % และ TOYOTA 311 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 10.1 % ลดลง 77.2 %
 
ยอดจำหน่ายของรถยนต์ประเภทนี้ ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเดือนพฤษภาคม มีตัวเลขยอดจำหน่ายรวมกันทั้งสิ้น 20,268 คัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา 31.9 % MG ยืดอกอยู่บนอันดับ 1 ของตารางด้วยยอดจำหน่ายรวม 5,898 คัน ถือครองส่วนแบ่งการตลาดอยู่ 29.1 % น่าเสียดายที่เป็นตัวเลขที่ลดน้อยลง 9.5 % อันดับ 2 เป็นของ HONDA ด้วยยอดจำหน่ายรวมที่ห่างกันยังไม่มากเท่าไร 5,802 คัน ส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 28.6 % เป็นยอดจำหน่ายที่ลดลง 54.7 % อันดับ 3 MAZDA จำหน่ายแล้วรวม 2,822 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 13.9 % เพิ่มขึ้น 9.9 % อันดับ 4 CHEVROLET จำหน่ายแล้ว 2,479 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 12.2 % และอันดับ 5 เป็นของพี่ใหญ่ TOYOTA จำหน่ายแล้วรวม 1,930 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 9.5 % ลดลง 67.1 %
 
ซึ่งในส่วนของรถพิคอัพ และรถเอสยูวี ในเดือนพฤษภาคมนี้มีการนำไปแจ้งจดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบกรวมทั้งสิ้น 29,387 คัน ลดลงจากเดือนพฤษภาคมปีที่ผ่านมา 45.4 % สำหรับรถยนต์เพื่อการพาณิชย์อื่นๆ ยกเว้นรถยนต์นั่ง เดือนพฤษภาคมนี้จำหน่ายไปรวม 2,466 คัน ลดลง 42.5 % 5 เดือนแรกของปี 2563 จำหน่ายรวมกันแล้ว 14,542 คัน ลดลง 22.6 %
 
รวม 5 เดือนแรกของปี 2563 รถพิคอัพ 1 ตัน ทั้งตลาดจำหน่ายรวมกันแล้วได้ 136,833 คัน เป็นตัวเลขยอดจำหน่ายที่ปรับตัวลดลง 37.2 % เมื่อเทียบกับ 5 เดือนแรกของปี 2562 และเป็น ISUZU ที่ยังคงยืนหนึ่งอยู่สำหรับตำแหน่งรถพิคอัพที่จำหน่ายขายดีที่สุดโดย 5 เดือนแรกนี้จำหน่ายไปแล้วรวม 55,205 คัน คิดเป็นส่วนแบ่งการตลาดที่ 40.3 % แต่ก็เป็นตัวเลขที่ปรับตัวลดลง 21.3 % เมื่อเทียบกับ 5 เดือนแรกของปี 2562 อันดับ 2 เริ่มถูกขยายระยะห่างออกไปสำหรับ TOYOTA โดยจำหน่ายแล้วรวม 48,890 คัน ส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 35.7 % เป็นยอดจำหน่ายที่ลดลง 40.4 % อันดับ 3 เป็น MITSUBISHI จำหน่ายแล้วรวม 12,854 คัน ส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 9.4 % ลดลง 39.5 % อันดับ 4 FORD จำหน่ายแล้วรวม 9,792 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 7.2 % ลดลง 58.1 % และอันดับ 5 NISSAN จำหน่ายแล้วรวม 6,246 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 4.6 % ลดลง 45.2 %
 
ในภาคส่วนของรถเอสยูวี หรือรถกิจกรรมกลางแจ้ง MG (เอมจี) จากจืนแผ่นดินใหญ่ยังคงครองความเป็นผู้นำทางด้านของยอดจำหน่ายต่อเนื่องต่อไป ทั้งในยอดจำหน่ายรายเดือน และยอดจำหน่ายสะสมรวม โดยจากยอดจำหน่ายรวมทั้งตลาดในเดือนพฤษภาคม 2563 ที่ 3,082 คัน ซึ่งลดลงจากเดือนพฤษภาคมปี 2562 ถึง 49.7 % นั้นเป็นของรถยนต์ MG เสีย 896 คัน ได้ส่วนแบ่งการตลาดไป 29.1 % แต่เป็นตัวเลขยอดจำหน่ายที่ลดลง 36.0 % เมื่อเทียบกับเดือนพฤษภาคมปี 2562 ส่วนรถเอสยูวีที่จำหน่ายได้มากสุดอีก 4 อันดับนั้น ประกอบด้วย HONDA 664 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 21.5 % ลดลง 74.6 % MAZDA 548 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 17.8 % เพิ่มขึ้นจากเดือนพฤษภาคม 2562 ถึง 81.5 % NISSAN 414 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 13.4 % เพิ่มขึ้นมากถึง 239.3 % และ TOYOTA 311 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 10.1 % ลดลง 77.2 %
 
ยอดจำหน่ายของรถยนต์ประเภทนี้ ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเดือนพฤษภาคม มีตัวเลขยอดจำหน่ายรวมกันทั้งสิ้น 20,268 คัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา 31.9 % MG ยืดอกอยู่บนอันดับ 1 ของตารางด้วยยอดจำหน่ายรวม 5,898 คัน ถือครองส่วนแบ่งการตลาดอยู่ 29.1 % น่าเสียดายที่เป็นตัวเลขที่ลดน้อยลง 9.5 % อันดับ 2 เป็นของ HONDA ด้วยยอดจำหน่ายรวมที่ห่างกันยังไม่มากเท่าไร 5,802 คัน ส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 28.6 % เป็นยอดจำหน่ายที่ลดลง 54.7 % อันดับ 3 MAZDA จำหน่ายแล้วรวม 2,822 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 13.9 % เพิ่มขึ้น 9.9 % อันดับ 4 CHEVROLET จำหน่ายแล้ว 2,479 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 12.2 % และอันดับ 5 เป็นของพี่ใหญ่ TOYOTA จำหน่ายแล้วรวม 1,930 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 9.5 % ลดลง 67.1 %
 
ซึ่งในส่วนของรถพิคอัพ และรถเอสยูวี ในเดือนพฤษภาคมนี้มีการนำไปแจ้งจดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบกรวมทั้งสิ้น 29,387 คัน ลดลงจากเดือนพฤษภาคมปีที่ผ่านมา 45.4 % สำหรับรถยนต์เพื่อการพาณิชย์อื่นๆ ยกเว้นรถยนต์นั่ง เดือนพฤษภาคมนี้จำหน่ายไปรวม 2,466 คัน ลดลง 42.5 % 5 เดือนแรกของปี 2563 จำหน่ายรวมกันแล้ว 14,542 คัน ลดลง 22.6 %                    

