นิสสัน โนท เป็นอีโคคาร์ รุ่นที่ 3 ของค่าย นิสสัน ต่อจาก มาร์ช และอัลเมรา ตัวถังแฮทช์แบค รุ่นที่เปิดตัวในบ้านเรา คือรุ่นปรับโฉมล่าสุดระยะฐานล้อ 2,600 มม. คือ จุดเด่นของ โนท ทำให้ห้องโดยสารกว้างขวาง เบาะตอนหลังรองรับผู้โดยสาร 3 คนสบายๆ และพับได้แบบ 60:40 อุปกรณ์ใช้สอยจัดเต็ม มีกล้องมองภาพรอบทิศทาง และระบบเบรคอัตโนมัติมาให้ในรุ่นทอพ เครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.2 ลิตร 3 สูบเรียง กำลังสูงสุด 79 แรงม้า จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติแปรผัน ยกชุดมาจาก มาร์ช และอัลเมรา แต่ปรับปรุงหน่วยประมวลผลให้ตอบสนองดีขึ้น อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ยอยู่ที่ 20.0 กม./ลิตร ตามมาตรฐานอีโคคาร์ ฟอร์มูลา : นิสสัน โนท เข้ามาแทนที่ มาร์ช ในรุ่นทอพ มี 2 รุ่น คือ 5.6 แสนบาท และรุ่นทอพ 6.8 แสนบาท ภัทรกิติ์ : โนท ในญี่ปุ่น เครื่องยนต์มี 3 ขนาด คือ 1.2, 1.6 และ 1.8 ลิตรครับ คนทั่วไปมองว่าเหมือน ฮอนดา แจซซ์ เพราะมันอยู่ในเซกเมนท์เดียวกัน หน้าตาจึงคล้ายกัน ฟอร์มูลา : แต่ โนท กว้างกว่านะครับ ถ้าดูจากระยะฐานล้ออยู่ที่ 2,600 มม. กว้างกว่า ฮอนดา แจซซ์ ที่ 2,530 มม. อยู่ 70 มม. หรือประมาณ 7 ซม. ครับ อภิชาต : เป็นรถไซซ์ใหญ่อยู่นะครับ เทียบเท่า โตโยตา โคโรลลา อัลทิส 5-10 มม. นี่ก็ถือว่าใหญ่กว่ากันเยอะนะครับ ฟอร์มูลา : มาดูภายในดีกว่าครับ ความรู้สึกว่ามันคุ้นๆ เหมือนเคยเห็นในอีโคคาร์ร่วมค่ายทั้ง 2 รุ่น ภัทรกิติ์ : ผมว่าคันนี้ดูดีกว่า มาร์ช นะ ถ้าเทียบเรื่องวัสดุกับรถเซกเมนท์สูงกว่า ก็อาจจะแพ้ได้ แต่คันนี้ให้ลูกเล่นเยอะกว่า เจอกล้องรอบตัว ก็จบแล้วครับ อภิชาต : ใช่ครับ สิ่งที่มีให้เป็นออพชันเสริม ทำให้สินค้าดูแตกต่าง ภัทรกิติ์ : คันนี้มีระบบเบรคอัตโนมัติด้วย ผมว่าเป็นระบบที่ดีมาก ใครที่ไม่มี ไม่เคยลองใช้ จะไม่รู้คุณค่า จนกว่าจะได้ใช้ วัสดุภายในบางชิ้นใช้ร่วมกันกับ มาร์ช อาทิ หน้าปัด หัวเกียร์ และมือเปิดประตู อภิชาต : ของแบบนี้อะไรที่ประหยัดได้ เขาก็จะใช้ร่วมกัน ทำให้สามารถทำราคาให้ถูกลง ถือเป็นจุดขายอย่างหนึ่ง ผมว่าการออกแบบภายในเป็นการผสมผสานระหว่างของเก่า กับของใหม่ ภัทรกิติ์ : ถามว่ามันแย่หรือเปล่า ผมว่าไม่แย่นะ ดูเตะตา อย่าไปคิดว่าคนที่ซื้อคันนี้คือคนที่อัพเกรดมาจาก มาร์ช สิครับ เขาอาจมาจากค่ายอื่น ซึ่งก็คือของใหม่สำหรับเขา ที่ชูจุดเด่นเรื่องความกว้างขวาง นั่งสบาย อภิชาต : ผมมองเทียบมูลค่าเงินอย่างเดียว การนำชิ้นส่วนของ มาร์ช มา มันอาจจะทำให้รูปลักษณ์ดูด้อยลงไปนิดหนึ่ง เหมือนกับว่าเราบวกเงินขึ้นเป็นแสนบาท แต่ได้ของคล้ายๆ เดิม ไม่แน่ใจว่าหัวหน้าทีมออกแบบของ นิสสัน คิดอะไรอยู่ น่าจะมีความหวือหวากว่านี้ ภายนอกดูดีขนาดนั้น ทำไมไม่ยอมจัดภายในให้มันถึงใจอีกสักหน่อย ถ้าเราออกแบบภายในด้วยเส้นสายใหม่ๆ เส้นสายภายในทุกตัวต้องเปลี่ยนใหม่อยู่แล้ว ตรงประตูก็ต้องเปลี่ยน ในเมื่อภายนอกมันสวยมีคาแรคเตอร์ พอก้าวไปภายในรถ เราย่อมโหยหาอะไรที่เหมือนภายนอก ภายนอกดูแรง แต่ภายในมันดูจืดมาก ฟอร์มูลา : คนออกแบบภายในกับภายนอกมันคนละทีมกันครับ อภิชาต : รถไซซ์ มีนี คอมแพคท์คาร์ การออกแบบจะดูน่าเบื่อไม่ได้ มันต้องสดใส เห็นแล้วต้องร้อง ว้าว ผมถึงบอกว่าภายนอกมันใช่ เราก็คาดหวังไปถึงภายใน ภัทรกิติ์ : ใช่ครับ เส้นสายภายนอกถือว่ามีความพิถีพิถันในการออกแบบ เรารู้สึกอิ่มเอมไปกับสิ่งที่เห็นภายนอก โดยเฉพาะเส้นสายกันชนหลังที่ตัดเป็นสัน จุดนี้ต้นกำเนิดมาจาก คริส เบงเกิล เขาเป็นริเริ่มทฤษฎีพับจับจีบเสื้อ อภิชาต : คะแนนภายนอก ผมให้ 9.5 เต็ม 10 เลย ไม่ใช่ใครจะออกแบบได้นะ คือ มันมีที่มาที่ไป จากตรงนั้นถึงตรงนี้ นับเป็นความพิถีพิถันไปการออกแบบ ถือว่าชนะเลิศ ในสายตาของนักออกแบบ ตัวตัดเส้นด้านข้าง ดูลงตัวทุกอย่าง เส้นสายทุกเส้นวิ่งไปมาแบบมีจุดจบ ถามหน่อยว่าถ้าเจอเส้นตัดแบบนี้ แล้วไปเจอภายในแบบนี้จะให้พูดว่าอย่างไรครับ ถ้าเป็นผม ผมขอให้ออกแบบภายในใหม่ ถึงมีราคาเป็นตัวกำหนด ก็ต้องทำครับ ผมไม่เถียงว่าเราอาจดึงชิ้นส่วนบางอย่างจาก มาร์ช มา แต่ก็ควรจะออกแบบให้ดีกว่า ภัทรกิติ์ : คุณคิดว่าคนกลุ่มไหน ที่ควรจะซื้อรถคันนี้ แล้วควรมีอายุเท่าไรครับ อภิชาต : ผมว่าไม่ใช่วัยรุ่นแน่นอน น่าจะทำงานแล้วสัก 4-5 ปี และดูเหมาะกับผู้หญิงสูงวัยหน่อย ฟอร์มูลา : แต่การโฆษณาดูวัยรุ่น สนุกสนาน ใช้ดีเจพุฒ เป็นพรีเซนเตอร์ ภัทรกิติ์ : ใช่ครับ เน้น สปอร์ท คล่องแคล่ว ว่องไว ซึ่งจริงๆ มันไม่ใช่ มันเป็นรถสำหรับผู้หญิงทำงาน มีความสุข เริ่มมีครอบครัว ควรจะเป็นสีชมพู หรือสีอ่อนๆ พรีเซนเตอร์น่าจะเป็นคุณแม่รุ่นใหม่ที่มีลูกเล็กๆ จะเหมาะสมกว่า
บทความแนะนำ