รถเก๋งแฮทช์แบคขนาดเล็กกว่าเล็กกะทัดรัดติดป้ายชื่อ ฟอร์ด ฟิเอสตา (FORD FIESTA) รุ่นที่ขายอยู่ในตลาดยุโรปขณะนี้เป็นรถรุ่นที่ 7 เพิ่งเปิดตัวเมื่อต้นเดือนพฤษภาคม 2017 และเริ่มการจำหน่ายไม่กี่เดือนหลังจากนั้น มีตัวถังให้เลือกใช้ 2 แบบ คือ ตัวถัง 3 ประตูแฮทช์แบค กับตัวถัง 5 ประตูแฮทช์แบค ทั้ง 2 ตัวถังมีขนาดเท่ากันในทุกมิติ คือ ยาว 4.040 ม. กว้าง 1.735 ม. และสูง 1.476 ม. มีเครื่องยนต์ให้เลือกใช้อย่างหลากหลายถึง 7 ขนาด แยกเป็นเครื่องเบนซิน 5 ขนาด คือ เครื่อง DOHC 3 สูบเรียง 1,084 ซีซี ซึ่งให้กำลังสูงสุด 52 กิโลวัตต์/70 แรงม้า กับ 63 กิโลวัตต์/85 แรงม้า เครื่อง ECOBOOST DOHC 3 สูบเรียง 998 ซีซี ซึ่งให้กำลังสูงสุด 74 กิโลวัตต์/100 แรงม้า-92 กิโลวัตต์/125 แรงม้า-103 กิโลวัตต์/140 แรงม้า และเป็นเครื่องดีเซล 2 ขนาด คือ เครื่องเทอร์โบดีเซลฉีดตรง SOHC 4 สูบเรียง 1,499 ซีซี ซึ่งให้กำลังสูงสุด 63 กิโลวัตต์/85 แรงม้า กับ 88 กิโลวัตต์/120 แรงม้า ส่วนระบบเกียร์เพื่อส่งกำลังสู่ล้อคู่หน้ามี 3 แบบ คือ เกียร์ธรรมดา 5 หรือ 6 จังหวะ กับเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะส่วน ฟอร์ด ฟิเอสตา เอสที (FORD FIESTA ST) ที่กำลังอวดรูปทรงองค์เอวอยู่นี้ เป็นรถโมเดลพิเศษ เพิ่งเปิดตัวเมื่อต้นเดือนพฤษภาคม 2018 และเริ่มการจำหน่ายไปเรียบร้อยแล้ว เป็นรถเล็กแต่ร้อนแรงอย่างที่นิยมเรียกกันในยุโรปว่า ฮอทแฮทช์ (HOT HATCH) มีให้เลือกทั้งตัวถัง 3 ประตูและตัวถัง 5 ประตู ซึ่งมีขนาดโตเท่ากันในทุกมิติ คือ ยาว 4.068 ม.กว้าง 1.735 ม.และสูง 1.469 ม. มี KERB WEIGHT หรือน้ำหนักตัวพร้อมขับ 1,262 และ 1,283 กก. รถแรงโมเดลนี้ติดตั้งเครื่องยนต์เทอร์โบเบนซินฉีดเชื้อเพลิงโดยตรง DOHC 3 สูบเรียง 1,497 ซีซี ให้กำลังสูงสุด 147 กิโลวัตต์/200 แรงม้า ที่ 6,000 รตน.และให้แรงบิดสูงสุด 290 นิวทันเมตร/29.6 กก.ม.ที่ 1,600-4,000 รตน. เป็นเครื่องยนต์ ECOBOOST ที่ค่ายนี้เพิ่งพัฒนาขึ้นใหม่ มีเทคโนโลยีซึ่งเรียกชื่อในภาษาอังกฤษว่า CYLINDER DEACTIVATION SYSTEM ติดตั้งอยู่ด้วย ลักษณะการทำงานอธิบายได้อย่างสั้นๆว่า ในกรณีที่ไม่จำเป็นต้องให้เครื่องยนต์ต้องทำงานอย่างเต็มขนาดความจุ เช่นตอนที่ขับรถอย่างช้าๆ ด้วยความเร็วสม่ำเสมอ ระบบจะหยุดการทำงานของ 1 สูบ โดยหยุดการจ่ายเชื้อเพลิงและการทำงานของระบบวาล์วโดยอัตโนมัติ การหยุดการทำงานและเริ่มการทำงานขึ้นใหม่อีกครั้งหนึ่งนี้ ใช้เวลาเพียง 14 มิลลิวินาที คือเร็วกว่าการกะพริบตาถึง 20 เท่า ส่วนระบบเกียร์เพื่อส่งกำลังสู่ล้อคู่หน้าเป็นเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ ตามตัวเลขของค่าย"วงรีสีฟ้า" ทั้งตัวถัง 3 ประตูและตัวถัง 5 ประตู อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.ทำได้ในเวลา 6.5 วินาที ความเร็วสูงสุด 232 กม./ชม. มีอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 6.0 ลิตร/100 กม.หรือ 16.7 กม./ลิตร และปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ 136 กรัม/กม.โดยเฉลี่ยในเยอรมนีซึ่งเป็นตลาดใหญ่ที่สุดในยุโรป รถเล็กแต่แรงโมเดลนี้เริ่มการจำหน่ายแล้ว พร้อมการป้ายค่าตัวซึ่งเริ่มต้นที่ระดับ 22,100 ยูโร หรือเท่ากับประมาณ 884,000 บาทไทย เป็นราคาค่าตัวซึ่งรวมภาษีมูลค่าเพิ่มร้อยละ 19 ไว้แล้ว