ปิดไตรมาส 3 สบายๆ

เปรียบเทียบยอดจำหน่ายรถยนต์ประจำเดือนกันยายน 2018/2017

ตลาดโดยรวม	+14.3 %
รถยนต์นั่ง	+12.6 %
รถกิจกรรมกลางแจ้ง (SUV)	+37.0 %
รถอเนกประสงค์ (MPV)	+60.1 %
กระบะขับเคลื่อน 2 ล้อ	+11.5 %
กระบะขับเคลื่อน 4 ล้อ	+35.7 %
อื่นๆ	-21.8 %

เปรียบเทียบยอดจำหน่ายรถยนต์ประจำเดือนมกราคม-กันยายน 2018/2017

ตลาดโดยรวม	+20.3 %
รถยนต์นั่ง	+19.8 %
รถกิจกรรมกลางแจ้ง (SUV)	+37.7 %
รถอเนกประสงค์ (MPV)	-6.1 %
กระบะขับเคลื่อน 2 ล้อ	+19.9 %
กระบะขับเคลื่อน 4 ล้อ	+17.4 %
อื่นๆ	-0.2 %

    เหลืออีกเพียง 3 เดือนเท่านั้นก็จะหมดปี 2561 เปลี่ยนผ่านเข้าสู่ปี 2562 กันแล้ว ซึ่งเวลา 9 เดือนที่ผ่านไปของปี 2561 ท่ามกลางกระแสที่บ่นกันเป็นหมีกินผึ้งว่าเศรษฐกิจไม่ดี คนไม่มีเงินจับจ่ายใช้สอยกันแล้วนั้น กลับเป็นว่ารถยนต์ที่เคยมองกันว่าเป็นของฟุ่มเฟือยกลับสวนทางกับกระแสข้อกล่าวหาด้านเศรษฐกิจนั้นอย่างสิ้นเชิง ตัวเลขยอดจำหน่ายรถยนต์ใหม่ป้ายแดงของปี 2561 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2560 ที่ผ่านมาก่อนหน้านั้น ขยับปรับตัวเพิ่มขึ้นในเกือบทุกตลาด ทุกเซกเมนท์ มีรถยนต์รุ่นใหม่ๆ พโรโมชันใหม่ๆ ทยอยเข้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง   เดือนกันยายน ปี 2561 รถยนต์ใหม่ป้ายแดงทุกรุ่นทุกยี่ห้อมียอดจำหน่ายรวมกันทั้งสิ้น 88,706 คัน เพิ่มขึ้น 14.3 % เมื่อเทียบกับเดือนกันยายนปี 2560 โดย โตโยตา ยังเป็นเบอร์ 1 ของผู้ต้องการซื้อรถอย่างยั่งยืนต่อไป เดือนกันยายนนี้มียอดจำหน่ายจากรถยนต์ทุกประเภทที่ 28,760 คัน กินส่วนแบ่งการตลาดสูงถึง 32.4 % ตามด้วยเจ้าพ่อรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ อีซูซุ เก็บเกี่ยวยอดจำหน่ายไปได้อีก 13,030 คัน คิดเป็นส่วนแบ่งการตลาด 14.7 % อันดับ 3 เป็นของ ฮอนดา มียอดจำหน่ายที่ 11,282 คัน ได้ส่วนแบ่งการตลาดที่ 12.7 % อันดับ 4 รถยนต์ที่จำหน่ายขายดีมากสุดเป็น มิตซูบิชิ ที่เดือนกันยายนเป็นเดือนเริ่มแรกของการจำหน่ายรถยนต์อเนกประสงค์โมเดลใหม่อย่างจริงจัง ซึ่งดูเหมือนว่าจะแฮพพีอย่างมากกับกระแสตอบรับของรถยนต์โมเดลใหม่นี้เมื่อรวมรถยนต์ทุกรุ่นของ มิตซูบิชิ ที่จำหน่ายได้ในเดือนนี้ตัวเลขออกมาที่ 7,128 คัน มีส่วนแบ่งการตลาด 8.0 % และอันดับที่ 5 ในบรรดารถยนต์ 5 ยี่ห้อที่จำหน่ายได้มากที่สุดเป็นรถยนต์ นิสสัน ที่มียอดจำหน่ายรวมทั้งสิ้น 6,266 คัน รับส่วนแบ่งการตลาดไป 7.1 %   เมื่อรวมตัวเลขยอดจำหน่ายจากเดือนมกราคมจนถึงเดือนกันยายน ซึ่งเป็นเดือนสุดท้ายของไตรมาสที่ 3 ปรากฏว่ายอดจำหน่ายรถยนต์ใหม่ในประเทศขยับเข้าใกล้เป้าหมายรวมมากขึ้น ซึ่งหากไม่มีเหตุสุดคาดคิดเกิดขึ้น เชื่อแน่ว่าไม่ทันถึงเดือนธันวาคมที่เป็นเดือนสุดท้ายของการค้าการขายในไตรมาสที่ 4 เป้ารวมยอดจำหน่ายรถยนต์ใหม่ในประเทศน่าจะถูกตีแตกไปเรียบร้อยแล้ว โดยที่ยอดจำหน่ายรถยนต์ใหม่รวม 9 เดือนของปี 2561 นี้อยู่ที่ 746,581 คัน ถึง 20.3 % ยอดจำหน่ายรวมสูงสุดอันดับ 1 เป็น โตโยตา ที่กวาดยอดจำหน่ายไปแล้วรวม 223,716 คัน เพิ่มขึ้นจาก 9 เดือนแรกของปี 2560 ถึง 35.4 % คิดเป็นส่วนแบ่งการตลาดที่ 30.0 % อันดับ 2 เป็นของ อีซูซุ จำหน่ายแล้วรวม 125,668 คัน เพิ่มขึ้น 5.8 % ส่วนแบ่งการตลาด 16.8 % อันดับ 3 ฮอนดา ยอดจำหน่ายรวม 9 เดือน 92,915 คัน ลดลง 0.4 % ส่วนแบ่งการตลาด 12.4 % อันดับ 4 มิตซูบิชิ ยอดจำหน่าย 9 เดือน 61,257 คัน เพิ่มขึ้น 25.5 % ส่วนแบ่งการตลาด 8.2 % และอันดับที่ 5 มาซดา 51,755 คัน เพิ่มมากขึ้นถึง 41.3 % ส่วนแบ่งการตลาด 6.9 %   สำหรับภาพรวมของตลาดรถพิคอัพ ถือได้ว่ามีความคึกคักพอตัวเลยทีเดียว จากกระแสข่าวของพิคอัพรุ่นใหม่ที่กำลังจะเข้าสู่ตลาดในอีกช่วงเวลาไม่นานหลังจากนี้ เป็นไพ่เด็ดที่จะสร้างยอดจำหน่ายในช่วงท้ายของปี 2561 ให้เป็นที่เบิกบานสำราญใจแก่ผู้จำหน่ายได้เป็นอย่างดี ซึ่งในเดือนกันยายน พิคอัพรุ่นใหม่ส่งท้ายปีถูกเปิดหัวด้วย โตโยตา ไฮลักซ์ รีโว ที่มาพร้อมกับระบบส่งกำลังใหม่ ทั้งแบบเกียร์ธรรมดา และเกียร์อัตโนมัติ และไฮลักซ์ รีโว รอคโค 2.4 ลิตร แบบสมาร์ทแคบ และดับเบิลแคบ พรีรันเนอร์ รายละเอียดเพิ่มเติมพร้อมสนนราคาเดินเข้าไปสอบถามที่โชว์รูม โตโยตา ทั่วประเทศได้เลย ทั้งนี้ยอดจำหน่ายรวมของรถพิคอัพขับเคลื่อน 2 ล้อ เดือนกันยายนอยู่ที่ 34,741 คัน เพิ่มขึ้น 11.5 % เมื่อเทียบกับเดือนกันยายนปี 2560 จำหน่ายได้สูงสุดในเดือนนี้เป็น โตโยตา ด้วยยอด 12,786 คัน ได้ส่วนแบ่งการตลาดไป 36.8 % ตามด้วยพิคอัพ อีซูซุ 10,013 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 28.8 % ต่อด้วย ฟอร์ด 4,420 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 12.7 % มิตซูบิชิ 2,845 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 8.2 % และนิสสัน 2,409 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 6.9 %   จบไตรมาสที่ 3 ในเดือนกันยายนนี้ พิคอัพขับเคลื่อน 2 ล้อ จำหน่ายไปแล้วทั้งสิ้น 289,962 คัน เพิ่มขึ้น 19.9 % เมื่อเทียบกับช่วงระยะเวลาเดียวกันของปี 2560 ยอดจำหน่ายสูงสุดยังคงเป็นว่าที่แชมพ์ยอดจำหน่ายสูงสุดประจำปี 2561 ยี่ห้อเดิม อีซูซุ ซึ่งมียอดจำหน่ายทะลุหลักแสนคันขึ้นไปแล้ว โดยตัวเลขรวม 9 เดือนอยู่ที่ 100,189 คัน เพิ่มขึ้น 6.4 % มีส่วนแบ่งการตลาด 34.6 % อันดับ 2 โตโยตา คงต้องรับไปถึงแม้ว่ายอดจำหน่ายในปีนี้จะปรับตัวสูงขึ้นในปีก่อนมากพอสมควรก็ตาม โตโยตา จำหน่ายแล้วรวม 87,944 คัน เพิ่มขึ้นถึง 32.9 % ส่วนแบ่งการตลาด 30.3 % ส่วนอันดับที่ 3-5 คงเป็นไปตามอันดับนี้ไม่เปลี่ยนแปลง เริ่มจากอันดับ 3 ฟอร์ด 36,952 คัน เพิ่มขึ้น 34.9 % ส่วนแบ่งตลาด 12.7 % อันดับ 4 มิตซูบิชิ ยอดจำหน่ายรวม 27,105 คัน เพิ่มขึ้น 32.5 % ส่วนแบ่งตลาด 9.3 % และอันดับ 5 นิสสัน 16,704 คัน เพิ่มขึ้น 18.2 % ส่วนแบ่งการตลาด 5.8 %     สำหรับพิคอัพขับเคลื่อน 4 ล้อ เดือนกันยายนมียอดจำหน่ายรวมกันที่ 3,335 คัน เพิ่มขึ้น 35.7 % เมื่อเทียบกับเดือนกันยายน 2560 ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากยอดจำหน่ายของ ฟอร์ด เรนเจอร์ แรพเตอร์ ที่เริ่มส่งมอบถึงมือผู้สั่งจองแล้วตั้งแต่กลางเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา และเป็นผลให้อันดับของ ฟอร์ด ขยับไปอยู่ในอันดับที่ 2 ของ 5 ยอดจำหน่ายสูงสุดด้วย โดยยอดจำหน่ายสูงสุดในตลาดนี้ยังเป็น โตโยตา ที่จำหน่ายได้ 1,861 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 55.8 % อันดับ 2 ฟอร์ด ยอดจำหน่าย 744 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 22.3 % อันดับ 3 อีซูซุ ยอดจำหน่าย 474 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 14.2 % อันดับ 4 มิตซูบิชิ 177 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 5.3 % และอันดับ 5 นิสสัน 49 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 1.5 %   ยอดจำหน่ายตลาดนี้รวม 3 ไตรมาส อยู่ที่ 27,903 คัน เพิ่มขึ้น 17.4 % ว่าที่แชมพ์ โตโยตา จำหน่ายไปแล้ว 15,098 คัน เพิ่มขึ้น 27.0 % ส่วนแบ่งการตลาด 54.1 % ตามด้วย อีซูซุ 5,124 คัน ลดลง 0.5 % ส่วนแบ่งการตลาด 18.4 % อันดับ 3 ฟอร์ด 4,564 คัน เพิ่มขึ้น 20.5 % ส่วนแบ่งการตลาด 1.6 % อันดับ 4 มิตซูบิชิ 2,246 คัน เพิ่มขึ้น 10.3 % ส่วนแบ่งการตลาด 8.0 % และอันดับ 5 นิสสัน 609 คัน เพิ่มขึ้น 11.1 % ส่วนแบ่งการตลาด 2.2 %   รถเอสยูวี ยอดจำหน่ายเดือนกันยายน 2561 อยู่ที่ 12,026 คัน ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนกันยายน 2560 ถึง 37.0 % โดยที่ยอดจำหน่ายสูงสุดอันดับ 1 เป็น โตโยตา จำหน่ายได้ 3,575 คัน กินส่วนแบ่งการตลาดไป 29.7 % อันดับ 2 ฮอนดา จำหน่ายได้ 2,785 คัน ได้ส่วนแบ่งการตลาด 23.2 % อันดับ 3 มิตซูบิชิ 1,161 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 9.7 % อันดับ 4 เอมจี 1,138 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 9.5 % และอันดับ 5 อีซูซุ 1,045 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 8.7 %   รวม 9 เดือน รถเอสยูวีจำหน่ายแล้วทั้งสิ้น 102,627 คัน เพิ่มขึ้นถึง 37.7 % ยอดรวมสูงสุดของส่วนแบ่งการตลาด ณ เวลานี้เป็น โตโยตา 31,645 คัน เพิ่มขึ้นถึง 113.0 % ส่วนแบ่งการตลาด 30.8 % ตามด้วย ฮอนดา 19,006 คัน ลดลง 1.8 % ส่วนแบ่งการตลาด 18.5 % เอมจี 12,843 คัน เพิ่มขึ้น 664.9 % ส่วนแบ่งการตลาด 12.5 % มิตซูบิชิ 9,345 คัน ลดลง 7.8 % ส่วนแบ่งการตลาด 9.1 % และอีซูซุ 8,871 คัน ลดลง 4.6 % ส่วนแบ่งการตลาด 8.6 %   รถเอมพีวี เดือนกันยายนมียอดจำหน่ายรวม 2,531 คัน เพิ่มขึ้น 60.1% และเป็น มิตซูบิชิ ที่คว้าแชมพ์ยอดจำหน่ายสูงสุดไปได้จากความร้อนแรงของโมเดลใหม่ที่เพิ่งเข้าสู่ตลาดอย่างเป็นทางการในเดือนที่ผ่านมา โดย มิตซูบิชิ จำหน่ายได้ 1,032 คัน มีส่วนแบ่งการตลาดมากถึง 40.8 % ตามด้วย โตโยตา 703 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 27.8 % ฮอนดา 599 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 23.7 % อันดับ 4 เกีย ยอดจำหน่าย 137 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 5.4 % และอันดับ 5 ซูซูกิ 34 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 1.3 % รวม 9 เดือน จำหน่ายแล้ว 14,211 คัน ลดลง 6.1 % ส่วนแบ่งการตลาดสูงสุดเป็น โตโยตา มีอยู่ 39.9 % จากยอดจำหน่ายรวม 5,677 คัน ลดลงจากปีก่อน 21.4 % อันดับ 2 ฮอนดา ส่วนแบ่งการตลาด 37.4% จากยอดจำหน่าย 5,320 คัน ลดลง 17.3 % อันดับ 3 มิตซูบิชิ ส่วนแบ่งการตลาด 12.1 % ยอดจำหน่าย 1,718 คัน อันดับ 4 เกีย ส่วนแบ่งการตลาด 6.9 % ยอดจำหน่าย 976 คัน เพิ่มขึ้น 59.5 % และอันดับ 5 ซูซูกิ ส่วนแบ่งการตลาด 2.2 % จากยอดจำหน่าย 318 คัน ลดลงถึง 45.4 %   รถยนต์เพื่อการพาณิชย์อื่นๆ (ไม่รวมรถยนต์นั่ง) เดือนกันยายน 4,069 คัน ลดลง 21.8 % รวม 3 ไตรมาส 31,098 คัน ลดลง 0.2 %