เรื่องเด่นจาก GADGET/HOW IT WORKS
กว่าจะมาเป็นซูเพอร์คาร์
ป้ายราคา 2 ล้านปอนด์ (2.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) ของ ชีรน ไม่ได้สื่อถึงความแพงเพียงอย่างเดียว แต่ยังสื่อถึงการยกย่องและภาคภูมิใจในคุณค่า และมาตรฐานระดับสูงของรถยนต์คันนี้ แม้จะมีบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ชื่อดัง อย่าง แฟร์รารี โพร์เช โลทัส และลัมโบร์กินี ที่ผลิตยานยนต์ที่ยอดเยี่ยมกว่ารถยนต์ธรรมดาทั่วไป แต่ก็ยังไม่มีใครเทียบเคียง บูกัตตี ได้ในเรื่องของความเป็นแนวหน้าในการคิดค้นออกแบบรถยนต์ที่มีสมรรถนะสูงบูกัตตี มีประวัติยาวนานในการสร้างสรรค์ยานยนต์ บริษัทถูกก่อตั้งในปี 1909 โดยชาวอิตาเลียนที่ชื่อ เอตโตเร บูกัตตี เขาเริ่มตั้งโรงงานที่เมืองมอลไซม์ ประเทศฝรั่งเศส ภายหลังตกอยู่ภายใต้การควบคุมของเยอรมนี หลังจากสงครามโลก ครั้งที่ 2 สิ้นสุดลง บริษัทต้องเผชิญเคราะห์กรรมอยู่หลายปี ก่อนจะสิ้นสภาพล้มละลาย บแรนด์ บูกัตตี เปิดตัวใหม่อีกครั้งในปี 1998 อย่างไรก็ตามเมื่อถูกซื้อโดย โฟล์คสวาเกน กรุพ เจ้าของรายใหม่ก็ได้เปลี่ยนแปลงและกลับมาสร้างชื่อเสียงของ บูกัตตี อีกครั้งทันที โดยเริ่มพโรเจคท์การออกแบบและสร้างซูเพอร์คาร์ที่ดีที่สุด ที่สามารถขยายขอบเขตของวิศวกรรมยานยนต์ และรถยนต์ประเภทหรูให้กว้างขวางยิ่งขึ้น ผลลัพท์ที่ได้ คือ บูกัตตี เวย์รน ซึ่งเริ่มการผลิตในปี 2005 เวย์รน โดยมีพละกำลังเครื่องยนต์ถึง 1,000 แรงม้า สามารถเร่งความเร็วสูงสุดได้ถึง 400 กม./ชม.
การสร้างสรรค์อสูรที่ยิ่งใหญ่กว่า
จุดประสงค์ในการออกแบบ เวย์รน คือ เป็นรถที่สามารถขับด้วยความเร็วสูงบนถนน และทางยกระดับในชีวิตประจำวันได้ และจุดมุ่งหมายนั้นยังคงถูกใช้ในการออกแบบ ชีรน เหมือนกัน พร้อมกับเพิ่มสมรรถนะของเครื่องยนต์ให้ดีกว่า เวย์รน ถึง 25 % เพื่อบรรลุเป้าหมายนี้ ทีมออกแบบและทีมวิศวกรของ บูกัตตี กลับไปตอบโจทย์ร่างภาพเพื่อปรับปรุงใหม่ จากภายในสู่ภายนอก คอนเซพท์การออกแบบถูกทำเป็นโมเดล 3D ในคอมพิวเตอร์ และโมเดลเสมือนจริง เพื่อให้ทีมงานได้รู้ว่า ผลงานที่เสร็จแล้วจะมีหน้าตาอย่างไร สิ่งหนึ่งที่ บูกัตตี ไม่ได้คิดขึ้นใหม่ คือ เครื่องยนต์ที่ยอดเยี่ยม ความจุ 8.0 ลิตร 16 สูบ แบบ เวย์รน แต่อย่างไรก็ตาม มันถูกปรับปรุงในทางที่ดีขึ้น เครื่องยนต์ประกอบด้วยอุปกรณ์ทำมือที่มีความแข็งแรง แต่มีน้ำหนักเบา คือ ไททาเนียม อัลลอย และคาร์บอนไฟเบอร์ ใช้เวลามากกว่า 1 สัปดาห์ที่เครื่องยนต์แต่ละเครื่อง จะถูกประกอบขึ้นทีละชิ้น ภายในห้องที่สะอาดเพื่อป้องกันก้อนกรวดไม่ให้เข้าไปยังชิ้นส่วนที่ต้องเคลื่อนไหว เครื่องยนต์ 16 สูบ ของ ชีรน เหมือนกันกับ เวย์รน แต่มีเทอร์โบชาร์เจอร์ถึง 4 ตัว ดังนั้นพละกำลังจึงมากเป็น 2 เท่า ระบบคลัทช์ที่ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษมี 2 เพลา แข็งแกร่งมากกว่า เวย์รน และรูปแบบนี้จึงทำให้ ชีรน สามารถเร่งความเร็วสูงสุดด้วยพลังไฟฟ้าได้มากกว่า 420 กม./ชม. ระบบเกียร์พร้อมจะเปลี่ยนเป็นเกียร์ถัดไปเสมอเมื่อคุณต้องการโดยไม่เสียจังหวะในการเปลี่ยนเกียร์ ทีมวิศวกรของ บูกัตตี ออกแบบชิ้นส่วนและโครงสร้างตัวถังของ ชีรน โดยคำนึงถึงแรงม้าของเครื่องยนต์สมรรถนะสูงที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมาใหม่ ซึ่งมีพละกำลังมากกว่า เวย์รน เช่นเดียวกับการทดสอบสมรรถนะ ทีมวิศวกรของ บูกัตตี ต้องเตรียมเครื่องมือและอุปกรณ์วัดที่เหมาะสมกับแรงม้าของเครื่องยนต์ สิ่งสำคัญอีกอย่างที่ต้องคิดถึงในการทดสอบ คือ แรงโน้มถ่วง หรือค่าจี และแรงต้านลม หรืออากาศพลศาสตร์ เพื่อสร้างให้ ชีรน โดดเด่นกว่าคู่ต่อสู้ ทีมออกแบบของ บูกัตตี จึงต้องคิดค้นหาวิธีใหม่ๆ เกี่ยวกับกฎของฟิสิคส์เพื่อความได้เปรียบ เพื่อเป็นการชดเชยน้ำหนักรถเปล่าเกือบ 2 ตัน ซึ่งมากกว่ารถทั่วไป โครงรถ ตัวถัง และเครื่องยนต์จึงถูกทำขึ้นจากวัสดุที่ดีที่สุด มีน้ำหนักเบาแต่แข็งแรง ประกอบด้วยเหล็กที่ทนทาน นอททุกตัวผ่านการขันเกลียวด้วยมือ และอุปกรณ์ไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวที่ใช้ คือ ตัวขันนอทไฟฟ้า ประแจสุดไฮเทคนี้จะบันทึกความแน่นของนอท เพื่อความมั่นใจว่ามันมีความแน่นที่เท่ากัน และเก็บข้อมูลนี้ลงในคอมพิวเตอร์ ส่วนของตัวถังถูกประกอบขึ้นจากคาร์บอนไฟเบอร์ความทนทานสูง โดยมีโครงสร้างอลูมิเนียมลักษณะแบบรังผึ้งอยู่ที่ชั้นใน สิ่งที่มีความสำคัญเทียบเท่ากับคุณสมบัติทางกายภาพ แผงหน้าปัดเหล่านี้ คือ การทำงานเมื่อมันถูกประกอบเข้าเป็นตัวรถยนต์ โดยทำให้เป็นแผ่นบางๆ และตกแต่งสีสัน เป็นขั้นตอนที่ใช้เวลานานหลายสัปดาห์ มันจะทำให้ ชีรน มีรูปลักษณ์ที่ดึงดูดทุกสายตา “รูปร่างมาทีหลังสมรรถนะ คือ คติพจน์ของรถคันนี้” ไม่มีอะไรจะอธิบายได้ดีกว่าโครงรถที่มีขนาดกว้างขวาง โดยเฉพาะรูปแบบที่โดดเด่นรูปตัว C ที่โค้งอยู่รอบๆ ประตูแต่ละด้าน การออกแบบเพื่อให้ลดแรงต้านอากาศอย่างเหมาะสม การหักเหอากาศโดยไม่ให้เกิดความปั่นป่วนของอากาศ ทีมวิศวกรทำการศึกษาขนาดของรถในอุโมงค์ลม ดังนั้นพวกเขาจึงทราบว่าลักษณะการเคลื่อนที่ของลมโดยรอบส่วนต่างๆ ของรถยนต์เป็นอย่างไร สิ่งที่แสดงให้เห็น คือ ด้านหน้าของ ชีรน ออกแบบให้ลมสามารถไหลโค้ง ผ่านกระจกหน้าขึ้นไปเป็นทางตรงไม่มากก็น้อย เรียกว่า การไหลแบบลามินาร์ (LAMINAR) เพื่อลดความปั่นป่วนของอากาศ และนำพาลมไปยังด้านหลัง จุดที่เครื่องยนต์ถูกติดตั้งไว้ ปัญหาหลักที่ทีมงาน บูกัตตี ประสบในการออกแบบเครื่องยนต์ให้มีพลังมหาศาลเพียงพอที่จะหมุน 6,700 รตน. คือ เครื่องอาจจะร้อนเกินไปโดยปราศจากระบบระบายความร้อนที่มีประสิทธิภาพ เวย์รน ต้องการหม้อน้ำทั้งหมด 10 ตัว เพื่อให้เครื่องยนต์มีอุณหภูมิต่ำ และสิ่งที่ท้าทาย คือ ชีรน ต้องการมากกว่านั้น ดังนั้นวิศวกรจึงคิดค้นระบบการไหลเวียนของน้ำ ที่สามารถทำให้น้ำ 800 ลิตร ไหลผ่านเครื่องยนต์/1 นาที ได้ อย่างไรก็ตามการลดอุณหภูมิด้วยน้ำยังไม่เพียงพอ การหักเหของอากาศจากด้านหน้าจึงมีประโยชน์ ด้วยรูปแบบตัว C ของแผงข้างรถแต่ละด้านของ ชีรน เป็นการออกแบบช่องรับลมที่แสนอัจฉริยะ จะรับอากาศเข้าไปและผ่านไปยังจุดที่เครื่องยนต์ตั้งอยู่ อากาศจะทำหน้าที่เหมือนพัดลมที่จะนำพาพลังงานความร้อนที่มากเกินไปจากเครื่องยนต์ ก่อนจะถูกดูดออกโดยอาศัยความแตกต่างของความดันที่ด้านหลังรถความท้าทายด้านฟิสิคส์
อุปสรรค คือ การไหลเวียนของอากาศไม่ได้ดีไปทั้งหมดสำหรับซูเพอร์คาร์ เมื่อปะทะเข้ากับวัตถุที่ความเร็วสูง อากาศสามารถยกมันขึ้นจากพื้นได้ ซึ่งคุณจะต้องการมันเมื่อจะบินด้วยเครื่องบิน แต่ไม่ใช่กับรถยนต์ เพียงแค่การละจากพื้นเพียงเล็กน้อย อาจทำให้การควบคุมรถเกิดเป็นอันตรายได้ เพื่อจัดการปัญหานี้ ทีมออกแบบของ บูกัตตี ต้องศึกษาจาก เวย์รน และติดตั้งสปอยเลอร์พับได้ที่ควบคุมโดยคอมพิวเตอร์ จุดประสงค์ของสปอยเลอร์พับ 2 ชั้น เพื่อให้รถยนต์อยู่ติดพื้นเมื่อวิ่งด้วยความเร็วที่สูงขึ้น และลดความเร็วด้านความปลอดภัยเมื่อผู้ขับต้องการจะเบรคที่ความเร็วต่ำ สปอยเลอร์จะอยู่ติดกับท้ายรถ และเมื่อเร่งความเร็ว เซนเซอร์ขนาดเล็กจะส่งสัญญาณไปที่คอมพิวเตอร์บนรถ ซึ่งสามารถปรับระดับสปอยเลอร์ได้ภายในเวลาไม่กี่วินาที เมื่อผู้ขับแตะเบรค สปอยเลอร์จะยกต้านอากาศที่ปะทะกับตัวรถการตรวจสอบครั้งสุดท้าย
เมื่อสีรถแห้งดีแล้ว ชีรน จะถูกล้าง และขัดเคลือบเงาอย่างดีี หลังจากนั้น จะถูกย้ายไปยังพื้นที่พิเศษเพื่อทดสอบกับสภาพฝนตกจำลอง หากไม่พบน้ำที่ด้านใน อุปกรณ์ภายในจะถูกติดตั้งโดยเจ้าหน้าที่ 2 คน ใช้เวลา 3 วัน โดยมีสีหนังแตกต่างกันถึง 23 สี ด้ายเย็บ 31 สี และสายรัดนิรภัย 11 สี ให้เจ้าของเลือกตามใจปรารถนา บูกัตตี จะผลิต ชีรน เพียง 500 คันเท่านั้น ซึ่งการันตีได้เลยว่ารถยนต์จะมีความพิเศษอย่างมาก โดยใช้เวลาผลิต 6-9 เดือน และทดสอบบนถนนกว่า 300 กม. ซึ่งเจ้าของรถไม่ต้องเป็นห่วง เพราะในการทดสอบนอกสถานที่ รถยนต์จะถูกหุ้มด้วยฟอยล์โปร่งใส เพื่อป้องกันรอยขีดข่วน จากนั้น รถจะถูกตรวจสอบละเอียดชนิดมม./มม. ในห้องที่มีแสงสว่าง บูกัตตี ถึงจะอนุญาตให้พิมพ์ยี่ห้อรถลงไป ก่อนจะถูกส่งต่อไปถึงมือเจ้าของใหม่ ซึ่งจะขับเคลื่อนความหรูหราไปอย่างรวดเร็ว และทรงพลังภายในห้องปฏิบัติงาน
มาดูกันว่าภายในห้องปฏิบัติงานของ บูกัตตี ที่เมืองมอลไซม์ มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่น่าตื่นตาตื่นใจเหมือนกับรถยนต์ที่ถูกสร้างมาจากสถานที่นั้นหรือไม่ ?พร้อม และรอคอย
การประกอบชุดเกียร์ในส่วนหน้า พร้อมแล้วในการเชื่อมต่อกับระบบขับเคลื่อนโครงเปล่า
อุปกรณ์ภายในยังไม่ติดตั้งจนกว่าจะถึงขั้นตอนการประกอบที่สมบูรณ์แบบการประกอบเกียร์
ระบบขับเคลื่อนต้องเรียงอยู่ในแนวเดียวกัน ในช่องว่างระหว่างที่นั่งเพื่อเชื่อมต่อไปยังชุดเกียร์ช่วงเวลาสำคัญ
เชื่อมต่อโครงรถยนต์ในส่วนห้องคนขับ หรือตัวถังกับส่วนหลัง ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในขั้นตอนการประกอบความพยายามของทีม
เครื่องยนต์มีน้ำหนักมาก ต้องใช้ทีมงานหลายคนทำงานร่วมกัน เพื่อติดตั้งในจุดที่กำหนดไว้พื้นที่สะอาด
พื้นที่ขนาด 1,000 ตรม. ทำจากเรซินสังเคราะห์ที่สามารถกระจายค่าไฟฟ้าสถิตได้พื้นที่เปิด
มีพื้นที่กว้างระหว่างแต่ละสถานี เพื่อให้ชิ้นส่วนต่างๆ สามารถเคลื่อนที่ได้ โดยไม่ต้องเสี่ยงที่จะชนกับอุปกรณ์ต่างๆเวย์รน ปะทะ ชีรน
บูกัตตี เวย์รน ยังคงเป็นยานยนต์ที่น่าทึ่ง แต่ความคาดหวังก็เพิ่มขึ้นตลอดช่วงทศวรรษ ตั้งแต่มันเข้าสู่กระบวนการผลิต และต่อจากนี้ บูกัตตี จะก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับ ชีรน ซึ่งมีพละกำลังสูงสุดถึง 1,480 แรงม้า เหนือกว่าตัวต้นแบบอย่าง เวย์รน ครึ่งหนึ่ง และยังมีความเร็วสูงสุดที่มากกว่าด้วย จุดที่สะดุดตาของ ชีรน คือ ช่องรับลมที่ยอดเยี่ยมเพื่อลดอุณหภูมิของเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ โดยสร้างแรงต้านอากาศที่เหมาะสมกับรถยนต์ การปรับเปลี่ยนภายใน เช่น ติดตั้งเทอร์โบชาร์เจอร์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพเครื่องยนต์ ใช้วัสดุน้ำหนักเบาภายในเครื่องยนต์ โครงรถ แผงควบคุมและจานเบรคที่เส้นผ่าศูนย์กลางใหญ่และหนากว่า เวย์รน เมื่อทำงานร่วมกันจะทำให้ ชีรน สร้างสถิติใหม่ได้ไม่ยากเครื่องวัดพลังความเร็วทำงานอย่างไร ?
อุปกรณ์ที่วิศวกรใช้เพื่อดูว่าซูเพอร์คาร์สามารถผลิตพลังออกมาได้มากเพียงใดเซนเซอร์
จะอ่านค่าแสดงให้เห็นว่าเครื่องยนต์มีความร้อนมากแค่ไหน และโครงสร้างของรถจะบิดเบี้ยวขนาดไหนเมื่อวิ่งที่ความเร็วสูงการวิเคราะห์ข้อมูล
เครื่องมือวัดพลังจะวัดแรงบิด นั่นคือ เครื่องยนต์จะต้องใช้พลังแค่ไหนในการหมุนล้อตามระดับความเร็วที่ใส่ข้อมูลลงไปทุ่นหมุน
รอบการหมุน จะถูกบันทึกลงคอมพิวเตอร์ เพื่อคำนวณระยะทาง และความเร็วช่องลมและพัดลม
เครื่องปรับอากาศนั้นจำเป็นอย่างยิ่งเพราะเครื่องยนต์จะผลิตความร้อนออกมาเมื่อมันทำงานเต็มกำลังยึดเพื่อความปลอดภัย
รถยนต์ต้องถูกลอคไว้อย่างปลอดภัย เพราะอาจจะต้องทดสอบด้วยการเร่งเครื่องยนต์สูงสุดเป็นเวลาหลายชั่วโมงสถิติที่สำคัญตัวเลขเหล่านี้จะทำให้ บูกัตตี ชีรน ทิ้งรถยนต์คันอื่นๆ ไว้ข้างหลัง
การยึดเกาะที่ดีเยี่ยม
ล้อรถถูกออกแบบโดย มิเชอแลง เพื่อทนทานต่อแรงจี และความร้อนอยู่ติดกับพื้น
สปอยเลอร์จะให้แรงกดรถลงกับพื้นเพื่อรักษาการยึดเกาะกับถนน และไปส่งผลให้เกิดแรงฉุดเร่งความเร็วเครื่องยนต์
ด้วยซูเพอร์ชาร์จ 4 ตัว สามารถหมุนล้อได้ 3,800 รตน. ดังนั้น เครื่องยนต์สามารถหมุนได้ถึง 6,000 รตน. อย่างง่ายดายพลังอากาศ
ช่องลมด้านข้างจะรับอากาศเข้าไปไหลผ่านส่วนโค้งตามโครงกระจกฮาร์ดดิสค์
จานเบรคด้านหลัง เส้นผ่าศูนย์กลาง 400 มม. ในส่วนหน้าในมีขนาด 420 มม.การควบคุมทั้งหมด
ผู้ขับสามารถเข้าถึงทุกฟังค์ชันที่จำเป็น โดยไม่ต้องละมือออกจากพวงมาลัยเลยแม้แต่ข้างเดียวห้องโดยสารแสนสบาย
การออกแบบภายในสุดหรูและมีประสิทธิภาพ ทุกอย่างสามารถเข้าถึงได้อย่างง่ายดาย ทำจากหนังคุณภาพดีและอลูมิเนียมชุบผิวไฟสว่าง
บูกัตตี อ้างว่าไฟหน้า แอลอีดี เป็นรูปแบบที่เข้ากันกับรถยนต์ได้ดีที่สุดเรื่องโดย : HOW IT WORKS MAGAZINE
ภาพโดย : HOW IT WORKS MAGAZINE
นิตยสาร 399 ฉบับเดือน กันยายน ปี 2560
คอลัมน์ Online : เรื่องเด่นจาก GADGET/HOW IT WORKS
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/188010