ชมเสน่ห์ หนองคาย กับความงามของ "สังคม"

“สังคม” เป็นชื่ออำเภอหนึ่งในจังหวัดหนองคาย อยู่ติดแม่น้ำโขงทางทิศตะวันตกของจังหวัด สมัยก่อน อำเภอสังคมเป็นเพียงแค่ทางผ่านจากเชียงคานไปหนองคายเท่านั้น แต่ปัจจุบันได้พัฒนาจนกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัด “ชีวิตอิสระ” จะพาไปชมอดีตเมืองทางผ่านที่แสนสวยงามแห่งนี้

มุ่งสู่สังคม กับ นิสสัน แตร์รา

อำเภอสังคม ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนติดแม่น้ำโขง ห่างจากตัวเมืองหนองคายประมาณ 80 กม. จากกรุงเทพฯ สามารถไปได้หลายเส้นทาง แต่ที่สะดวก และใกล้ที่สุด จะต้องผ่าน ชัยภูมิ และหนองบัวลำภู ลัดเลาะตามอำเภอเล็กๆ ไปจนถึงอำเภอสังคม รวมระยะทางจากกรุงเทพฯ ประมาณ 700 กม. ใช้เวลากว่า 11 ชม.   ครั้งนี้เราเดินทางด้วย นิสสัน แตร์รา รถ เอสยูวีรุ่นแรกของค่าย สิ่งที่สัมผัสได้ชัดเจน คือ ความกว้างขวาง นั่งสบาย และช่วงล่างที่นุ่มนวล ไม่โยนตัวขณะเข้าโค้ง เครื่องยนต์ 2.3 ลิตร 190 แรงม้า ตอบสนองดี และแรงพอตัว เวลาต้องไต่เนินชันเครื่องยนต์ให้แรงบิดที่ดี สิ่งที่ชอบอีกอย่าง คือ ระบบช่วยเหลือต่างๆ เช่น กล้องอัจฉริยะรอบทิศทาง กล้องกระจกมองหลังที่เห็นภาพคล้ายตาเราแม้อยู่ในพื้นที่่ที่มีแสงน้อย และระบบเตือนวัตถุเคลื่อนไหวรอบคัน ทำให้การขับง่ายขึ้นเยอะ    

ตะลึงสกายวอล์ค ที่วัดผาตากเสื้อ

 

• ทางขึ้นวัดผาตากเสื้อ เป็นทางลาดยางอย่างดี

  วัดผาตากเสื้อ ตั้งอยู่บนภูเขาในอำเภอสังคม เดิมชื่อวัดถ้ำพระ หลวงปู่เพชร ปะทีโป ได้เข้ามาปฏิบัติธรรม และสร้างวัดขึ้นตั้งแต่ปี 2477  

• บนสุดของวัดมีโบสถ์ที่สร้างเสร็จแล้ว และกำลังจะเสร็จให้กราบไหว้

   

• ภายในวัดร่มรื่น มีอากาศที่เย็นสบายตลอดทั้งวัน

  วัดผาตากเสื้อ มีทิวทัศน์โดยรอบสวยงาม ธรรมชาติสมบูรณ์ สูงจากระดับน้ำทะเล 550 เมตร สามารถมองเห็นแม่น้ำโขง และประเทศสปป. ลาว จากมุมสูงได้อย่างชัดเจน จึงเป็นจุดชมวิวแม่น้ำโขงยามเย็นที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย  

• สกายวอล์ค แม้จะเป็นกระจกและยื่นออกไปถึง 6 ม. แต่ก็ไม่เสียวอย่างที่คิด

  ไฮไลท์ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาไม่ขาดสาย คือ “สกายวอล์ค” ที่สร้างด้วยกระจกใสแห่งแรกของเมืองไทย ยื่นออกไปบริเวณหน้าผาลักษณะรูปเกือกม้ายาว 6 เมตร รับน้ำหนักได้จำกัดไม่เกิน 20 คน และมีราวกั้นตลอดแนวทั้ง 2 ด้าน  

• แสงยามเย็นขณะพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า ช่างงดงามจับใจ

  ในหน้าหนาว จะเห็นทะเลหมอกเต็มพื้นที่ ช่วงน้ำหลากจะเห็นแม่น้ำโขงสายใหญ่แบ่งกั้นประเทศเรากับเพื่อนบ้าน และถ้าน้ำลด จะเห็นสันทรายเป็นริ้วคล้ายเกล็ดพญานาค จนได้รับเลือกเป็นเส้นทางในฝัน DREAM DESTINATION 2 จาก ททท. เรียกว่า “เกล็ดพญานาคริมโขง”  

• ไม่ว่าอยู่จุดไหนของวัด ก็เห็นความสวยงามของแม่น้ำโขง

  จากจุดชมวิววัดผาตากเสื้อ หากมองไปทางซ้ายจะเห็นแม่น้ำโขงทอดโค้งและแยกเป็นตัว Y บริเวณเกาะขนาดใหญ่กลางแม่น้ำ เป็นวิวแม่น้ำโขงที่สวยงามไม่เหมือนที่ใด    

นั่งรถอีแต๊ก ขึ้นภูห้วยอีสัน

 

• ภูห้วยอีสัน เป็นอีกจุุดหนึ่ง ที่สามารถมองเห็นแม่น้ำโขงที่สวยงามได้แบบ 180 องศา

  ภูห้วยอีสัน เป็นแหล่งท่องเที่ยว UNSEEN THAILAND แห่งใหม่ของจังหวัดหนองคาย เป็นจุดชมทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงาม สามารถมองเห็นเกาะแก่งต่างๆ ริมน้ำโขง รวมถึงวิวสวยๆ ของประเทศเพื่อนบ้านได้อย่างชัดเจน  

• นั่งรถอีแต๊กขึ้นภูห้วยอีสัน นับเป็นสีสันของที่นี่

  การเดินทางไปชมทะเลหมอกภูห้วยอีสัน ไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวนำรถส่วนตัวขึ้นไป ต้องใช้บริการรถอีแต๊กของชาวบ้านเท่านั้น เพราะเป็นพื้นที่ส่วนบุคคล และต้องผ่านสวนยางของชาวบ้าน โดยสามารถติดต่อได้ที่ร้านอาหารครัวไม้น้ำ  

• ทะเลหมอกบางๆ ยามเช้า ของภูห้วยอีสัน

  เราสามารถชมทะเลหมอกได้ 2 จุด คือ จุดชมวิวสูงสุดของภูห้วยอีสัน และพื้นที่ของป่าไม้ที่อยู่ถัดลงมาด้านล่าง ซึ่งแต่ละจุดก็มีมุมมองที่สวยงามต่างกันไป   หากมาช่วงฤดูหนาว หรือหลังฝนตกใหม่ๆ ตอนเช้าจะเห็นคลื่นทะเลหมอกไหลเอื่อยๆ กระทบผ่านตัวเราไป รวมถึงภูเขาทั้ง 2 ฝั่ง ของไทยและลาว ท่ามกลางธรรมชาติสวยสดงดงาม   จุดเด่นของภูห้วยอีสันอยู่ที่นักท่องเที่ยวไม่พลุกพล่านมากนัก ทำให้สามารถตักตวงความสุขได้อย่างเต็มที่    

ชมวิวหนองปลาบึก และพันโขดแสนไคร้

 

• หนองปลาบึก อดีตชุมชนปลาบึกที่คับคั่ง

  หนองปลาบึก เป็นจุดชมวิวธรรมชาติที่สวยงาม โดยเฉพาะยามพระอาทิตย์ตก มีตำนานเล่าว่าที่นี่เป็นที่อยู่ของปลาบึก ใครที่มาบริเวณนี้ จะเห็นปลาบึกแหวกว่ายอยู่เป็นคู่ๆ ปัจจุบันชาวบ้านบอกว่าปลาบึกลดน้อยไปมาก   บริเวณรอบหนองปลาบึกจะเป็นโขดหินน้อยใหญ่ และหาดทรายสีขาวที่ถูกแต่งเติมด้วยต้นไคร้ดูสวยงาม ยามน้ำลดจะมีโขดหินโผล่ขึ้นมา และยังเป็นอีกจุดหนึ่งในการชมบั้งไฟพญานาคอีกด้วย  

• พันโขดแสนไคร้ กแรนด์แคนยอนกลางแม่น้ำโขง

  ถัดไปอีกนิด จะพบกับ “พันโขดแสนไคร้” ที่มีบรรยากาศคล้ายคลึงกับหนองปลาบึก แต่มีความสวยงามกว่า สามารถนั่งเรือออกไปเดินเล่นบนหาดทรายกลางแม่น้ำโขงได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงเย็น ขณะพระอาทิตย์ตก   พันโขดแสนไคร้ ยังได้รับการกล่าวขานว่าเป็น “กแรนด์แคนยอนกลางแม่น้ำโขง” ไฮไลท์ที่นักท่องเที่ยวจะได้เจอ คือ ก้อนหินหลากหลายสีสัน และรูปทรง โดยเฉพาะหินสีดำนิลที่มีความมันวาว ช่วงเวลาที่สวยงามที่สุด คือ ช่วงหน้าแล้ง ตั้งแต่เมษายน-พฤษภาคม และควรมาช่วงเย็นก่อนพระอาทิตย์ตก    

มุดถ้ำดินเพียง วังบาดาลศักดิ์สิทธิ์

 

• ถ้าเห็นป้ายนี้ แสดงว่าถึงแน่ !

 

• ไม่ว่ามองไปทางไหน ก็เจอแต่รูปปั้นพญานาค

 

• ทางเข้าถ้ำดินเพียง ที่ดูเหมือนเดินลงไปในหลุม

  วัดถ้ำศรีมงคล หรือ ถ้ำดินเพียง หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า “ถ้ำพญานาค” เป็นถ้ำที่ดูไม่เหมือนถ้ำทั่วไป เนื่องจากปากทางเข้าอยู่เสมอดินในระดับปกติ ทำให้เข้าใจว่าเป็นเพียงหลุมธรรมดา  

• ภายในถ้ำมีโพรงคล้ายรูอยู่มากมาย ซึ่งแต่ละรู สามารถเชื่อมถึงกันได้อย่างน่าอัศจรรย์

  ภายในมีความชื้นมาก และมีโพรงคล้ายรูอยู่มากมาย สิ่งที่พิเศษ คือ แต่ละรูสามารถเชื่อมทะลุถึงกันได้อย่างน่าอัศจรรย์ จนทำให้อดคิดไม่ได้ว่าคล้ายกับการเลี้อยของพญานาค   เล่าขานต่อกันมาว่า ในสมัยก่อน ถ้ำแห่งนี้เป็นที่อยู่อาศัยของพญานาค และเส้นทางสัญจรระหว่างนครบาดาลกับโลกมนุษย์ และเคยมีพระธุดงค์จาก สปป. ลาว เดินทางข้ามมายังประเทศไทยผ่านถ้ำแห่งนี้ โดยใช้เวลา 9 วัน 9 คืน โดยผู้ที่จะเห็นเส้นทางภายในถ้ำได้ต้องเป็นผู้บำเพ็ญศีลภาวนา หรือเป็นพระอภิญญา เท่านั้น  

• ทางเดินแคบ และเปียกน้ำ ใครคิดเข้าไปต้องเตรียมตัว

  การเข้าไปภายในถ้ำ ต้องให้เจ้าหน้าที่นำทางเท่านั้น โดยก่อนเข้าให้จุดธูปไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ และเตรียมตัวเปียกน้ำ เพราะบางช่วงอาจต้องลุยน้ำลึก และต้องลอดผ่านช่องแคบๆ ที่เล็กพอดีตัว  

• ภายในถูกจัดแสงให้ดูสวยงาม และมีมนต์ขลัง

  ภายในถ้ำแบ่งออกเป็นห้องๆ แต่ละห้องจะมีเรื่องเล่าตามความเชื่อ และมีชื่อเรียกตามลักษณะของหินงอกหินย้อย และผนังถ้ำต่างๆ เช่น ห้องหีบศพของพญานาค หีบสมบัติ (หีบเงิน หีบทอง) เป็นต้น    

แผนที่เส้นทาง

     

ที่กิน

    เนื่องจากมีพื้นที่ขนานกับแม่น้ำโขง อาหารที่ขึ้นชื่อหนีไม่พ้นเมนูปลา เพราะนอกจากจะสดใหม่แล้ว ยังสามารถประกอบอาหารได้หลากหลาย ผมติดใจรสชาติปลาแม่น้ำโขงของร้านอาหาร “ครัวไม้น้ำ” ในตำบลบ้านม่วง อำเภอสังคม จังหวัดหนองคาย ทั้งต้มยำปลาหน้าหนู (คล้ายปลาเนื้ออ่อนขนาดใหญ่), ห่อหมกปลาเผาะ (คล้ายปลาบึก), ปลาหน้าหนูทอดกระเทียม และปลาเผาะผัดฉ่า รสชาติจัดจ้านอร่อยเด็ด เพราะใช้วัตถุดิบที่สด และเครื่องแกงเข้มข้น ถ้าใครมาต้องลอง รับรองไม่ผิดหวัง    

ที่นอน

    ที่พักในอำเภอสังคม จะเป็นรีสอร์ทระดับ 1-3 ดาว เสียส่วนใหญ่ ผมเลือกพัก “แม่โขงริเวอร์วิวรีสอร์ท” เพราะบรรยากาศดี ติดแม่น้ำโขง และที่สำคัญอยู่ใกล้กับภูห้วยอีสัน มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งเครื่องทำน้ำอุ่น แอร์ ตู้เย็น ทีวี ในราคาเริ่มต้นเพียงคืนละ 500 บาทเท่านั้น ถ้าใครต้องการขึ้นภูห้วยอีสันในตอนเช้า แนะนำมาพักที่นี่จะสะดวกสุด    

ขอขอบคุณ

    บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ที่เอื้อเฟื้อพาหนะในการเดินทาง