ชีวิตอิสระ
เกาะยอ สงขลา สงบเรียบง่าย ใจกลางทะเลสาบ
“เกาะยอ” คือ สถานที่แห่งความเงียบสงบ เรียบง่าย และมีทัศนียภาพงดงามโดยเฉพาะยามเย็น “ชีวิตอิสระ” จะพาไปสัมผัสเกาะกลางทะเลสาบสงขลาแห่งนี้
ล่องใต้ไปกับ ซูบารุ ฟอเรสเตอร์
การเดินทางไปเกาะยอใช้เวลานานกว่า 14 ชม. กับระยะทางกว่า 1,000 กม. ผมเลือกรถ ซูบารุ ฟอเรสเตอร์ ใหม่ เป็นพาหนะ เนื่องจากมีเทคโนโลยี EYE SIGHT ติดตั้งมาด้วย ระบบจะรักษาระยะห่างจากรถคันหน้าได้ตั้งแต่รถหยุดนิ่งเลยทีเดียว แถมมีระบบเบรคอัตโนมัติ และช่วยเตือนเมื่อรถกำลังออกจากช่องจราจร ทำให้การขับทางไกลสบายขึ้นเยอะ และยังมาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา AWD ที่ขึ้นชื่อ ไม่ว่าจะเจอโค้งไหน ยังไงก็เอาอยู่ ด้วยขนาดเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร 156 แรงม้า พร้อมเกียร์อัตโนมัติซีวีที 7 จังหวะ ตอนแรกคิดว่าจะเล็กไปสำหรับตัวถังขนาดใหญ่ของ ฟอเรสเตอร์ แต่เมื่อขับจริงแล้วบอกเลยว่าเหลือเฟือ และประหยัดน้ำมันมากกว่ารุ่นเดิมอย่างน่าแปลกใจ
- X-MODE ช่วยให้ลงเขาได้ง่ายขึ้น
รู้จัก “เกาะยอ” สถานที่พักร้อนของคนทุกยุค
- ตอนเช้าจะมีพระเดินบิณฑบาต
- สาวน้อยเกาะยอ กำลังช่วยคุณแม่ขายของ
- รูปปั้นปลากะพง แลนด์มาร์คใหม่ของวัดแหลมพ้อ
วัดแหลมพ้อ พระนอนใหญ่ที่สุดในไทย
- วัดแหลมพ้อ มีพระนอนใหญ่สุดในประเทศไทย
- สะพานติณสูลานนท์ทางทิศเหนือ
วัดท้ายยอ เก่าแก่กว่า 200 ปี
- กุฏิแบบเรือนไทยปั้นหยา อายุ 200 ปี ควรค่าแก่การอนุรักษ์
- อุโบสถโบราณ ตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนปลาย
เยี่ยมสวนลุงวี สัมผัสจำปาดะ ผลไม้ประจำเกาะ
- ลุงวีพาเดินชมสวนจำปาดะ
- จำปาดะรสชาติหอมหวาน มีกลิ่นเป็นเอกลักษณ์
ชมแสงสีทอง ความสวยงามยามเย็น
ช่วงเวลาที่สวยที่สุดบนเกาะยอ คือ ช่วงเย็นยามพระอาทิตย์กำลังลับขอบฟ้า คุณจะได้เห็นวิวของกระชังปลากะพงตั้งเรียงรายอยู่กลางทะเลสาบมากมาย เราสามารถขับรถตามถนนรอบเกาะยอเพื่อชื่นชมความสวยงามนี้ได้ ได้เห็นทั้งวิถีชีวิตของชาวประมงบนเกาะที่กำลังออกหาปลา บ้านเรือนของชาวบ้านที่กำลังวุ่นวายกับการทำกับข้าว ได้เห็นภาพของโฮมสเตย์ริมน้ำที่มีคนมาพักอย่างครึกครื้น และบางหลังก็ดูเงียบสงบน่าพักผ่อน ทุกอย่่างกลายเป็นองค์ประกอบที่ทำให้บรรยากาศยามเย็นมีเสน่ห์ที่สุด
ผมประทับใจการเดินทางในครั้งนี้ นอกจากมีวิวริมทะเลสาบที่สวยงามแล้ว ยังมีวัดสวยๆ ที่ทรงคุณค่า มีร้านอาหารสดอร่อยราคาไม่แพง มีโฮมสเตย์ราคาหลักร้อยในบรรยากาศหลักล้าน แต่สิ่งที่ผมเห็นได้ชัดเจนเป็นตัวอย่างที่ดีให้แก่ชุมชนในประเทศไทย คือ ความมีมิตรไมตรีที่ดี มีน้ำใจต่อนักท่องเที่ยว และการช่วยเหลือกันและกันในชุมชน เหตุผลเพียงเท่านี้ น่าจะพอสำหรับการมาพักผ่อนที่เกาะยอแล้วละครับ
แผนที่เส้นทาง
ที่กิน + ที่นอน
หากใครเที่ยวเกาะยอ แนะนำให้มาลองสัมผัสอาหารทะเลสดๆ ของที่นี่ โดยเฉพาะเมนูที่เกี่ยวกับ “ปลากะพง” เนื่องจากขึ้นชื่อเรื่องการเพาะเลี้ยงปลากะพง 3 น้ำ คือ น้ำเค็ม น้ำจืด และน้ำกร่อย เนื้อจะแน่น และอร่อยกว่าที่อื่น และร้านที่ต้องมาชิมให้ได้ คือ “ร้านชมจันทร์ ซีฟู้ด” ที่อยู่ริมทะเลสาบใกล้กับวัดแหลมพ้อ ร้านนี้ลูกค้าแวะเวียนมารับประทานไม่ขาดสาย เพราะเน้นวัตถุดิบที่สดเท่านั้น เรื่องรสชาติบอกเลยว่าอร่อยทุกอย่าง แถมราคาก็ถูกมากจนไม่น่าเชื่อ
ที่พักบนเกาะยอมีมากมายหลากหลาย ทั้งโฮมสเตย์ริมน้ำ บนน้ำ หรือแม้แต่โรงแรมหรูขนาดกลางขึ้นไป แต่ผมกลับไปสะดุตตากับ “โรงแรมคุ้มไทรงาม แอนด์ รีสอร์ท” เนื่องจากตกแต่งแนวบาหลีดูสวยงาม และยังตั้งอยู่ติดทะเลสาบสงขลาอีกด้วย ภายในที่พักมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน ราคาเริ่มต้นที่ 1,400 บาท/คืน
ขอขอบคุณ
บริษัท ทีซี ซูบารุ (ประเทศไทย) จำกัด ที่เอื้อเฟื้อพาหนะสำหรับการเดินทางครั้งนี้ ABOUT THE AUTHOR
ว
วิธวินท์ ไตรพิศ
ภาพโดย : เกรียงศักดิ์ ปันสมนิตยสาร 417 ฉบับเดือน มีนาคม ปี 2563
คอลัมน์ Online : ชีวิตอิสระ(4wheels)




