สตาร์ทอัพ เทคโนโลยีสุดล้ำ
โดยปกติ แอคชันคาเมรา GOPRO จะถูกใช้ควบคู่กับดโรน ดังนั้น GOPRO จึงตัดสินใจผลิตเองทั้งสองอย่างดโรนตัวแรกที่ GOPRO ได้ปลุกปั้นมากว่า 1 ปี มีชื่อว่า KARMA และนับเป็นอุปกรณ์เสริมพิเศษของ GOPRO
ดังนั้น คุณจึงควรซื้อ KARMA แทนที่จะเป็น DJI หรือ PARROT เพราะมันถูกออกแบบมาให้พกพาง่าย สามารถพับเก็บใส่เคสขนาดใหญ่ และแบกขึ้นหลังได้ หากไหล่คุณกว้างพอ
นอกจากนั้น คุณจะได้วีดีโอที่สวยงามโดยใช้กิมบอลแบบ 3 แกน และอุปกรณ์เสริมต่างๆ ที่สามารถใช้ร่วมกับดโรนได้ ไม่ว่าจะเป็นมือถือ หรือสะพายบนไหล่ ส่วนอุปกรณ์ควบคุม KARMA คือ จอยสติคที่มาพร้อมจอแสดงผลระบบสัมผัส ซึ่งเหมาะสำหรับ GOPRO ทุกรุ่น
KARMA ไม่มีระบบ SENSE AND AVOID หรือระบบที่ช่วยในการติดตามตำแหน่ง แต่มันสามารถลงจอดได้ด้วยตัวเอง หากแบทเตอรีใกล้หมด
จุดขายที่น่าสนใจอีกอย่าง คือ KARMA ทำงานสอดคล้องกับกล้อง GOPRO HERO 5 (หรือ HERO 4) และหากซื้อทั้งกล้อง และดโรนพร้อมกัน คุณจะสามารถประหยัดเงินได้ระดับหนึ่ง ตัวดโรนพร้อมกับอุปกรณ์เสริมและเคสสำหรับพกพา ราคาอยู่ที่ 720 ปอนด์ หรือ 800 เหรียญสหรัฐฯ
HERO 5 เปิดตัวแล้ว
GOPRO เปิดตัวกล้อง 2 ตัวใหม่ พร้อมกับ KARMA HERO 5 (ใช้กับดโรนได้) และ HERO 5 SESSION เป็น GOPRO 2 ตัวแรกที่กันน้ำอย่างเต็มรูปแบบโดยไม่ต้องมีกรอบ และทั้ง 2 รุ่นสามารถบันทึกวีดีโอ 4K ที่ 30 เฟรม/วินาทีได้ โมเดล BLACK มีอัตราการแสดงภาพเคลื่อนไหวที่สูง และมีความละเอียดในการแสดงผลของภาพปกติที่ต่ำกว่า พร้อมกับจอแสดงผลแบบสัมผัส ผู้ใช้จะได้ไม่สับสนว่ามันกำลังจับภาพไปที่ใด และเมื่อติดเข้ากับ KARMA คุณก็สามารถควบคุมกล้องผ่านแอพพลิเคชันของ GOPRO ได้
เกราะน้ำหนักเบา
GOPRO ดโรน มีน้ำหนักเพียง 1,006 กรัม จึงเบาพอที่จะแบกขึ้นหลัง หรืออาจจะใส่ในกระเป๋าที่หาซื้อเพิ่มเติมได้
ระยะทางและความเร็ว
KARMA มีความเร็วสูงสุด 56 กม./ชม. และสามารถเดินทางได้ไกลสุด 1 กม.
แขนพับได้
แม้จะไม่ใช่ดโรนที่เล็กสุดในโลก แต่แขนและอุปกรณ์ลงจอดสามารถพับได้ โดยมีความกว้างน้อยกว่า 23 ซม. สะดวกต่อการเก็บ
ออพชันที่ได้
ดโรนมาพร้อมกับอุปกรณ์ควบคุม เคส และด้ามจับที่มั่นคงเป็นอุปกรณ์เสริม แต่คุณต้องจ่ายเงินเพิ่มหากต้องการซื้อกล้องด้วย
ใช้งานด้วยปุ่มเดียว
ในการนำเครื่องขึ้นและลงจอดเป็นช่วงที่อันตรายที่สุดของการบินดโรน แต่ GOPRO สามารถรับมือได้โดยปุ่มเดียวบนอุปกรณ์ควบคุม
ออกแบบมาให้พกพาง่ายที่สุด