โตโยตา รัฟโฟร์ รุ่นใหม่ เป็นสายพันธุ์ที่ 5 เปิดตัวอย่างเป็นทางการในงานมหกรรมยานยนต์นิวยอร์ค ครั้งล่าสุด ตัวถังของ รัฟโฟร์ ใหม่ ได้รับการปรับปรุงด้านอากาศพลศาสตร์ให้ดีขึ้นกว่าเดิม เพิ่มทัศนวิสัยรอบเสาเอ การมองเห็นด้านข้างดีขึ้นจากการที่เสาเอด้านหน้า และเสาบีตรงกลางมีขนาดเล็กลง กระจกบังลมรอบคันมีขนาดใหญ่ขึ้นโดยได้รับการออกแบบใหม่ และขยายขนาดความกว้างให้เพิ่มขึ้น ช่วยให้มองเห็นได้ในแนวขวาง มีพื้นที่เก็บสัมภาระท้ายรถ 580 ลิตร มากกว่ารุ่นที่แล้วถึง 79 ลิตรพแลทฟอร์มใหม่ที่เรียกว่า TNGA หรือ TOYOTA NEW GLOBAL ARCHITECTURE ซึ่งใช้เป็นครั้งแรกใน โตโยตา ซี-เอชอาร์ และแคมรี ใหม่ ถูกปรับให้มีความแข็งแรงกว่า รัฟโฟร์ รุ่นที่แล้วถึง 57 % มีส่วนช่วยทำให้ รัฟโฟร์ มีการควบคุมบังคับที่ดีขึ้น และแข็งแกร่งกว่าเดิม ระบบรองรับด้านหลังแบบมัลทิลิงค์ ที่ได้ปรับ เซทมาอย่างลงตัว มีส่วนช่วยให้รถมีเสถียรภาพในการขับขี่ที่มั่นใจ โอเวอร์แฮงด้านหน้า และด้านหลังที่สั้นลงเล็กน้อย ช่วยเพิ่มความสามารถในการขับลุยเส้นทางทุรกันดาร และขับผ่านอุปสรรคได้ง่ายดายยิ่งขึ้น พร้อมทั้งติดตั้งเฟืองท้ายลิมิเทด สลิพ แบบทเรล โหมด (TRAIL MODE) ที่จะช่วยเพิ่มการยึดเกาะพื้นถนน โดยเฉพาะบนเส้นทางทุรกันดารที่ลื่นได้เป็นอย่างดี รัฟโฟร์ มีทั้งหมด 5 รุ่นย่อย ได้แก่ รุ่น แอลอี, เอกซ์แอลอี, เอกซ์แอลอี พรีเมียม, แอดเวนเจอร์, เอกซ์เอสอี เอชวี และลิมิเทด รถทุกรุ่นจะมาพร้อมกับระบบมัลทิมีเดีย ENTUNE 3.0 รวมถึงการเชื่อมต่อเพื่อใช้งาน APPLE CAR PLAY ระบบสั่งงานด้วยเสียง ENTUNE 3.0 พร้อมหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว ซึ่งอยู่ตรงกลาง ระบบเสียง JBL พร้อมลำโพง 11 ตัว 8 ทิศทาง กำลังขับมากถึง 800 วัตต์ ให้คุณภาพเสียงที่สมบูรณ์แบบ วัสดุป้องกันเสียงที่เสริมเข้ามาช่วยลดเสียงรบกวนภายในห้องโดยสารได้เป็นอย่างดี เพิ่มความรื่นรมย์ในการฟังเพลง ขุมพลังจากเครื่องยนต์เบนซิน DYNAMIC FORCE (รหัส A25A-FKS) ขนาด 2.5 ลิตร พร้อมระบบวาล์วอัจฉริยะควบคุมด้วยไฟฟ้า VVT-IE ขับเคลื่อนล้อหน้า ให้กำลังสูงสุด 206 แรงม้า และแรงบิด 25.7 กก.-ม. จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ อัตราเร่ง 0-96 กม./ชม. ทำได้ในเวลาเพียง 8.2 วินาที แถมประหยัดเชื้อเพลิงโดยเฉลี่ย 12.8 กม./ลิตร ส่วนเครื่องยนต์เบนซิน ไฮบริด ใหม่ ขนาด 2.5 ลิตร ให้กำลังถึง 178 แรงม้า ที่ 5,700 รตน. แรงบิด 22.5 กก.-ม. ที่ 3,600-5,200 รตน. ทำงานประสานกับมอเตอร์ไฟฟ้าด้านหน้า ให้กำลัง 120 แรงม้า และแรงบิด 20.6 กก.-ม. และถ้าเป็นรุ่น E-FOUR ขับเคลื่อน 4 ล้อ จะมีมอเตอร์ไฟฟ้าหลังเพิ่มมาอีกหนึ่ง ให้กำลัง 54 แรงม้า และแรงบิด 12.3 กก.-ม. โดยมอเตอร์ไฟฟ้า และแบทเตอรีได้รับการปรับปรุงใหม่ เป็นระบบไฮบริดที่มีความเสถียร ระบบเกียร์อัตโนมัติแบบซีวีที อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 8.1 วินาที มีความสิ้นเปลืองโดยเฉลี่ย 17.0 กม./ลิตร ในรุ่น รัฟโฟร์ แอดเวนเจอร์ ภายนอกได้รับการติดตั้งโป่งที่ซุ้มล้อ มาพร้อมวงล้อขนาด 19 นิ้ว ขับเคลื่อน 4 ล้อ AWD ซึ่งเป็นระบบมัลทิ-เทอร์เรน ซีเลคท์ (MULTI-TERRAIN SELECT) ที่ใช้งานง่าย ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถขับผ่านอุปสรรคต่างๆ โดยอาศัยแรงบิดจากเครื่องยนต์ที่เหมาะกับการใช้งานเมื่อขับผ่านหิมะ โคลน ทราย หรือหิน ด้วยการปรับหมุนปุ่มควบคุมบนคอนโซลกลาง คงต้องลุ้นกันต่อไปว่า โตโยตา จะนำรถเอสยูวีรุ่นนี้เข้ามาขาย หรือมีการประกอบเพื่อจำหน่ายในประเทศไทยหรือไม่ ถ้าเป็นรุ่นไฮบริดก็จะได้อัตราภาษีที่ลดต่ำลง มีผลให้ราคาพอสู้กับคู่แข่งในตลาดได้ไม่ยากเย็น เป็นรถที่น่าใช้อีกรุ่นหนึ่งจากค่าย โตโยตา