มิตซู อิมเพรสชั่นฯ มุ่งเน้นบริการ สู่เป้าหมาย BEST IN TOWN

มิตซู อิมเพรสชั่นฯ รุกบริการหลังการขายครบวงจร สู่เป้าหมาย BEST IN TOWN ทุ่มงบขยายสาขาเพิ่ม เน้นกลยุทธ์สร้างการรับรู้

ธนพล สมิตะโยธิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท มิตซู อิมเพรสชั่น จำกัด ผู้จำหน่ายรถยนต์ MITSUBISHI (มิตซูบิชิ) อย่างเป็นทางการ เปิดเผยว่า มิตซู อิมเพรสชั่นฯ เป็นบริษัทในเครือ KCAR GROUP (เคคาร์ กรุพ) ที่ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 2523 โดยมีธุรกิจที่เกี่ยวกับยานยนต์ครอบคลุมทุกความต้องการด้านรถยนต์ ทั้งภาคเอกชน รัฐวิสาหกิจ และราชการ ประกอบด้วย บริษัทรถเช่าชั้นนำ ผู้จำหน่ายรถยนต์บแรนด์ชั้นนำ ผู้จำหน่ายรถยนต์นำเข้าอิสระ และธุรกิจรถยนต์มือสอง   สาเหตุที่ตัดสินใจเลือกเป็นผู้จำหน่ายรถยนต์ MITSUBISHI อันดับแรก คือ บแรนด์เปิดรับผู้จำหน่าย และ MITSUBISHI มีผลิตภัณฑ์หลากหลาย มีความน่าเชื่อถือ ได้รับการตอบรับอย่างดีจากลูกค้าในประเทศไทย นอกจากนี้ บริษัทฯ มีความชำนาญเกี่ยวกับรถฟลีท และ MITSUBISHI มีรถพิคอัพ ทำให้มีโอกาสในการขาย อีกทั้ง MITSUBISHI เป็นบแรนด์ที่มียอดขายติดอันดับ 3 และ 4 เมื่อบริษัทฯ พร้อมลงทุนจึงตัดสินใจเข้าซื้อกิจการเดิม มิตซู อิมเพรสชั่นฯ จากผู้บริหารเดิม   มิตซู อิมเพรสชั่นฯ มีพื้นที่ 10 ไร่ หลังจากเข้าซื้อกิจการบริษัทฯ ได้ลงทุนประมาณ 12 ล้านบาท ปรับปรุงโชว์รูมพร้อมศูนย์บริการ โดยพื้นที่บริการของโชว์รูม สามารถจอดรถได้ถึง 8 คัน ให้บริการได้เดือนละ 1,500 คัน มีพื้นที่สำหรับการจัดกิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ ศูนย์บริการ นอกจากนี้ ยังมีในส่วนศูนย์ซ่อมสี และตัวถัง ที่สามารถให้บริการได้ถึง 200 คัน/เดือน และยังมีแผนที่จะขยายพื้นที่เพิ่มในส่วนนี้   จุดเด่นของ มิตซู อิมเพรสชั่นฯ เน้นการขายหลากหลายรูปแบบ เช่น การขายทางออนไลน์ และการสร้างการรับรู้เพื่อให้เป็นที่รู้จักในกลุ่มลูกค้ามากขึ้น โดยจะนำประสบการณ์ในธุรกิจรถยนต์มาสร้างให้ มิตซู อิมเพรสชั่นฯ เป็น ONE STOP ที่มีบริการทุกสิ่งที่ลูกค้าต้องการ เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายการเป็น BEST IN TOWN   “สิ่งสำคัญ คือ เราต้องเข้าไปอยู่ในใจลูกค้า ทำให้ลูกค้าไว้วางใจในเรา ซึ่งนอกจากการขายรถ และบริการหลังการขายแล้ว ยังมุ่งการบริการที่แตกต่าง เช่น การทำประกัน การต่อทะเบียน รวมถึงการจัดพโรโมชันที่นำการขายกับการบริการมาผสมผสานกัน ตัวอย่างเช่น รถที่หมดรับประกัน หากมาซื้อประกันกับบริษัทฯ ก็สามารถจะเข้ามาใช้บริการได้โดยไม่ต้องเสียค่าส่วนต่าง โดยเห็นชัดที่สุดก็คือ การซ่อมสี และตัวถัง หากไปใช้บริการกับอู่ประกันจะต้องจ่ายส่วนต่าง 30-40 %   จากสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ทำให้พนักงานได้คุยกับลูกค้ามากขึ้น โดยบริษัทฯ ได้ไปบริการพ่นยาฆ่าเชื้อโรคให้รถที่บ้าน รถราชการ ทำให้ได้ผลตอบรับดีมาก จากเดิมในศูนย์บริการมีรถเข้ามาใช้บริการ 7-8 คัน เพิ่มเป็น 15 คัน แสดงให้เห็นว่า กิจกรรมสามารถสร้างการรับรู้ ทำให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น”   บริษัทฯ เตรียมจะขยายสาขา ขณะนี้อยู่ระหว่างศึกษาข้อมูลหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นคู่แข่งบแรนด์ใหม่ๆ หรือทิศทางของตลาดที่จะเปลี่ยนเป็นรถไฟฟ้า เพื่อวางกลยุทธ์การลงทุนในอนาคต   สำหรับยอดขายปีนี้ ช่วงแรกตั้งเป้าไว้ที่กว่า 800 คัน แต่เมื่อมีสถานการณ์ของโรคระบาด คาดว่ายอดขายจะลดลงประมาณ 10-15 %