สื่อมวลชนกว่า 60 ชีวิตที่ร่วมเปิดประสบการณ์สุดขอบฟ้ากับ มาซดา ภายใต้ชื่อ MAZDA PASSION DRIVE TO THE NEW HORIZON การเดินทางในกลุ่มประเทศ "สแกนดิเนเวีย" ชื่อที่เรียกขานดินแดน 4 ประเทศของยุโรปเหนือ คือ เดนมาร์ค (DENMARK) ฟินแลนด์ (FINLAND) นอร์เวย์ (NORWAY) และสวีเดน (SWEDEN) ระยะทางที่ยาวกว่า 6,500 กม. เพื่อต่อยอดจากการเดินทางครั้งก่อน ที่ขับรถจาก มองโกเลีย ผ่านไซบีเรีย ไปถึงกรุงมอสโกว์ ของรัสเซีย แบ่งสื่อมวลชนออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่ม A และ Bรถที่ใช้สำหรับการเดินทางในครั้งนี้ คือ มาซดา ซีเอกซ์-5 2.2 ออพทิมัน ขับเคลื่อน 4 ล้อ (OPTIMUM AWD) จากประเทศเดนมาร์ค จำนวน 9 คัน แทนรถรุ่น มาซดา ซีเอกซ์-5 2.2 เอกซ์ดีแอล ขับเคลื่อน 4 ล้อ (XDL AWD) จากประเทศไทย ซึ่งติดปัญหาเรือขนส่งโดนพายุถล่ม จนกระทั่งมาไม่ทันตามกำหนดเวลาการเดินทาง ทั้ง 2 รุ่น ใช้เครื่องยนต์ตัวเดียวกัน คือ เครื่องยนต์ดีเซล SKYACTIV-D 2.2 ลิตร 175 แรงม้า ที่ 4,500 รตน. แรงบิด 42.8 กก.-ม. ที่ 2,000 รตน. เกียรอัตโนมัติ 6 จังหวะ SKYACTIV-DRIVE ขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ AWD ล้อขนาด 19 นิ้ว พร้อมยาง 225/55/19 เหมือนกัน ต่างกันตรงพวงมาลัยซ้าย และรายละเอียด เช่น ไม่มีหลังคาซันรูฟ แต่เพิ่มอุปกรณ์จำเป็นสำหรับรถในอุณหภูมิติดลบ เช่น ที่ฉีดล้างไฟหน้า ไฟตัดหมอกหลัง ระบบพับกระจกมองข้างอัตโนมัติ เมื่อลอครถ ระบบละลายฝ้าที่กระจกมองข้าง กระจกกรองแสงสีเข้มบานหลังซ้าย/ขวาและบานท้าย ระบบอุ่นพวงมาลัย ระบบอุ่นเบาะนั่งทั้งหน้า/หลัง ระบบละลายน้ำแข็งบริเวณที่ปัดน้ำฝนหน้า รวมถึง เสริมระบบตรวจับคนเดินถนนในระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติ (SCBS: SMART CITY BRAKE SUPPORT) และระบบช่วยหยุดและออกตัวอัตโนมัติในระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (MRCC: MAZDA RADAR CRUISE CONTROL) ระบบเตือนแรงดันลมยาง (TPMS: TIRE PRESSURE MONITORING SYSTEM) เช้าวันที่ 17 กันยายน กลุ่ม A ขึ้นรถด้านซ้ายปรับตัวนิดหน่อยกับการขับรถชิดขอบทางด้านซ้าย ก่อนจะขับรถ เราเริ่มต้นการเดินทางจากท่าอากาศยานโคเปนเฮเกนกาสตรัป หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า "สนามบินโคเปนเฮเกน" กรุงโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ค ออกจากลานจอดใต้ดิน เลี้ยวขวาเข้าสู่เส้นทางหลัก และลอดอุโมงค์ใต้ทะเล ถึงปลายอุโมงค์ก็ข้ามประเทศไปแล้ว เข้าด่านตรวจสอบหนังสือเดินทางประเทศสวีเดน ความเร็วในการเดินทางส่วนใหญ่ ทางหลวงจะใช้ความเร็ว 100-120 กม./ชม. แต่ถ้าเป็นเส้นทางชนบทมีรถสวนทาง ไป 1 มา 1 ผ่านเขตชุมชนก็จะลดลงมา 80 กม./ชม. ทางแยก 60 กม./ชม. เข้าเมือง 50 กม./ชม. และในเมืองเหลือเพียง 40 กม./ชม. ซึ่งผู้ขับรถส่วนใหญ่ใช้ความเร็วตามที่กำหนด ช่วยลดปัญหาการเกิดอุบัติเหตุจากการใช้ความเร็วเกินกำหนดได้มาก แวะรับประทานอาหารกลางวัน ที่เมืองยุงเชอปิง และเดินทางต่อเข้าสู่กรุงสตอคโฮล์ม ระยะทางในวันแรกประมาณ 660 กม. วันที่ 18 กันยายน ช่วงบ่ายขบวน ซีเอกซ์-5 ออกเดินทางต่อหลังจากเที่ยวชมเมืองสตอคโฮล์ม และรับประทานอาหารกลางวัน ลงเรือเฟอร์รี MARIELLA ของ VIKING LINE? ออกจากท่าเรือสตอคโฮล์ม มุ่งหน้าสู่? ท่าเรือเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ ช่วงสายวันที่ 19 กันยายน ถึงท่าเรือกรุงเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ เที่ยวชมเมืองและรับประทานอาหารกลางวัน ขับรถต่อไปยังเมืองคูโอปิโอ ระยะทางประมาณ 390 กม. เช้าวันที่ 20 กันยายน ขับรถจากเมืองคูโอปิโอ แวะเมืองอูลู? และเดินทางต่อไปยังเมืองโรวาไนอิมี ระยะทางประมาณ 490 กม. วันที่ 21 กันยายน ออกจากเมืองโรวาไนอิมี ผ่านเส้นขั้วโลก? ที่? SANTA CAUSE VILLAGE-ROVANIEMIE ไปยังเมืองอัลตา และขับรถต่อไปยังเมืองฮอนนิกสวัก ระยะทางประมาณ 680 กม. รับประทานอาหารเย็นร่วมกับสื่อมวลชนกลุ่ม B ที่ตามมาสมทบ เพื่อเดินทางไปชมแสงเหนือที่นอร์ธ เคพ แผ่นดินเหนือสุดของทวีปยุโรป วันที่ 22 กันยายน หลังจากส่งไม้ต่อให้กับกลุ่ม? B ก็ถึงเวลาโบกมือลากลับบ้านแล้ว? สำหรับกลุ่ม? A เชคเอาท์ ออกเดินทางจาก HOTEL SCANDIC HONNIGSVAG กลับไป?อัลตา แวะรับประทานอาหารกลางวัน?ที่ร้านพิซซา? ซึ่งในระหว่างรอเวลาเชคอิน? กลุ่ม? B ก็ตามมาสมทบ? ก่อนจะถึงเวลาแยกย้าย? กลุ่ม? A เดินทางไปที่สนามบินอัลตา ระยะทางที่เหลืออีกราว 3,000 กม. ก็ปล่อยให้กลุ่ม B ขับรถท่องเที่ยวยุโรปเหนือก่อนจะกลับมายังออสโล ประเทศนอร์เวย์
บทความแนะนำ