การขับรถท่องเที่ยวตามเส้นทางธรรมชาติ เป็นการผจญภัยรูปแบบหนึ่งที่ได้รับความนิยมทุกยุคทุกสมัย อย่างไรก็ตาม สำหรับมือใหม่ควรเรียนรู้เทคนิคที่จำเป็นดังนี้
รถที่ใช้เกียร์ธรรมดาควรเหยียบคลัทช์เปลี่ยนเกียร์ให้เรียบร้อยก่อนขับผ่านอุปสรรค เช่น ขึ้นเนินชัน ลงเขาสูง โดยเฉพาะเวลาลุยน้ำควรเลี่ยงการเหยียบคลัทช์เปลี่ยนเกียร์เด็ดขาด เพราะน้ำอาจซึมเข้าผ้าคลัทช์ได้ ส่วนรถเกียร์อัตโนมัติรักษารอบเครื่องยนต์ให้คงที่ก็พอ
ในรถเกียร์อัตโนมัติ หากถนนลื่นมากๆ ให้เปลี่ยนตำแหน่งเกียร์ไปที่ D3 หรือ D2 เพื่อรักษาแรงบิดของเครื่องยนต์ให้คงที่ ส่วนในรถขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบฟูลล์ไทม์ ก็สามารถทำแบบเดียวกันได้ โดยระบบจะช่วยกระจายแรงบิดให้อัตโนมัติขณะถนนลื่น
การเดินทางเข้าป่า สภาพพื้นผิวส่วนใหญ่จะเป็นดิน และลูกรัง ซึ่งเมื่อฝนตกจะเปลี่ยนสภาพเป็นดินเหนียว และดินโคลนทันที ดังนั้น ก่อนเดินทางควรเลือกดอกยางให้เหมาะสมกับสภาพทางที่จะไป เช่น “มัด เทอร์เรน” สำหรับพื้นผิวที่แย่ที่สุด “ออลล์ เทอร์เรน” สำหรับพื้นผิวทางระดับกลาง เป็นต้น
แม้รถขับเคลื่อน 4 ล้อจะมีอัตราทดต่ำเป็นพิเศษให้เลือกใช้ แต่ยามที่ต้องลุยทางโคลนลึกที่มีความหนืดมากๆ โอกาสที่รถจะหมดแรงตะกุยก็มีสูง การส่ายพวงมาลัยไปทาง ซ้าย-ขวา ขณะขับทางโคลนจะทำให้รถเดินหน้าไปได้ง่ายกว่า เพราะหน้ายางสัมผัสผิวถนนได้ดีขึ้นนั่นเอง
ระบบเบรคทำงานด้วยการสร้างความเสียดทานระหว่างผ้าเบรค กับจานเบรค ขณะขับลุยน้ำ น้ำจะแทรกซึมเข้าไปในเบรค ซึ่งจะลดความเสียดทานนี้ลง
การทำให้นํ้าที่แทรกซึมเข้าไปในเบรคอย่างมีประสิทธิภาพที่สุด คือ หลังลุยน้ำควรเหยียบเบรคเบาๆ เป็นจังหวะ เพื่อให้เบรคเกิดความร้อนจนน้ำระเหยไปหมด 
