การแข่งขัน ช้าง ซูเพอร์ จีที เรศ 2019 ถูกจัดขึ้น ณ สนามแข่ง ช้าง อินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิท จ. บุรีรัมย์ ต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 แล้ว โดยหนึ่งค่ายรถยักษ์ใหญ่สัญชาติญี่ปุ่นอย่าง ฮอนดา นอกจากจะส่งรถเข้าร่วมการแข่งขันแล้ว และที่ขาดไม่ได้ ยังเป็นส่วนหนึ่งสีสันภายในงาน พร้อมกิจกรรมที่หลากหลายเริ่มกันด้วยซัพพอร์ทเรศกับการแข่งขันเฉพาะกิจ ฮอนดา เรซิง ทำการแข่งขันทั้งหมด 3 เรศ ตลอดเวลา 2 วันของการแข่งขัน ช้าง ซูเพอร์ จีที เรศ 2019 โดยแบ่งออกเป็น 2 คลาสส์ ด้วยกัน นั่นคือ ฮอนดา พโร คาร์ โมดิฟายด์ และ ฮอนดา พโร คาร์ ในคลาสส์แรก รถจะมีพละกำลังของเครื่องยนต์มากกว่า และมีอิสระในการปรับแต่งเครื่องยนต์ได้พอสมควร ขณะที่คลาสส์ถัดมาจะเน้นรถยนต์ที่ใกล้เคียงกับรุ่นที่ทำตลาด พิกัดเครื่องยนต์ไม่เกิน 1.5 ลิตร โดยนักแข่งแต่ละคนล้วนมีฝีมือ และประสบการณ์ในการแข่งขันมาแล้วหลายรายการ การแข่งขันจึงสนุกสนาน เข้มข้น ไม่แพ้บรรดาตัวแรงรุ่นใหญ่เลยทีเดียว ถัดมา คือ การแข่งขันของตัวแรงจากแดนอาทิตย์อุทัยที่หลายคนรอคอย รายการ ซูเพอร์ จีที ถูกแบ่งออกเป็น 2 คลาสส์ ด้วยกัน นั่นคือ จีที 500 ตัวแรงที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ตัวถังทรงสวย ดุดัน เครื่องยนต์เสียงกระหึ่ม สมรรถนะร้อนแรง โดยทาง ฮอนดา ส่งทีมเข้าร่วมการแข่งขันในคลาสส์นี้ถึง 5 ทีมด้วยกัน โดยหนึ่งในนั้น คือ ทีม KUNIMITSU RAYBRIG หมายเลข 1 เป็นแชมพ์เมื่อฤดูกาลก่อนหน้านี้ โดยมีหนึ่งในนักขับระดับอดีตแชมพ์ ฟอร์มูลา วัน นั่นคือ เจนสัน บัททัน ขณะที่ในคลาสส์ จีที 300 กับบรรดาตัวแข่งที่มีความหลากหลาย สมรรถนะของตัวรถเทียบเท่ารถแข่งระดับ จีที 3 เลยทีเดียว โดยทาง ฮอนดา มีรถที่ใช้ทำการแข่งขัน คือ เอนเอสเอกซ์ จีที 3 จัดเป็นตัวแข่งรุ่นใหม่ของทางค่าย มีทีมที่ใช้รถแข่งรุ่นนี้ทำการแข่งขันถึง 3 ทีมด้วยกัน นับเป็นโอกาสดีของแฟนๆ ที่จะได้เห็นรถแข่งรุ่นนี้ลงชิงในสนามแข่ง ก่อนที่การแข่งขัน ช้าง ซูเพอร์ จีที เรศ 2019 จะเริ่มขึ้น บรรดาผู้ชมในสนามบางส่วนได้มีโอกาสเข้าร่วมพิท วอล์ค กิจกรรมการเดินผ่านหน้าพิทของแต่ละทีม ได้เห็นรถแข่งตัวแรงในระยะใกล้ นอกจากนี้ยังมีการแจกของที่ระลึกให้แก่ผู้ชมอย่างเป็นกันเอง รวมถึงการแจกลายเซ็น และถ่ายรูปกับนักแข่งที่ออกมาต้อนรับผู้ชมอย่างอบอุ่น นับเป็นหนึ่งในเอกลักษณ์ของการแข่งขันรายการนี้ที่หาไม่ได้ง่ายๆ กิจกรรมภายในงานของ ฮอนดา ยังมีอีกมากมาย รวมถึง ฮอนดา แอคคอร์ด เพอร์ฟอร์มานศ์ โชว์ การแสดงให้เห็นถึงสมรรถนะของซีดานหรู เครื่องยนต์เบนซิน เทอร์โบ ขนาด 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 190 แรงม้า แม้ขนาดตัวถังค่อนข้างใหญ่ แต่สมรรถนะของเครื่องยนต์ และการขับขี่ที่เร้าใจ ทำให้ซีดานรุ่นนี้มีความสปอร์ทในตัว พิสูจน์ให้เห็นผ่านการแสดงอันสนุกสนาน จากผู้เชี่ยวชาญที่มีทักษะการขับขี่ที่ยอดเยี่ยม สุดท้าย คือ การรวมตัวของบรรดาผู้ครอบครอง ฮอนดา ซีวิค ที่วางเครื่องยนต์เทอร์โบจากโรงงาน ทั้งตัวถัง ซีดาน และแฮทช์แบค ได้ขับรถยนต์คันเก่งในสนามช้าง อินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิท อีกด้วย โดยขับตามกันเป็นขบวน มีรถของผู้ควบคุมนำหน้า มั่นใจได้ในความปลอดภัย นับเป็นอีกหนึ่งโอกาสดีกับการขับขี่ในสนามแข่งระดับโลก เอฟไอเอ เกรด 1 เช่นนี้ ส่วนผู้ที่สนใจยังสามารถชมรถยนต์จาก ฮอนดา ได้ที่บูธบริเวณด้านหน้าของสนาม มีการร่วมสนุกเล่นเกม พร้อมรับของรางวัลมากมาย ตอกย้ำว่า ฮอนดา คือ หนึ่งในสีสันที่ขาดไม่ได้สำหรับการแข่งขันรายการนี้