รถใหม่ 4x4 (4wheels)
ฮอนดา ซีอาร์-วี ใหม่ 2 ทางเลือก เบนซินกับไฮบริด
รุ่นไฮบริดพร้อมจำหน่ายในเดือนพฤศจิกายนนี้ฮอนดา วางจำหน่าย ซีอาร์-วี ใหม่ รุ่นเบนซิน เมื่อวันศุกร์ที่ 31 สิงหาคม ที่ผ่านมา และจะวางจำหน่าย รุ่นไฮบริด ในวันพุธที่ 11 พฤศจิกายนนี้ นับตั้งแต่เปิดตัว ซีอาร์-วี เมื่อปี 1995 ก็ได้รับการยอมรับและกลายเป็นรุ่นหลักของ ฮอนดา ที่จำหน่ายในประเทศต่างๆ ทั่วโลก สำหรับ ซีอาร์-วี ใหม่ รุ่นที่ 5 แบบฟูลล์โมเดลเชนจ์ เน้นสมรรถนะ ห้องโดยสารกว้างขวาง และการใช้งานสะดวกสบาย ซึ่งเป็นจุดแข็งของรุ่นปัจจุบัน อีกทั้งให้การขับขี่ที่สบายและอุ่นใจในทุกสถานการณ์ ยิ่งกว่านั้น ยังตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างกว้างขวาง เช่น กำหนดให้มีระบบขับเคลื่อน 4WD เป็นครั้งแรกในระบบไฮบริด "SPORT HYBRID I-MMD" อีกทั้งกำหนดให้มีแบบที่นั่ง 3 แถว สำหรับบรรทุกผู้โดยสาร 7 คน ในรุ่นเบนซิน รุ่นไฮบริด และรุ่นเบนซินที่บรรจุเครื่องยนต์เทอร์โบพลังสูงเป็นครั้งแรกของ ซีอาร์-วี ในรุ่นไฮบริด ที่เพิ่งมีเป็นครั้งแรกของ ซีอาร์-วี ใช้ SPORT HYBRID I-MMD ซึ่งสับเปลี่ยนโหมดการขับขี่ให้เหมาะกับสภาพการขับขี่ได้ 3 โหมดอย่างไร้รอยต่อ คือ อีวี ดไรฟ โหมด, ไฮบริด ดไรฟ โหมด และเอนจิน ดไรฟ โหมด ทำให้ได้ทั้งฝีเท้าทรงพลัง และการประหยัดเชื้อเพลิง ซึ่งทำได้สูงสุดในคลาสส์ 3 ถึง 25.8 กม./ลิตร พร้อมกันนั้น ยังปรับตั้งระดับความเร็วรถ และเสียงของเครื่องยนต์อย่างละเอียด ให้ตรงตามรู้สึกของผู้ขับขี่ และเป็นธรรมชาติ กำหนดให้มีระบบขับเคลื่อน 4WD เป็นครั้งแรกใน SPORT HYBRID I-MMD สามารถให้สมรรถนะในการวิ่งทางลุยที่ยอดเยี่ยมบนทางลาด ตลอดจนการออกตัวและการเลี้ยวบนทางหิมะ ด้วยเรียลไทม์ ออลล์ วีล ดไรฟที่กระจายแรงขับเคลื่อนไปยังล้อหน้า/หลังได้อย่างรวดเร็ว และแม่นยำ ด้วยระบบอีเลคทรอนิคส์ รุ่นเบนซิน ใช้เครื่องยนต์ไดเรคท์อินเจคชัน VTEC เทอร์โบ 1.5 ลิตร ที่จัดให้มีระบบไอดี-ไอเสียแบบดูอัล วีทีซี ยิ่งกว่านั้น ยังมีเทอร์โบชาร์เจอร์ที่พัฒนาเพื่อรุ่นนี้โดยเฉพาะ ทำให้ได้แรงบิด และความรู้สึกถึงกำลังที่ขยายไปจนถึงช่วงรอบเครื่องยนต์สูงอย่างทัดเทียมกับเครื่องยนต์ธรรมดา (NA) ขนาด 2.4 ลิตรอีกด้วย มีการทดลองในอุโมงค์ลมครั้งแล้วครั้งเล่าที่ HRD SAKURA ศูนย์ค้นคว้าด้านเทคโนโลยีของ ฮอนดา ซึ่งทำการพัฒนาเทคโนโลยีของรถมอเตอร์สปอร์ท 4 ล้อ เพื่อแสวงหาผลด้านอากาศพลศาสตร์ ยิ่งกว่านั้น ยังนำชัทเตอร์กริลล์มาใช้เพื่อทุ่มเทไปกับการประหยัดเชื้อเพลิงที่ยอดเยี่ยมในรถ ทั้งรุ่นเบนซิน และรุ่นไฮบริด อีกด้วย พื้นที่โดยสารกว้างขวาง จัดเรียงที่นั่งได้หลายแบบ และกำหนดให้มีแบบที่นั่ง 3 แถวด้วย ด้วยประสิทธิภาพในการจัดสรรพื้นที่ระดับทอพคลาสส์ จากเทคโนโลยีในการจัดทำโครงตัวถังที่ยอดเยี่ยม จึงให้พื้นที่โดยสารที่สบาย จัดเรียงที่นั่งได้หลายแบบ พื้นที่บรรทุกสัมภาระที่กว้าง และใช้งานได้สะดวก ในขนาดตัวถังที่มีความคล่องตัว และเน้นจุดแข็งในปัจจุบันของ ซีอาร์-วี ให้หนักแน่นยิ่งขึ้น เพิ่มความสบายของที่นั่งแถวหลังให้มากขึ้น โดยนอกจากจะขยายพื้นที่บริเวณที่วางเท้าให้กว้างกว่าของรุ่นก่อน 50 มม. แล้ว ยังเพิ่มความรู้สึกกระชับสรีระจากการขยายเบาะ และพนักที่นั่งอีกด้วย ให้พื้นราบเรียบของห้องบรรทุกสัมภาระที่ยาว 1,830 มม. และความสามารถในการบรรทุกสัมภาระที่ยอดเยี่ยม จากการหุบที่นั่งแถวหลังลงให้เป็นพื้นที่ว่างขนาดใหญ่ได้ใน 1 สัมผัส ในรุ่นเบนซิน สามารถเลือกเป็นแบบบรรทุกผู้โดยสาร 5 คน และแบบที่นั่ง 3 แถว บรรทุกผู้โดยสาร 7 คน ในตัวถังขนาดเดียวกันได้ด้วย ทั้งนี้ นอกจากจะทำถังเชื้อเพลิงให้แฟบลง ตลอดจนออกแบบบริเวณพื้นและหลังคาให้รักษาพื้นที่โดยสารที่จุสัมภาระได้ตลอดทั้งคันแล้ว ยังมีการใช้สปริงที่ด้านในตรงที่นั่งแถว 3 เป็นต้น โดยคำนึงถึงความสบายในการโดยสารของผู้โดยสารตรงที่นั่งแถว 3 ด้วย เทคโนโลยีล้ำหน้า และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่มีให้ ได้แก่ ติดตั้งระบบในการสนับสนุนการขับขี่ที่ปลอดภัย "HONDA SENSING" ให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐานในรถทุกเกรด ประสานการทำงานของระบบ ยืนยันสภาพเบื้องหน้ารถจากเรดาร์คลื่นสั้นและกล้องตาเดียว กับเทคโนโลยีควบคุมเบรคและพวงมาลัย เพื่อสนับสนุนการขับขี่ที่สบาย ปลอดภัย และหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุ ใช้ระบบ HANDS-FREE ACCESS POWER TAILGATE เป็นครั้งแรกของรถ ฮอนดา ในประเทศญี่ปุ่น ทำให้นอกจากจะสามารถเปิด/ปิดประตูท้ายได้ โดยเพียงแค่แหย่ปลายเท้าไปตรงเซนเซอร์ที่อยู่ใต้กันชนหลังแล้ว ยังบรรจุกลไกให้กำหนดความสูงในการเปิดประตูท้ายได้ตามใจชอบ และหยุดการทำงานชั่วคราวในระหว่างที่กดปุ่มเปิด/ปิดประตูได้ด้วย มอบพื้นที่ในการเคลื่อนไหวที่สบายด้วยอุปกรณ์เสริม นับตั้งแต่ ที่นั่งคนขับแบบปรับได้ 8 ทิศทางด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมกลไกบันทึกตำแหน่ง ตลอดจนส่วนรองรับบั้นท้ายของที่นั่งคนขับ ที่ปรับได้ 4 ทิศทางด้วยระบบไฟฟ้า ซึ่งช่วยลดน้ำหนักกดทับตรงบั้นท้ายของผู้ขับขี่ และพาโนรามา ซันรูฟ ระบบไฟฟ้า ที่ช่องเปิดกว้างใหญ่ ดีไซจ์นภายนอกดูทรงพลัง และห้าวหาญ โดยเพิ่มความสูงท้องรถขึ้นอีก 40 มม. จากรุ่นก่อน อีกทั้งฐานล้อก็ยืดยาวขึ้นด้วย นอกจากนี้ ฐานล้อกว้างกับยางรถยนต์วงโต เส้นผ่าศูนย์กลาง 18 นิ้ว และโป่งข้างหน้า/หลังที่ขยายใหญ่ ทำให้ชวนนึกไปถึงสมรรถนะในการวิ่งลุยที่ทรงพลัง และวางใจได้ อย่างที่รถเอสยูวีเท่านั้นจะให้ได้ มุมมองด้านหน้า เน้นความนำสมัย โดยใช้ไฟแบบแอลอีดีเต็มระบบ ไฟหน้าที่ส่องสว่างทั่วหน้า และไฟหรี่ทีไล่ปริมาณแสงเข้าหาศูนย์กลาง เป็นต้น การตกแต่งภายในมีคุณภาพสูง และสะดวกในการใช้งาน เบาะที่นั่งหุ้มหนังแท้ ทำให้ดูเป็น 3 มิติ และประณีต และที่นั่งหุ้มผ้าซึ่งมีการถักทอไล่โทนสี ให้ดูมีความวาวและความลึกเป็นพิเศษ เพื่อเพิ่มเนื้อสัมผัสที่นุ่มนวล ยิ่งกว่านั้น ยังใช้วัสดุที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น เช่น วัสดุประดับลายไม้ และชิ้นส่วนเคลือบเงาแบบเพียโนบแลค ในส่วนต่างๆ เช่น แผงหน้าปัด และแผงประตู อีกด้วย เซนเตอร์คอนโซลบอกซ์ใช้ถาดแบบขยับได้ จึงสามารถปรับใช้งานได้ 3 แบบ ตามฉากการใช้งาน และของที่วาง เช่น กระเป๋าถือขนาดเล็ก และโทรศัพท์เคลื่อนที่ แม้ในส่วนปลีกย่อยอื่นๆ ก็มีความสะดวกในการใช้งาน เช่น ตำแหน่งที่วางแก้ว และที่เก็บของตรงกระเป๋าข้างประตูหน้า/หลัง
เรื่องโดย : กองบรรณาธิการ 4wheels
นิตยสาร 417 ฉบับเดือน พฤศจิกายน ปี 2561
คอลัมน์ Online : รถใหม่ 4x4 (4wheels)
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/246840