บริษัท สยามมิชลิน จำกัด นำคณะสื่อมวลชนร่วมชมการแข่งขัน MOTO GP 2019 สนามที่ 15 รายการ พีทีที ไทยแลนด์ กรองด์ปรีซ์ ซึ่งยาง มิเชอแลง เป็นผู้สนับสนุนปิเอโร ตารามัซโซ ผู้จัดการฝ่ายมอเตอร์สปอร์ท ผลิตภัณฑ์ 2 ล้อ บริษัท สยามมิชลิน จำกัด กล่าวว่า มิเชอแลง สนับสนุนการแข่งขัน MOTO GP เป็นปีที่ 2 โดยได้พัฒนายางสำหรับใช้แข่งขันในประเทศไทย และออสเตรีย ซึ่งมีสภาพอากาศใกล้เคียงกัน เนื่องจากหากสนามมีอากาศร้อนจัด ศักยภาพของยางในการยึดเกาะพื้นสนามแข่งจะลดลง มิเชอแลง จึงพัฒนาเนื้อยางให้แข็งขึ้น และยังเป็นยางที่มีเนื้อยาง 2 ข้างไม่เท่ากัน เพราะสนามช้างมีโค้งขวา 7 โค้ง และโค้งซ้าย 5 โค้ง ซึ่งทำให้นักแข่งสามารถใช้ความเร็วได้เต็มที่จากเนื้อยางที่แข็งขึ้น ทำให้นักแข่งเกือบทุกคนเลือกใช้ยางหน้าเป็นยางฮาร์ดคอมพาวน์ด ส่วนยางหลังจะเลือกใช้ยางซอฟท์คอมพาวน์ด ในการแข่งขันแต่ละสนาม มิเชอแลง จะใช้ยางสำหรับแข่งขันจำนวน 1,400 เส้น แต่ใช้งานจริงประมาณ 900 เส้น นักแข่งแต่ละคนจะได้รับยางหน้า 10 เส้น ยางหลัง 13 เส้น ส่วนยางฝนด้านหน้า 5 เส้น ด้านหลัง 6 เส้น โดยจะมียางทุกแบบไว้รองรับ เช่น ยางสลิคจะมีทั้งซอฟท์ มีเดียม และฮาร์ดคอมพาวน์ด รวมไปถึงยางสำหรับการแข่งขันบนพื้นเปียกด้วย นอกจากนี้ ยางหลังจะต้องรองรับกับอุณหภูมิที่สูง 150 องศาเซลเซียส ดังนั้น เพื่อรักษาคุณภาพของยางให้คงที่ มิเชอแลง จึงเก็บยางไว้ในตู้คอนเทเนอร์ที่มีเครื่องปรับอากาศรักษาอุณหภูมิให้อยู่ในระดับ 20 องศาเซลเซียส โดยแรงดันลมยางด้านหน้าจะอยู่ที่ 1.09 บาร์ ส่วนยางหลังจะอยู่ที่ 1.7 บาร์ ซึ่งในแต่ละสนาม แต่ละทีมจะมีการปรับค่าลมยางให้เหมาะสมกับสภาพอากาศ หลังเสร็จสิ้นการแข่งขัน มิเชอแลง จะเก็บข้อมูลจากยางที่ผ่านการใช้งานแล้วโดย มิเชอแลง จะมีทีมงานจำนวน 20 คน แบ่งออกเป็นช่างถอดล้อ 11 คน วิศวกรประจำในแต่ละทีม เพื่อคอยให้ข้อมูลในการเลือกใช้ยาง 7 คน และอีก 2 คนจะเป็นผู้บริหารที่คอยดูแลประสานงาน ทำให้ มิเชอแลง มีข้อมูลการใช้ยางของนักแข่งแต่ละคนครบถ้วน เพื่อพัฒนายางให้เหมาะสมกับการแข่งขันในสนามต่อไป
บทความแนะนำ