ช่วงต้นปีที่ผ่านมา พื้นที่กรุงเทพมหานคร และอีกหลายจังหวัดในประเทศไทย ถูกปกคลุมด้วยฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) จนกลายเป็น “เมืองในฝุ่น” ซึ่งแม้แต่คนที่ขับรถผ่านไปมา ก็ไม่รอดจากการต้องสูดฝุ่นพิษนี้เช่นกัน
DIY…คุณทำเองได้ฉบับนี้ จึงชวนคุณมาติดตั้งเครื่องฟอกอากาศในรถกันเถอะ
เครื่องฟอกอากาศในรถมีคุณสมบัติในการกรองฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งยังสามารถฆ่าเชื้อโรค แบคทีเรีย เชื้อรา และสารประกอบอินทรีย์ต่างๆ ที่ลอยอยู่ในอากาศ นอกจากนี้ ยังกรองแกสคาร์บอนมอนอกไซด์ (CO) ที่เกิดจากการเผาไหม้ของเครื่องยนต์ได้อีกด้วย
ระบบแอร์ในรถของเรามีกรองแอร์ติดมาด้วยก็จริง แต่เป็นกรองที่ออกแบบมาให้กรองแค่ฝุ่นขนาดเล็ก เส้นใยขนสัตว์ และเส้นผมเท่านั้น ไม่สามารถกรองฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) หรือเชื้อโรคในอากาศได้
1. เลือกขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบา และใช้งานง่าย
2. กรองฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) กรองมลพิษ ขจัดกลิ่น และเชื้อไวรัสได้
3. ความแรงพัดลมมีให้เลือกหลายระดับ ทำงานเงียบ แข็งแรง ทนทาน
4. ราคาเหมาะสมกับคุณสมบัติการกรอง ประมาณหลักร้อยถึงหลักพัน
1. เครื่องฟอกอากาศในรถ
2. สายรัด
3. เครื่องวัดฝุ่น PM2.5
4. ถุงมือ
1. ตรวจเชคตัวกรอง ต้องอยู่ตำแหน่งที่ถูก และต้องปิดสนิท
2. ตรวจเชคตัวกรอง ต้องอยู่ตำแหน่งที่ถูก และต้องปิดสนิท
3. รัดเครื่องฟอกอากาศติดกับขาหมอนรองคอให้แน่น
4. เสียบกับสายไฟปลั๊กไฟ แล้วทดลองเปิดใช้งาน
5. วัดฝุ่น PM2.5 ในห้องโดยสาร จดค่าที่ได้ไว้
6. เปิดเครื่องฟอกอากาศ วัดค่าฝุ่นละอองที่ลดลงเทียบกับเวลา
7. ถ้าค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กลดลงเรื่อยๆ แสดงว่าใช้ได้
8. ตรวจสอบการยึดให้แน่นอีกครั้ง เป็นอันเสร็จ