ทีม THAILAND INTERNATIONAL MOTOR EXPO กลับสู่สังเวียนการแข่งขันที่ท้าทายความแข็งแกร่งทั้งคนขับ และตัวรถ ในรายการ รยสท. ไทยแลนด์ เอนดูรานศ์ แชมเพียนชิพ อินเตอร์เนชันแนล 2019 ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิท จ. บุรีรัมย์ นับเป็นการแข่งขันสนามที่ 2 ของฤดูกาลนี้ หลังจากที่ในสนามแรกทีมแข่งประสบความสำเร็จเกินคาด กับการได้ตำแหน่งที่ 5 ของคลาสส์มาถึงสนามล่าสุด ทางทีมงานเล็งเห็นแล้วว่า การจะขยับอันดับให้ดีขึ้นจากสนามก่อนหน้านี้ จำเป็นต้องใช้เครื่องยนต์ที่มีพละกำลังมากขึ้น ดังนี้เองทางทีมงานผู้ดูแล และพัฒนารถแข่ง นั่นคือ วายเคมอเตอร์สปอร์ทส์ จึงทำการอัพเกรดเครื่องยนต์ขนานใหญ่ให้แก่รถแข่งที่ใช้พื้นฐาน ฮอนดา แจซซ์ และผลลัพธ์ที่ออกมานับว่าเกินความคาดหมายเป็นอย่างมาก นั่นคือ การที่ทีม THAILAND INTERNATIONAL MOTOR EXPO สามารถทำเวลาในรอบควอลิฟายด์เป็นอันดับ 1 ของรถยนต์ทุกคันที่เข้าร่วมการแข่งขัน !!! การทำเวลาในรอบควอลิฟายด์ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะเวลามีจำกัด และรถทุกคันต่างก็เค้นสมรรถนะกันอย่างถึงที่สุด รวมถึงบรรดาทีมชั้นนำทั้งหลาย การทำเวลาควอลิฟายด์เข้ามาเป็นอันดับ 1 ทำให้ตำแหน่งในกริดสตาร์ทของทีม THAILAND INTERNATIONAL MOTOR EXPO อยู่หน้าทุกทีมที่ทำการแข่ง รวมถึงคลาสส์ที่ใช้เครื่องยนต์ใหญ่กว่าระดับ 2.0 ลิตร แสดงให้เห็นว่าเครื่องยนต์บลอคใหม่มีพละกำลังมากกว่าเดิมมาก เมื่อถึงรอบแข่งขันจริง รถแข่งของทีมสามารถยืนอยู่ในหัวแถวได้ดี ต่อสู้กับทีมระดับหัวแถวได้อย่างสูสี เนื่องจากสมรรถนะของตัวรถนั้นไม่น้อยหน้าใคร แต่นับว่าน่าเสียดาย การแข่งขันแบบเอนดูรานศ์ ใช้เวลานานถึง 6 ชม. อุปสรรค และความท้าทายเกิดขึ้นได้เสมอ เมื่อการแข่งขันผ่านไประยะหนึ่ง ทีมกลับต้องประสบปัญหาของเครื่องยนต์ แม้จะพยายามเข้ามาแก้ไขหลายครั้ง และพยายามกลับลงสนามแข่ง สุดท้ายแล้วตัวรถไม่สามารถแก้ไขความเสียหายได้ และจอดสนิทก่อนถึงเส้นชัยไม่ถึง 10 นาทีก่อนจบการแข่งขัน แม้ต้องพบกับความผิดหวัง แต่ทีมงานทุกคนรวมถึงนักแข่งยังคงมีความหวังในสนามถัดไป เพราะอย่างน้อยในสนามนี้ทีม THAILAND INTERNATIONAL MOTOR EXPO แสดงให้เห็นแล้วว่าในแง่ของสมรรถนะ รถแข่งของทีมไม่เป็นรองใคร ความท้าทายบทถัดไป คือ การปรับปรุงให้รถมีความทนทานตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงจบการแข่งขัน !!!
บทความแนะนำ