ระเบียงรถใหม่ 3 Apr 2020

LEXUS LC500 CONVERTIBLE รถเปิดประทุนแบบเดียวของผู้ผลิตรถหรูเมืองยุ่น

แอลซี รถแบบเปิดประทุนรุ่นที่ 2 ในรอบ 20 ปี ของ เลกซัส

ปิด “ระเบียงรถใหม่” ในเดือนแห่งการชุมนุมรถเปิดประทุนสารพัดสัญชาติ ด้วยผลงานชิ้นใหม่ของค่าย เลกซัส (LEXUS) ผู้ผลิตรถยนต์ระดับ “พรีเมียม” ซึ่งอยู่ในสังกัดของยักษ์ใหญ่ โตโยตา มอเตอร์ คอร์พอเรชัน (TOYOTA MOTOR CORPORATION) คือ รถเปิดประทุน เลกซัส แอลซี 500 คอนเวอร์ทิเบิล (LEXUS LC500 CONVERTIBLE) ซึ่งเพิ่งเปิดตัวที่งานมหกรรมยานยนต์ลอสแองเจลิสครั้งล่าสุดเมื่อปลายเดือนพฤศจิกายนปีหมูทองท้องแห้ง แต่ต้องรอจนถึงฤดูร้อนของปี 2020 (ประมาณไตรมาส 3) จึงจะเริ่มการจำหน่ายในญี่ปุ่น ในอดีตค่ายนี้เคยทำรถเปิดประทุนมาแล้ว 1 รุ่น คือ รถ เลกซัส เอสซี 430 (LEXUS SC430) ซึ่งอยู่ในสายการผลิตระหว่างปี 2001-2010 เป็นรถเปิดประทุน 2 ประตู 4 ที่นั่ง ในตัวถังยาวประมาณ 4.50 ม. ติดตั้งประทุนหลังคาแบบแข็งทำจาก อลูมิเนียม และติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน DOHC วี 8 สูบ 4,292 ซีซี 206 กิโลวัตต์/280 แรงม้า ส่งกำลังสู่ล้อคู่หลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ รถแบบนี้อยู่ในสายการผลิตจนถึงเดือนกรกฎาคม 2010 โดยทำยอดขายในญี่ปุ่นได้เพียง 3,800 คัน และขายในสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นตลาดหลักได้ประมาณ 70,000 คัน หลังจากนั้นก็ไม่มีรถเปิดประทุนของค่ายนี้ให้เห็นอีกเลย รถเปิดประทุนแบบใหม่คือ เลกซัส แอลซี 500 คอนเวอร์ทิเบิล (LEXUS LC500 CONVERTIBLE) ที่กำลังอวดโฉมอยู่นี้ ก็เหมือนกับรถเปิดประทุนส่วนใหญ่ที่มีขายทั้งในอดีต และปัจจุบัน คือ ไม่ใช่รถที่ออกแบบขึ้นใหม่ทั้งหมด แต่เป็นการนำรถคูเปที่มีอยู่ก่อนแล้วมาพัฒนาต่อกิ่งต่อยอดเป็นรถเปิดประทุน ในกรณีนี้รถคูเปซึ่งเป็นที่มา คือ เลกซัส แอลซี-ซีรีส์ (LEXUS LC-SERIES) รถ 2 ประตู 4 ที่นั่ง ขนาด 4.770x1.920x1.345 ม. ซึ่งเริ่มจำหน่ายในเมืองยุ่นเมื่อเดือนมีนาคม 2017 และขณะนี้มีรถเพียง 2 โมเดล คือ เลกซัส แอลซี 500 (LEXUS LC500) กับ เลกซัส แอลซี 500 เอช (LEXUS LC500H) โมเดลแรกติดตั้งเครื่องยนต์เบนซินฉีดตรง DOHC วี 8 สูบ 4,968 ซีซี 351 กิโลวัตต์/477 แรงม้า และระบบเกียร์อัตโนมัติคลัทช์คู่ 10 จังหวะ ส่วนโมเดลหลังติดตั้งระบบขับ ไฮบริดชนิดไม่ต้องเสียบปลั๊กเพื่อชาร์จไฟ ซึ่งใช้เครื่องยนต์เบนซินฉีดตรง DOHC วี 6 สูบ 3,456 ซีซี 220 กิโลวัตต์/299 แรงม้า ทำงานร่วมกันกับมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 132 กิโลวัตต์/180 แรงม้า และระบบเกียร์อัตโนมัติปรับอัตราทดต่อเนื่อง (เกียร์ CVT) ได้กำลังสุทธิสูงสุด 264 กิโลวัตต์/359 แรงม้า ตัวถังซึ่งยาว 4.760 ม. กว้าง 1.920 ม. และสูง 1.350 ม. และนั่งได้รวม 4 คน (แต่ผู้นั่งแถวหลังแทบจะขยับขาขยับเข่าไม่ได้เลย) ติดตั้งประทุนหลังคาแบบอ่อน ทำจากผ้าใบ 4 ชั้น บังคับเปิด/ปิดโดยการกดปุ่มเพียงปุ่มเดียว และทำได้เมื่อรถยังวิ่งเร็วไม่เกิน 50 กม./ชม. ผู้ผลิตยืนยันว่าเป็นประทุนหลังคาที่ป้องกันเสียงรบกวนจากภายนอกได้ดี และการเปิด หรือปิดแต่ละครั้งใช้เวลาไม่มาก แต่ไม่ยอมระบุว่ากี่วินาที ? ส่วนกลไกต่างๆ รวมทั้งเครื่องยนต์ และระบบเกียร์ ยกทั้งชุดจากรถคูเปซึ่งเป็นที่มาโดยแทบไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไร คือ ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซินฉีดเชื้อเพลิงโดยตรง DOHC วี 8 สูบ 4,968 ซีซี (รหัสเครื่องยนต์ 2UR-GSE) ซึ่งให้กำลังสูงสุด 351 กิโลวัตต์/477 แรงม้า ที่ 7,100 รตน. และให้แรงบิดสูงสุด 540 นิวตัน-เมตร/55.1 กก.-ม.ที่ 4,800 รตน. ส่วนระบบเกียร์เพื่อส่งกำลังสู่ล้อคู่หลังเป็นเกียร์อัตโนมัติ 10 จังหวะ สนนราคาค่าตัวยังไม่ได้ประกาศ