รอบรู้เรื่องรถ
มีรถดี...ต้องใช้

"CARS ARE BUILT TO BE DRIVEN" ใช่แล้วครับ ถูกต้องที่สุด "รถถูกสร้างมาเพื่อให้พวกเราขับมัน" เป็นคำตอบที่เหล่าผู้รับผิดชอบด้านการพัฒนาของโรงงานผลิตรถยนต์ต่างๆ ในต่างประเทศ ล้วนกล่าวเป็นเสียงเดียวกันโดยไม่มีข้อยกเว้นเมื่อถูกผู้แทนจากนิตยสารรถขอความเห็น ที่ตอบว่า "รถถูกสร้างมาเพื่อให้พวกเราขับ" นั้น ไม่ได้กลัวว่าลูกค้าจะเอามันไปทำอย่างอื่นนะครับ แบบนั้นวิตถารแล้ว เขาต่อต้านการที่ซื้อไปแล้วไม่ขับครับ หรือถ้าให้กล่าวในรูปแบบอื่น ก็คงอยากจะบอกว่า "พวกเราไม่ได้ทุ่มเทสร้างมันให้ดีขนาดนี้ เพื่อให้พวกคุณซื้อไปจอดดูเฉยๆ นะ" เพราะในช่วงเวลา 10 กว่าปีมานี้ ผู้คนเริ่มมองเห็นโอกาสในการเก็งกำไรจากรถยนต์ จากเดิมที่คุ้นเคยกันแต่การเก็งกำไรจากอสังหาริมทรัพย์ ไม่ว่าจะเจตนาหรือไม่ก็ตาม ผู้ผลิตรถนี่แหละครับ มีส่วนร่วมรับผิดชอบ ต่อพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ของลูกค้า เนื่องจากเมื่อใดก็ตามที่สร้างรถรุ่นที่มีคุณสมบัติพิเศษออกมา ก็จะจำกัดจำนวนผลิตไว้ ด้วยตัวเลขตามแต่จะอ้าง เช่น ฉลองอายุโรงงาน หรืออายุบแรนด์ เป็นเลข "กลมๆ" ฉลองชัยชนะที่โน่นนี่ ตามแต่จะนึกออก หลักใหญ่ก็คือ ให้จำนวนผลิตมันน้อยกว่าจำนวนลูกค้าที่ต้องการซื้อไว้เป็นการสร้างภาพเสริมคุณค่าได้รูปแบบหนึ่ง เมื่อใดก็ตามที่อุปสงค์มากกว่าอุปทาน ก็ย่อมมีการเก็งกำไรในการขายต่อขึ้นมาทันที ส่วนใหญ่เงื่อนไขที่โรงงานตั้งขึ้นมา ก็ไม่ได้ให้ความยุติธรรมใดๆ ต่อลูกค้าทั่วไปเลย เช่น ผู้ที่จะมีสิทธิ์ซื้อต้องเคยซื้อรุ่นแพงมาก่อน ลูกค้าที่หมดหวังก็คงอยากจะถามว่า "ถ้ามันมีรุ่นดีกว่าใช้อยู่แล้ว มันจะซื้อรุ่นรองไปทำอะไรไม่ทราบ ?" บางโรงงานก็ให้อำนาจตัวแทนจำหน่ายเลือกลูกค้ากันเอง แน่นอนครับ เกิดการใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัว หรือการใช้ "เส้นสาย" ขึ้นมาทันที และเมื่อเกิดการเก็งกำไรขึ้นมาเช่นนี้ ก็จะเข้าสู่สถานการณ์ทำนอง "คนซื้อได้ ไม่ได้ต้องการขับ" และ "คนอยากขับ ไม่มีสิทธิ์ซื้อ" ขึ้นทันที เท่าที่ผมประเมินจากข้อมูลต่างๆ มีโรงงานรถทั้ง 2 ประเภทครับ คือ บางรายก็ต้องการให้มีการปั่นป่วนแย่งชิงกันตอนซื้อ และเก็งกำไรกัน เมื่อจำนวนรถไม่พอขาย กับอีกพวกที่บริสุทธิ์ใจจริงๆ กะว่าจะผลิตได้ใกล้เคียงกับความต้องการ แต่ปรากฏว่าความนิยม และความต้องการมีมากเกินคาด เพราะเราต้องไม่ลืมว่า ในเชิงธุรกิจ และการตลาดแล้ว จะต้องระวังไม่ให้เกิดสภาพ ขายไม่ออก หรือขายไม่หมดเด็ดขาดครับ สรุปแล้ว รถรุ่นพิเศษ ที่ถูกผลิตแบบจำกัดจำนวน จึงออกมาแล่นตามท้องถนนในต่างประเทศ ในจำนวนที่ต่ำกว่าควรมาก เพราะจำนวนไม่น้อย ถูกนำมาจอดไว้เฉยๆ เพื่อเก็งกำไร รอให้ราคาขึ้นถึงระดับที่เจ้าของรถพอใจแล้วจึงจะเสนอขาย ผม "ดูอาการ" แล้ว คงจะอยู่ในสภาวะนี้ไปอีกนานครับ ด้วยเหตุผลง่ายๆ คือ โรงงานได้กำไรตามต้องการ พวกได้สิทธิ์ซื้อ จะโดยวิธีปกติที่ถูกต้อง และนำไปขับด้วยความชอบ ไม่ได้คิดหากำไรจากการขายต่อ (พวกนี้คือคนปกติที่ชอบรถจริง คิด และปฏิบัติในทางที่ถูกต้อง ซึ่งผมขอยกย่องชมเชย) หรือพวกใช้อภิสิทธิ์กับพวกนักฉวยโอกาส ล้วนได้รถมาครอบครองสมประสงค์ คงเหลือนักเก็งกำไรที่พลาดโอกาส กับผู้ที่ชอบรถจริง และอยากซื้อมาใช้ แต่ "คุณสมบัติ" ไม่เพียงพอ กลุ่มหลังนี่เป็นกลุ่มที่น่าเห็นใจครับ เพียงแต่ว่าความเห็นใจที่ว่านี้ มันไม่ได้มาจากผู้ผลิตรถ เข้าทำนอง "ถ้าเงินน้อยกว่า เสียงของคุณก็ย่อมเบากว่า" ไม่มีความยุติธรรมเสมอไปบนโลกใบนี้อยู่แล้วครับ ขอจบประเด็นนี้ ที่ผมนำมาเสนอเป็นความรู้รอบตัวในวงการรถยนต์ของโลกเท่านั้นนะครับ ส่วนที่ต่อจากนี้เป็นคนละประเด็นกัน "CARS ARE BUILT TO BE DRIVEN" รถถูกสร้างมาเพื่อให้พวกเราขับครับ ไม่ใช่เรื่องเอาไปจอดรอเก็งกำไร เหมือนกรณีแรก แต่เป็นคำตอบที่เหมือนกัน เมื่อบรรดาวิศวกร และผู้บริหารของผู้ผลิตรถ ถูกขอให้ออกความเห็นต่อการที่ลูกค้านำรถที่ซื้อไป โดยเฉพาะพวกรถสปอร์ทราคาสูงแล้วไม่ยอมขับ ด้วยความเห่อ ความเสียดายกลัวมีตำหนิ บางคนก็กลัวแม้กระทั่งว่าเลขบอกระยะทางมันจะเพิ่มขึ้น กลัวถูกแดดนาน กลัวตากฝน กลัวหินกระเด็นใส่ เชื่อหรือไม่ครับ ในจำนวนหลายสิบราย ไม่มีแม้แต่รายเดียว ที่สนับสนุนการกระทำ และเหตุผลที่ว่านี้ ทุกคนล้วนยืนยันว่า พวกเขาสร้างรถเหล่านี้มาเพื่อให้คนที่ชอบได้ขับด้วยความรู้สึกที่ดี ผมไม่ค่อยกล้าใช้คำว่าความสุขครับ กลัวถูกนักปฏิบัติธรรมทั้งแท้และเทียม ซึ่งตอนนี้กำลังเป็นที่นิยม แย้งว่านั่นมันความสุขเทียม แต่ในฐานะคนชอบรถ โดยเฉพาะรถสปอร์ท และพวกที่มีความชอบเหมือนผม เราขออนุโลมว่ามันคือความสุขนั่นแหละ แม้จะชั่วครู่ชั่วคราวก็ตาม

ABOUT THE AUTHOR
เ
เจษฎา ตัณฑเศรษฐี
นิตยสาร 399 ฉบับเดือน มีนาคม ปี 2561
คอลัมน์ Online : รอบรู้เรื่องรถ