ขับรถข้ามสะพานซุง อาจมองว่าง่าย แต่ใช่ว่าใครๆ ก็ทำได้ เพราะต้องใช้ความระมัดระวังและเทคนิคเป็นพิเศษ มีอะไรบ้าง ไปติดตามกัน
เดินสำรวจ ประเมินสภาพท่อนซุง ว่ารถของเราจะผ่านไปได้หรือไม่ รวมถึงพื้นผิวหน้าสัมผัสของท่อนซุง ที่มักมีตะไคร่และโคลนติดอยู่ อาจทำให้รถลื่นไถลได้ อีกทั้งต้องคาดคะเนหน้ากว้างและระยะห่างของท่อนซุงให้พอดีกับล้อทั้ง 2 ฝั่ง หากไม่แน่ใจ ให้เลี่ยงดีกว่า
ขับรถให้ช้าที่สุด ใช้รอบเครื่องสม่ำเสมอ ไม่เบรคหรือเร่งกะทันหัน เพราะจะทำให้รถเสียการทรงตัว ตกสะพานซุง และแต่งทิศทางพวงมาลัย ให้ล้ออยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้องตามผู้บอกไลน์ แต่ต้องระวังสะพานซุงที่มีลักษณะทิศทางโค้ง เพราะล้อหลังอาจตกทางได้
ให้เพื่อนร่วมทางเป็นผู้บอกไลน์ โดยเดินข้ามสะพานซุงไปก่อน แล้วหันหน้าเข้ารถ ใช้สัญญาณมือบอกทิศทางผู้ขับ เช่น เลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวา เดินหน้า หยุดรถ หากเป็นเวลากลางคืนให้เปิดไฟหรี่ เพื่อไม่ให้ไฟไปแยงตาคนบอกไลน์ ส่วนคนบอกไลน์ต้องใช้ไฟฉาย ส่องดูที่ล้อทั้ง 4 ข้างด้วย
การขับรถเข้าพื้นที่เป็นหมู่คณะ แล้วต้องข้ามสะพานซุง ต้องขับข้ามไปทีละคัน ให้ล้อหลังรถคันหน้า ขึ้นไปก่อน แล้วจึงขับตาม ป้องกันท่อนซุงหัก และคนขับยังมองเห็นทางข้างหน้าได้ชัดเจน นอกจากนี้หากเกิดอุบัติเหตุ รถที่ยังไม่ได้ข้ามก็สามารถช่วยเหลือรถที่ตกลงไปได้อีกด้วย
ถ้าไปคนเดียว ให้ขับรถไปจ่อที่ท่อนซุง ให้ล้อตรงกับท่อนซุงโดยยึดแนวล้อด้านขวาไว้ แล้วลงจากรถเดินดูท่อนซุงว่าเป็นลักษณะอย่างไร พอดีกับช่วงล้อหรือปลอดภัยพอที่จะขับผ่านไปหรือไม่ และค่อยๆ ขับข้ามไป โดยชะโงกศีรษะออกมาเล็งตำแหน่งของล้อ และบังคับทิศทางพวงมาลัยไปพร้อมๆ กัน 
