ร่มไม้ชายศาล
คดโกงคนจน
พอเอ่ยคำว่า การศึกษา คนบ้านเราพากันขมวดคิ้วนิ่วหน้า รู้ว่า "มีปัญหาชนิดแก้ไม่ตก" จนล้าหลังกว่าประเทศเพื่อนบ้านไปซะแล้ว ไม่ต้องเทียบกับฝรั่ง ฟู่ฟ่าอยู่อย่างเดียว คือ การ "กวดวิชา" แต่ละสำนักรวยสะดือปลิ้นแล้วปลิ้นอีก ขณะที่พ่อแม่ผู้ปกครองกัดฟันหาเงินจ่ายจนหน้ามืดไปตามๆ กัน ผมเป็นเด็กวัยรุ่นเมื่อ 50 กว่าปีที่ผ่านมา เผอิญชอบอ่านหนังสือในห้องสมุด เช่น ประวัติบุคคลสำคัญ จึงเกิด "จินตนาการ" ต่างๆ และรู้เองว่า ถ้าตูไม่เรียนหนังสือเยอะหน่อย ยากที่จะ "สานฝัน" ใดๆ ได้สำเร็จ มีหนทางเดียวจริงๆ จึงเรียน และเรียน สอบนั่น สอบนี่ ไม่ต้องมีใครบังคับ ตาเจ็บข้างหนึ่ง ยังเอาผ้าพันแผลปิดไว้ ใช้ตาข้างเดียวดูหนังสือจนดึกดื่น ไม่มีรายการกวดวิชาอย่างเดี๋ยวนี้ ผลจากการเรียนเป็นใบเบิกทางให้มีหน้าที่การงานตามสมควร พอจะพูดได้ว่า "ไม่เสียชาติเกิด" เด็กทุกวันนี้ก็เช่นกัน ถ้ามุ่งมั่นเติมเต็มความฝันซะอย่าง แม้ระบบการศึกษาของเราจะอย่างไรก็แล้วแต่ เอาตัวรอดได้ เชื่อเถอะ
เอ่ยถึงการศึกษาขึ้นมาดื้อๆ เพราะเจอคดีที่พาดพิงถึงการศึกษา ซึ่งเกี่ยวพันกับ "เงินตรา" จำนวนน้อยนิด แต่มีความหมายต่อ "ครู" ต่อ ผู้ปกครอง พอฟัดพอเหวี่ยงกัน จนต้องขึ้นโรงขึ้นศาล เห็นข้อเท็จจริงแล้วบอกตรงว่าผมนั่งทอดถอนใจ ช่างเกิดขึ้นได้ ใครหมู่ใครจ่า ตามไปดูได้เลย
นางเงินมาก ถ้าแกมีเงินมากเหมือนชื่อ โรงศาลคงไม่งานเข้า เมื่อคุณครู คือ นางดีกรี ตามทวงสตางค์จำนวน 2,200 บาท ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ขณะที่ยังขัดสน จึงกลุ้มเป็นกำลัง สุดท้ายขอดมาได้ครบ จึงกำเงินจนเหงื่อชุ่มไปหา นางดีกรี บอกว่าจะจ่าย แต่ขอใบเสร็จของทางโรงเรียน ตามที่ ครูดีกรี ยืนยันจะออกให้ รวมแล้ว 1 หมื่นบาท เพราะครั้งแรกจ่ายไป 5 พันบาทเท่าที่มีอยู่ ครั้งที่ 2 กัดฟันหยิบยืมเงินญาติจ่ายอีก 2,800 บาท ขาดอยู่ 2,200 บาท แล้วโดนทวงเช้าทวงเย็น
นางดีกรี ชื่อเหมาะมาก เห็นท่าไม่ดี เพราะ นางเงินมาก ตามถึงโรงเรียน กลัวเรื่องแดง จึงฉากหลบ บอกว่าไม่เกี่ยว ไม่เคยรับเงิน 7,800 บาท จาก นางเงินมาก ขี้ตู่ชัดๆ
นางเงินมาก เห็นท่าไม่ดีเหมือนกัน เมื่อเจอไม้นี้ จึงเข้าหาครูใหญ่ แจกแจงว่า วันนี้นำเงินเป็นค่าบริจาคหยดสุดท้าย 2,200 บาท รวมแล้ว คือ 1 หมื่นบาท สำหรับกรณีที่ ดช. รัฐมนตรี หลานชายของฉันได้รับการช่วยเหลือให้เข้าเรียนชั้นมัธยม 1 ของโรงเรียนนี้ โดยมี คุณครูดีกรี จัดแจง เธอรับไปแล้ว 7,800 บาท ครูใหญ่ หรือผอ. ที่เขาเรียกกันในสมัยนี้ ร้อง
หา มีอย่างนั้นด้วยเหรอ หลานของยาย ชื่อเป็นมงคลชะมัด ได้เข้าเรียนตามโครงการรับนักเรียนในพื้นที่เขตบริการ ซึ่งยังไม่มีที่เรียน ไม่ต้องจ่ายอะไรนี่นา นางเงินมาก ถึงกับตบอกผาง ร้องออกมาเหมือนกัน
หา มีอย่างนั้นด้วยเหรอ แสดงว่า ครูดีกรี หลอกเงินฉันไปกินฟรีนะสิ
เมื่อเงินทองมีค่าสำหรับ นางเงินมาก เพราะมีเงินน้อยเป็นอาจิณ เรื่องจึงถึงโรงพัก เลยไปที่อัยการ เลี้ยวซ้ายไปศาล โดยไม่ติดขัด นางดีกรี เจอข้อหาฉ้อโกงทรัพย์ เธอจำเป็นต้องสู้คดี เพราะคุกรออยู่
ยกแรกศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วเห็นว่า นางเงินมาก ติดสินบน ให้ ครูดีกรี ทำผิดกฎหมาย จึงไม่ใช่ผู้เสียหายโดยนิตินัย อัยการนำคดีพรรค์อย่างนี้มาฟ้องไม่ได้หรอก ตัดสินยกฟ้อง จำเลย คือ นางดีกรี ยิ้มออก
ขึ้นยกสอง ศาลอุทธรณ์อ่านสำนวนแบบสบายๆ ในห้องทำงาน ไม่ได้เห็นหน้าค่าตาคู่ความแล้วมองว่า นางเงินมากไม่ได้ติดสินบน แกเข้าใจตามที่ ครูดีกรี บอกให้บริจาคเงินแก่โรงเรียน ความจริง นางดีกรี หลอกลวงหรือ "ตกเบ็ด" เอาเงินไปกินฟรี เพราะรู้อยู่แล้วว่า ดช. รัฐมนตรี หลานของ นางเงินมาก ได้เข้าเรียน ไม่ต้องเสียสตางค์ ฟังว่าเป็นการฉ้อโกง พิพากษากลับ ลงโทษจำคุก 3 เดือน บังคับให้คืนเงิน 7,800 บาท แก่ผู้เสียหาย
หน้าซีดเป็นไก่ทาขมิ้นสิทีนี้ นางวิชาการ ดิ้นรนเฮือกสุดท้าย ด้วยการยื่นฎีกา ขอให้ศาลยกฟ้อง
ศาลฎีกาเพ่งดูสำนวนที่มาถึงคิวด้วยความเมื่อยล้า แล้วชี้ขาดออกมา
จำเลยหลอกลวงผู้เสียหายว่า สามารถฝากหลานของผู้เสียหายเข้าเรียนได้ เนื่องจากจำเลยเป็นกรรมการชมรมผู้ปกครองและครูของโรงเรียน แต่ นางเงินมาก ต้องบริจาคเงินให้โรงเรียน 10,000 บาท จะออกใบเสร็จรับเงินให้ อันเป็นความเท็จ นางเงินมาก หลงเชื่อ มอบเงินให้จำเลยไป 7,800 บาท ความจริงทางโรงเรียนไม่ได้รู้เรื่องการเรียกรับเงินจาก นางเงินมาก หลานชายเข้าเรียนได้อยู่แล้ว ตามนโยบายของกรมสามัญศึกษา ให้รับนักเรียนในเขตพื้นที่บริการซึ่งยังไม่มีที่เรียน นางดีกรี มีความผิดฐานฉ้อโกง เพราะ นางเงินมาก ไม่ได้ติดสินบน หรือมอบเงินให้นำไปกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งที่ผิดกฎหมาย นางเงินมาก จึงเป็นผู้เสียหายโดยนิตินัย พนักงานอัยการฟ้องร้องเอาผิดได้สบาย
ศาลฎีกาจึงยอมเมื่อยอีกหน พิพากษายืนตามที่ศาลอุทธรณ์ว่าไว้ ให้ นางดีกรี ติดคุก 3 เดือน หมดอนาคตไปเลย
การตีความว่า ติดสินบนแล้วไม่เอาผิดคนชั่ว อันตรายเหมือนกันนะเอ้อ งานนี้สอนให้รู้ว่า "คดโกงคนจน" อย่าคิดว่าหวานคอแร้ง เงินทองสำหรับเขา มีความหมายทุกบาททุกสตางค์ ดูคดีนี้เป็นตัวอย่างก็แล้วกันนะ
จากคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8758/2554
เรื่องโดย : จอมยุทธ
นิตยสาร 399 ฉบับเดือน สิงหาคม ปี 2557
คอลัมน์ Online : ร่มไม้ชายศาล
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/16973