คาราวาน อีซูซุ ทั้ง 21 คัน ออกเดินทางจากโชว์รูม บริษัท ประชากิจมอเตอร์เซลส์ จำกัด สาขาจันทบุรี มุ่งหน้าสู่ชายแดนบ้านหาดเล็ก อ. คลองใหญ่ จ. ตราด ตามทางหลวงหมายเลข 3 เราใช้เวลาประมาณ 2 ชม. ก็ถึงด่าน และเมื่อทำพิธีการผ่านแดนเรียบร้อย รถทุกคันก็ข้ามแดนเข้าเกาะกง ประเทศกัมพูชา อย่างครื้นเครง
คาราวานออกเดินทางแบบยาวๆ ตลอดบ่าย กว่า 264 กม. การขับรถในกัมพูชา ต้องขับชิดขวา แซงซ้าย แถมเป็นเลนสวนตลอดทาง บางช่วงมีหลุมบ่อขนาดใหญ่ที่เกิดจากการซ่อมถนน ต้องใช้ความระมัดระวัง ตลอดสองข้างทางมีความเป็นธรรมชาติอยู่มาก นานๆ จะเจอรถสวนสักคัน อากาศร้อนจัดซึ่งไม่แตกต่างจากเมืองไทย ระหว่างทางไกด์ท้องถิ่นถามว่า มีใครเตรียมเสื้อกันหนาวมาไหม ? ผมสงสัยทันที ร้อนขนาดนี้จะเอามาทำไมกัน จนถึงช่วง 30 กม. สุดท้าย เส้นทางเริ่มขึ้นเขาสูงชันวกไปวนมาชวนเวียนหัวอย่างมาก ผมหัวหมุนอยู่เกือบชั่วโมงก็ถึง “โบโกร์ ไฮแลนด์” (BOKOR HIGHLAND) ทันทีที่ลงจากรถผมก็ถึงบางอ้อ อากาศที่นี่เย็นมาก เพราะอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลถึง 1,080 ม. อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 22 องศาเซลเซียส
“โบโกร์ ไฮแลนด์” เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเก่าแก่ที่สุดของ จ. กำปอต ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติมณีวงศ์ คาราวานแวะเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวแห่งแรก คือ “โบสถ์คาธอลิค” (OLD CATHOLIC CHURCH) เป็นโบสถ์โบราณที่สร้างขึ้นโดยชาวฝรั่งเศสในสมัยที่เข้ามาขยายอาณานิคมในกัมพูชา ตัวอาคารถูกปกคลุมด้วยตะไคร่น้ำสีแดง ด้านหลังโบสถ์ซึ่งเคยเป็นฐานป้อมปืนใหญ่ ปัจจุบันเป็นจุดชมวิวยอดฮิทที่สุด สามารถมองเห็นวิวแบบพาโนรามา
ห่างออกไปเพียงเล็กน้อย เป็นที่ตั้งของ “วัดสัมเปาปรัม” (SAMPOV PRAM TEMPLE) หรือวัดสำเภาห้า เป็นวัดเก่าแก่ของชาวกัมพูชาสำหรับประกอบพิธีกรรมทางศาสนา ต่อด้วยสัมผัสความสดชื่นที่ “น้ำตกโปโปควิล” (POPOKWIL WATERFALL) ซึ่งเป็นต้นกำเนิดจากเทือกเขาโบโกร์ หลังเพลิดเพลินกับน้ำตกอยู่พักใหญ่ ก็ปิดท้ายด้วยการสักการะ “อนุสาวรีย์ยายเมา” (LOK YEAY MAO MONUMENT) ที่ชาวกัมพูชาศรัทธาเลื่อมใส เรากราบไหว้ขอพรให้เดินทางด้วยความปลอดภัย และอำลาลงจากเทือกเขาโบโกร์เพื่อรับประทานอาหารกลางวันกันที่ตัวเมืองกำปอต
ช่วงบ่าย คาราวานออกเดินทางจากเมืองกำปอต ระยะทาง 106 กม. สู่เมือง “สีหนุวิลล์” หรือชื่อเดิม “กำปงโสม” เป็นเมืองพักตากอากาศชายทะเลอันมีชื่อเสียงของกัมพูชา เราเข้าพักที่ “สุขะ บีช รีสอร์ท” ซึ่งเป็นโรงแรมหรูติดชายทะเล และเป็นครั้งแรกที่ผมได้มาสัมผัสชายทะเลของกัมพูชา ซึ่งสวยงามไม่ใช่เล่น ทรายสีขาวเม็ดเล็กละเอียด น้ำทะเลเขียวใสทอดยาวจนสุดสายตา แถมสภาพแวดล้อมยังอุดมสมบูรณ์อยู่มาก
เช้าวันรุ่งขึ้น พวกเราสื่อมวลชนต้องแยกทางกับคาราวาน เพื่อเดินทางไปขึ้นเครื่องที่สนามบินกรุงพนมเปญ ส่วนคาราวาน อีซูซุ เดินทางกลับมายังเกาะกง เพื่อข้ามแดนเข้าประเทศไทยที่ชายแดนบ้านหาดเล็ก จ. ตราด
นับเป็นความประทับใจอีกครั้งในชีวิตของผม ที่ทำให้รู้ว่าประเทศกัมพูชา ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่งดงาม และมีความสมบูรณ์ทางธรรมชาติมาก รวมถึงสมรรถนะ และความประหยัดของรถ อีซูซุ ทุกรุ่น ที่สามารถฟันฝ่าเส้นทางสุดโหดมาได้ โดยที่น้ำมันยังคงเหลือกลับบ้านเกือบทุกคัน