อะไหล่ทุกชิ้นมีอายุการใช้งาน เมื่อเสียก็ต้องซ่อม ซ่อมไม่ได้ก็ต้องเปลี่ยน ซึ่งในรถยนต์หนึ่งคัน มีชิ้นส่วนประกอบเป็นหมื่นชิ้น และมาจากหลากหลายแหล่ง "ฟอร์มูลา" สนทนาธุรกิจกับ ไดสเลอร์ โคห์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แซดเอฟ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายชิ้นส่วนและอะไหล่รถยนต์ ภายใต้บแรนด์ แซคส์ และ เลมฟอร์เดอร์ฟอร์มูลา : แซดเอฟ (ประเทศไทย) ฯ เปิดดำเนินการตั้งแต่เมื่อใด ? โคห์ : บริษัท แซดเอฟ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดดำเนินการตั้งแต่ปี 2541 โดยดำเนินธุรกิจเป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายชิ้นส่วนรถยนต์ เช่น เกียร์ และระบบช่วงล่าง พร้อมดูแลการบริการหลังการขายให้แก่ลูกค้า ฟอร์มูลา : กลุ่มลูกค้าของ แซดเอฟ (ประเทศไทย) ฯ คือกลุ่มใด ? โคห์ : กลุ่มลูกค้าของเรา จะแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่ คือ กลุ่ม OEM เป็นลูกค้าที่ใช้เกียร์และระบบช่วงล่าง เช่น อีซูซุ เมร์เซเดส-เบนซ์ รวมถึงรถบรรทุกขนาดใหญ่ รถบัส ที่มีลูกค้าหลักคือ เชิดชัย และนครชัยแอร์ ส่วนลูกค้าอีกกลุ่มหนึ่งจะเป็นกลุ่มร้านค้าตัวแทนจำหน่าย ฟอร์มูลา : สินค้าที่ได้รับความนิยมที่สุด คืออะไร ? โคห์ : สินค้าหลักของเรา คือ ระบบเกียร์ และระบบช่วงล่าง โดยล่าสุดเมื่อปีที่แล้ว ได้เปิดตัวระบบเกียร์ อีโคไลฟ์ ที่ใช้กับรถบัส รถเมล์ ขสมก. รถทัวร์ เป็นเกียร์อัตโนมัติที่สามารถประหยัดน้ำมัน ใช้เทคโนโลยีทำให้เสียงเบา เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพราะสามารถใช้งานได้นานมากขึ้นกว่าเดิม ทำให้ต้นทุนต่ำ นอกจากนี้ยังมีในส่วนของน้ำมันเกียร์พิเศษ สามารถเปลี่ยนครั้งหนึ่งใช้ได้นานถึง 240,000 กิโลเมตร ฟอร์มูลา : จุดเด่นของ แซดเอฟ ฯ ที่เหนือกว่าคู่แข่ง ? โคห์ : เราได้เข้ามาตั้งบริษัท ฯ ในประเทศไทย เพื่อให้บริการลูกค้าทั้งก่อนและหลังการขาย โดยส่วนใหญ่บริษัทคู่แข่งจะไม่มีสาขาในประเทศไทย ทำให้การบริการล่าช้า และไม่คล่องตัว การสื่อสารข้อมูลต่างๆ อาจจะไม่ครบถ้วน และสิ่งสำคัญที่สุดคือ การสตอคอะไหล่ ที่สามารถให้บริการได้อย่างรวดเร็ว เพราะในบางครั้งการต้องรออะไหล่เป็นเวลานาน มีผลกระทบในแง่ของธุรกิจ ฟอร์มูลา : นโยบายและแผนงานรุกตลาด ? โคห์ : การรุกตลาดของเรา จะเน้นการทำตลาดร่วมกับ OEM โดยจับมือร่วมกับบริษัทผู้ผลิตรถยนต์โดยตรง เพราะลูกค้าเหล่านี้จะเป็นกลุ่มที่ใช้ผลิตภัณฑ์ที่เราเป็นผู้จัดจำหน่าย ทำให้มีการประสานงานตั้งแต่เริ่มแรก ดังนั้นเมื่อมาเปิดบริษัท ฯ ในประเทศไทย ทำให้ลูกค้ามาใช้บริการโดยอัตโนมัติ