ความร้อนของฝากระโปรงรถจากการถูกแสงแดดนั้น มีค่ามากกว่าความร้อนที่ได้รับจากเครื่องยนต์มาก โดยเฉพาะถ้าเป็นรถสีเข้มแล้วจอดตากแดดไว้หลายชั่วโมง เราสามารถทอดไข่ดาวบนฝากระโปรงรถได้เลยไม่นานมานี้ญาติผมคนหนึ่งเพิ่งไปถอยรถเก๋งยอดนิยมป้ายแดงมา เป็นรุ่นเริ่มต้น ดังนั้น อุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ จึงมีมาให้เท่าที่จำเป็น แน่นอนว่าไม่ได้ติดตั้งฉนวนใต้ฝากระโปรงมาให้ด้วย จึงรีบนำไปติดทันทีหลังถอยออกจากโชร์รูม เพราะมีความคิดฝังใจว่า จะช่วยกันความร้อนจากเครื่องยนต์ไม่ให้ทะลุมาทำลายสีบนฝากระโปรงได้ ความเข้าใจนี้ถูกหรือไม่ ไปฟังคำตอบกันครับ ความร้อนบนฝากระโปรงรถที่ได้รับจากแสงอาทิตย์ จะมีค่ามากกว่าได้รับจากเครื่องยนต์มากครับ โดยเฉพาะถ้าเป็นรถสีเข้มแล้วจอดตากแดดทิ้งไว้หลายชั่วโมง ในต่างประเทศเคยมีการทดลองวัดอุณหภูมิบนฝากระโปรงรถสีเข้มขณะจอดตากแดดได้เกือบ 100 องศาเซลเซียส เลยทีเดียว แต่ถึงไม่มีเครื่องมือวัด ก็พิสูจน์ได้ด้วยการจับฝากระโปรงของรถที่เครื่องยนต์ร้อนเต็มที่แต่จอดอยู่ในร่ม เปรียบเทียบกับฝากระโปรงของรถที่ไม่ได้ติดเครื่องเลยตั้งแต่เช้า แต่จอดตากแดดไว้จนบ่ายโมง อย่างหลังนี่จะร้อนกว่าชัดเจนครับ แต่ที่สำคัญ คือ ไม่ว่าจะเป็นความร้อนจากแสงอาทิตย์ จากเครื่องยนต์ หรือทั้ง 2 อย่าง สีรถของเราก็ "ทนได้" ถ้าเป็นสีที่ได้มาตรฐานครับ ผมขอสรุปผลลัพธ์ของการติดฉนวนใต้ฝากระโปรง ดังนี้ 1. ความร้อนจากเครื่องยนต์ไม่สามารถถ่ายเทสู่ฝากระโปรงด้านบนได้ ความร้อนสะสมในห้องเครื่องจึงมากกว่าปกติ แต่ถ้าเป็นรถทั่วไป (ที่ไม่มีแนวโน้มว่าเครื่องยนต์จะร้อนจัด) ก็ไม่มีปัญหาอะไร 2. ขณะจอดรถตากแดด ฝากระโปรงจะร้อนกว่าปกติ เพราะความร้อนไม่สามารถถ่ายเทสู่อากาศด้านในห้องเครื่องยนต์ได้ ซึ่งถ้าเป็นสีที่ได้มาตรฐาน ก็ไม่มีปัญหาอะไรเช่นกัน 3. เป็นฉนวนกันเสียงรบกวนจากเครื่องยนต์เข้าสู่ห้องโดยสาร เนื่องจากฉนวนเหล่านี้มีความนุ่ม ช่วยดูดซับคลื่นเสียงได้อย่างดี ฉนวนที่ติดใต้ฝากระโปรง มีหน้าที่ลดเสียงรบกวนจากเครื่องยนต์ และเพื่อความสวยงามเวลาเปิดกระโปรงเป็นหลัก ไม่ได้มีไว้ป้องกันความร้อนจากเครื่องยนต์ไปทำลายสีบนฝากระโปรงอย่างที่เข้าใจกันครับ
บทความแนะนำ