รถยนต์ในยุคคลาสสิค จุดเด่นที่เห็นได้ชัดโดยเฉพาะรถยุคก่อนทศวรรษ 70 คือ รูปลักษณ์ทรงจรวด ที่ได้รับอิทธิพลจากกระแสเทคโนโลยีด้านอวกาศ มีความโค้ง และความคมคายของจีบต่างๆ ไฟหน้าฝังอยู่ในตัวรถ กระทะล้อเหล็ก หรืออลูมิเนียม ยางหน้ากว้าง รองรับเครื่องยนต์สมรรถนะสูง รถยนต์ที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นคลาสสิคคาร์ ส่วนใหญ่จะใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย และมีราคาแพงสไปเดอร์ เริ่มเดินสายการผลิตเมื่อปี 1966 และเผยโฉมครั้งแรกที่งานมหกรรมยานยนต์เจนีวาในปีเดียวกัน โฉมแรก คือ รุ่น 1600 สไปเดอร์ มีด้านหน้า และบั้นท้ายที่กลมมน จึงถูกเรียกว่า ดูเอตโต ตามแนวเพลงที่มีสไตล์กลมกล่อม อันที่จริง ปินินฟารีนา ได้สร้างต้นแบบของรถรุ่นนี้ตั้งแต่ปี 1956 แล้ว เพื่อใช้ในการแข่งขัน และในปี 1961 ที่งานมหกรรมยานยนต์ตูริน เป็นรถสปอร์ทขนาดเล็ก สำหรับการทำตลาดแบบแรกที่เกิดขึ้นในชื่อยาวแสนยาวว่า จูลิเอตตา เอสเอส สไปเดอร์ สเปเชียล แอโรไดนามิค ก่อนจะมาเป็น 1600 สไปเดอร์ ต่อมาได้มีการเพิ่มขนาดเครื่องยนต์เป็น 1,750 และ 2,000 ซีซี ทั้งยังปรับโฉมใหญ่อีกถึง 2 ครั้ง และเปลี่ยนชื่อเรียกเป็น สไปเดอร์ เวโลเซ (VELOCE) ก่อนจะยุติการผลิตลงในปี 1993 1600 สไปเดอร์ ดูเอตโต รูปทรงหัว/ท้ายมน ที่เรียกกันว่า โบทเทล (BOAT TAIL) แต่คนไทยมักเรียกว่า ท้ายแมลงสาบ เป็นเอกลักษณ์ของรุ่นนี้ กันชนหน้ามีไฟเลี้ยวซ่อนไว้อยู่ด้านใน และหลังคาเปิดประทุนได้ ภายในได้รับการดูแลรักษาอย่างดี เบาะหนังสีดำเงา พวงมาลัย 3 ก้านโครเมียม แผงหน้าปัดทรงกลมสีดำขนาดใหญ่มองเห็นได้ชัดเจน แม้รูปร่างรถยนต์คันนี้จะมีขนาดเล็ก แต่ด้วยเครื่องยนต์ขนาด 1,570 ซีซี 109 แรงม้า จึงสามารถทำความเร็วได้ถึง 180 กม./ชม. [table]
บทความแนะนำ