ตลาดโดยรวม | +5.9 % |
รถยนต์นั่ง | +3.1 % |
รถกิจกรรมกลางแจ้ง (SUV) | -1.7 % |
รถอเนกประสงค์ (MPV) | +98.6 % |
กระบะขับเคลื่อน 2 ล้อ | +7.9 % |
กระบะขับเคลื่อน 4 ล้อ | -1.7 % |
อื่นๆ | +7.4 % |
บ้านเรากำลังอยู่ในขั้นตอนของการพัฒนาเพื่อให้ไปสู่ รถยนต์ไฟฟ้า อย่างแท้จริง ใช้พลังงานจากชุดแบทเตอรี ที่แม้จะมีท่านผู้รู้บางรายออกมาท้วงติง ว่าการผลิตพลังงานไฟฟ้า เพื่อนำมาใช้ในการชาร์จชุดแบทเตอรีนั้น ก็จำเป็นต้องใช้พลังงานมหาศาลอยู่เช่นกัน เสมือนที่เราใช้ไฟฟ้าภายในบ้านกันอยู่ปัจจุบัน ไม่ถึงกับเป็นการปลอดมลภาวะอย่างแท้จริงแต่สำหรับตัวรถยนต์ไฟฟ้า สามารถเดินทางได้โดยไม่ปล่อยมลภาวะใดๆ ออกมา เพราะใช้พลังงานไฟฟ้าจากชุดแบทเตอรีในการทำงานของชุดขับเคลื่อน ไม่มีควันไอเสียเหมือนรถยนต์สันดาปภายใน ไม่เป็นตัวกระจายมลภาวะไปสู่สถานที่ต่างๆ ที่เดินทางไปถึง จะอย่างไรก็ตามที ความก้าวหน้าของรถยนต์ไฟฟ้าในปัจจุบัน ที่มุ่งพัฒนาชุดแบทเตอรี ให้สามารถเดินทางได้ระยะทางที่ไกลพอสมควร สำหรับการชาร์จแต่ละครั้ง ปัจจุบัน ชุดแบทเตอรีสามารถเดินทางได้เป็นระยะทางเกินกว่า 300 กม./การชาร์จ 1 ครั้ง ซึ่งก็นับว่าเพียงพอต่อการใช้งานในชีวิตประจำวันอยู่แล้ว รวมทั้งระดับราคาก็เริ่มลดลงบ้างตามควร และน่าจะเห็นได้ชัดเจนถึงระยะการเดินทาง และระดับราคาที่พอสมควรในอีกไม่กี่ปีต่อจากนี้ สำหรับบ้านเรา ในช่วงครึ่งแรกของปี 2562 มียอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าแล้วถึง 13,611 คัน ขยายตัวสูงขึ้นจากช่วงเดียวกันในปี 2561 ถึง 46 % โดยรถยนต์ไฟฟ้าเริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้นในไทยปีนี้ เนื่องจากมีการเปิดตัวออกสู่ตลาดหลายรุ่นมากขึ้นกว่าปีก่อน ด้วยระดับราคาที่เข้าถึงได้มากขึ้น จึงได้รับการตอบรับค่อนข้างดีพอสมควรจากผู้บริโภค ซึ่งประเด็นเรื่องความคุ้มค่าต่อการลงเงินเพื่อซื้อรถยนต์ไฟฟ้า เป็นปัจจัยสำคัญอย่างมากที่มีต่อการตัดสินใจซื้อรถยนต์ไฟฟ้าของผู้บริโภค โดยในช่วงของครึ่งปีหลังนี้ ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าของไทยมีโอกาสที่จะทำตัวเลขได้อย่างน้อย 18,400 คัน หรือขยายตัวกว่า 75 % จากปีก่อน ซึ่งการขยายตัวที่เพิ่มสูงขึ้นมากในช่วงครึ่งปีหลัง เป็นผลมาจากยอดขายของรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ๆ ที่ได้ทยอยเปิดตัวกันออกมาในช่วง 1 ถึง 2 เดือนก่อนหน้านี้ และที่จะเปิดตัวในช่วงที่เหลือของปี โดยยอดขายเหล่านี้จะปรากฏเป็นตัวเลขปริมาณการซื้อจริง ในช่วง 6 เดือนที่เหลือของปีนี้ อันจะส่งผลให้ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้ารวมทั้งตลาดของไทยในปีนี้ อาจขยับขึ้นไปอยู่ที่ 32,000 คัน โดยประมาณ หรือขยายตัวกว่า 61 % จากปีก่อนที่ทำตัวเลขยอดขายได้ 19,880 คัน ประกอบกับผู้ผลิตบางส่วนอาจมีการย้ายฐานมาผลิตในไทยมากขึ้น อันเนื่องมาจากสงครามทางการค้า ทำให้ค่าใช้จ่ายดังกล่าวมีโอกาสที่จะปรับลดลงได้ ซึ่งจะช่วยลดความกังวลของผู้บริโภค และทำให้ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นได้มากกว่าที่เป็นอยู่
บทความแนะนำ