เอาดี อี-ทรอน เอสยูวีพลังงานไฟฟ้า ขับเคลื่อน 4 ล้อ กวัตตโร

เอาดี เป็นอีกค่ายที่พัฒนารถยนต์พลังงานทางเลือกอย่างต่อเนื่อง แต่ยังคงไว้ซึ่งความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ นั่นคือ ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ กวัตตโร อันเลื่องชื่อ ซึ่งมี เอาดี อี-ทรอน รถยนต์พลังงานไฟฟ้าสมรรถนะสูง ที่ให้อัตราเร่งตอบสนองเช่นเดียวกับรถยนต์ที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิง

สมรรถนะไม่ธรรมดา 408 แรงม้า

    เอาดี อี-ทรอน เอสยูวีพลังงานไฟฟ้าที่มาพร้อมกับพละกำลัง 408 แรงม้า แรงบิดสูงถึง 67.7 กก.-ม. หรือ 664 นิวตัน-เมตร อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ใน 5.7 วินาที ทำความเร็วสูงสุดกว่า 200 กม./ชม. ชาร์จไฟ 1 ครั้งจนประจุเต็ม สามารถใช้งานได้ 417 กม. เมื่อดูข้อมูลข้างต้นจะเห็นได้ว่า สมรรถนะไม่ต่างจากเครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเลย มีสิ่งที่แตกต่างเพียงระยะเวลาในการประจุไฟฟ้าเท่านั้น ใช้แบทเตอรีลิเธียม-ไอออน ขนาด 95 กิโลวัตต์ชั่วโมง 396 โวลท์ น้ำหนัก 700 กก. แต่มีขนาดกะทัดรัด ใช้พื้นที่ในการจัดวาง 2.28x1.63x0.34 ม. (กว้างxยาวxสูง)    

ชาร์จพลังงานไฟฟ้า ได้ครบทุกรูปแบบ

    การชาร์จไฟ ทำได้ทั้งการชาร์จด้วยไฟบ้านสูงสุด 11 กิโลวัตต์ และ 22 กิโลวัตต์ โดยระยะเวลาในการชาร์จ 16 แอมพ์ 3 เฟส ใช้เวลา 9 ชม. แต่ถ้าเป็นการชาร์จจากกระแสไฟตรง 150 กิโลวัตต์ จะชาร์จประจุไฟฟ้า จาก 0-80 % ได้เพียง 30 นาทีเท่านั้น   เอาดี อี-ทรอน ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ควบคุมการทำงานทั้งด้านหน้าและด้านหลังแยกจากกัน โดยส่งกำลังไปยังล้อทั้ง 4 ข้าง ทำให้มีความฉับไวในการถ่ายทอดกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ ควบคู่ไปกับระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออัจฉริยะแบบไฟฟ้า (ELECTRIC QUATTRO) ที่จะเสริมสร้างให้การออกตัวเร่งแซงมีประสิทธิภาพและสร้างความสนุกสนานในการขับขี่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออัจฉริยะ กวัตตโร ประกอบด้วยโหมด AUTO, DYNAMIC และ OFF-ROAD ถ่ายทอดกำลังระหว่างล้อคู่หน้าและหลังอย่างอิสระเพียงเสี้ยววินาที ให้เหมาะสมในแต่ละสภาพการขับขี่ โดยสูญเสียพลังงานน้อยที่สุด ให้ความเร้าใจในการขับขี่จากโหมด ESC SPORT และ ESC OFF   นอกจากนี้ ระบบพลังงานไฟฟ้าของ เอาดี อี-ทรอน จัดการด้วยระบบ ENERGY RECUPERATION ด้วยการนำพลังงานที่สูญเปล่ากลับมาใช้ใหม่จากพฤติกรรมการขับขี่ เช่น พลังงานจากการปล่อยให้รถวิ่งในลักษณะลอยตัว (COASTING) เมื่อผู้ขับขี่ถอนเท้าออกจากคันเร่งตัวรถจะเคลื่อนที่ไปข้างหน้าตามโมเมนทัมที่เกิดขึ้น การที่ปล่อยให้รถไหลไปเฉยๆ สามารถเปลี่ยนพลังงานที่สูญเปล่ากลับมาเป็นพลังงานไฟฟ้าได้ โดยแบ่งระดับการชาร์จตามความเร็วต่ำ ปานกลาง และสูงสุดได้ ยกตัวอย่างเช่น การชาร์จไฟที่ความเร็วต่ำสุด เมื่อขับรถมาด้วยความเร็ว 100 กม./ชม. ขณะนั้นเครื่องยนต์ทำงานอยู่ที่เกียร์ 5 เมื่อผู้ขับถอนคันเร่ง ตัวรถจะมีอาการหน่วงเล็กน้อยแล้วไหลไปเรื่อยๆ แบบนี้จะชาร์จไฟเก็บได้น้อย แต่ถ้าเป็นการชาร์จแบบหน่วงความเร็วสูงสุด หากขับมาด้วยความเร็ว 100 กม./ชม. อยู่ที่เกียร์ 5 แล้วเปลี่ยนเกียร์ต่ำกว่าเกียร์ 5 ตัวรถจะมีอาการหน่วงเพิ่มขึ้นมาก ผลที่ได้รับ คือ สามารถชาร์จไฟฟ้าได้มากขึ้น